บทที่ 11 ยันกันต่อหน้า
“อะไรนะ?”โหวหนานหยางสีหน้าเปลี่ยน มองไปข้างนอกทันที
ตรงประตูห้องโถงมีเสียงร้องโอดครวญดังมา บ่าวรับใช้ที่หมายจะขวางทางไว้ต่างล้มลงบนพื้น
ในมือของเซียวลิ่งเยว่ลากโจรที่สลบไสลอยู่เดินผ่านบ่าวรับใช้ที่กำลังร้องโอดครวญเข้ามาในห้องโถง
นางยกมือขึ้นแล้วโยนลง“ปึง!”
ลูกพี่ใหญ่ของโจรกระแทกลงพื้นกลางห้องโถง และกลิ้งอยู่สองรอบ
แขกเหรื่อในห้องโถงตกใจ ฮูหยินคนไหนที่ขวัญอ่อนก็ร้องกรี้ดขึ้น“อร้าย…..”
โหวหนานหยางกับฮัวอี๋เหนียงสีหน้าเปลี่ยน
“เจ้าเป็นใคร? คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเข้ามาในจวนโหว!”โหวหนานหยางตำหนิด้วยสีหน้าอึมครึม
เซียวลิ่งเยว่แสยะยิ้มมุมปาก พูดว่า“ท่านพ่อ ท่านจำข้าไม่ได้แล้วหรือ? ข้าคือเสิ่นหว่านเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ?”โหวหนานหยางยังมึนงงกับคำพูดของนาง ทว่าฮัวอี๋เหนียงกลับพูดขึ้นมาเสียงดัง!
นางตกใจและลุกลี้ลุกลนถามว่า“เจ้า เจ้าเป็นใครนะ?”
“อี๋เหนียง ข้าคือเสิ่นหว่านเจ้าค่ะ”เซียวลิ่งเยว่ดึงผ้าคลุมออก ให้เห็นหน้าข้างซ้ายครึ่งหนึ่งของตัวเอง
ส่วนหน้าข้างขวา กลับมีปานสีดำ อัปลักษณ์เป็นอย่างมาก
“นางคือคุณหนูสามที่ถูกเอาไปเลี้ยงแถวชนบทตั้งแต่เด็กใช่หรือไม่?”
แขกเหรื่อตกตะลึง กระซิบกระซาบกันอยู่เป็นนิจ
“คนที่ดวงชะตาไม่ดี ข่มพ่อข่มแม่คนนั้นนะหรือ?”
“ใช่ นางกลับมาได้อย่างไร?”
“คุณหนูสามเสิ่นอัปลักษณ์มาก ได้ยินว่ามีการหมั้นหมายกับจวนโหวเจิ้นเป่ยด้วย น่าสงสารผู้ชายคนนั้นจริงๆ……”
“นั่นนะสิ”
ฮัวอี๋เหนียงเห็นปานที่ใบหน้าของ“เสิ่นหว่าน” นางใจเต้นระรัว ถามด้วยความหวาดระแวงว่า“เจ้ากลับมาได้ยังไง?”
“อี๋เหนียงส่งคนไป’รับ’ข้าไม่ใช่หรือ?”เซียวลิ่งเยว่พูดด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ
ฮัวอี๋เหนียงสายตาลอกแลก”……..”
“เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว เหตุใดต้องลากคนตายมาด้วย! วันนี้เป็นงานวันเกิดของท่านโหวอาวุโส เจ้าจงใจทำแบบนี้หมายความว่ายังไง!”โหวหนานหยางตะคอกตำหนิ
ท่านโหวอาวุโสสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองเซียวลิ่งเยว่ด้วยสายตาเย็นชา
“ท่านพ่อเข้าใจผิดแล้ว เขายังไม่ตายเจ้าค่ะ!”
เซียวลิ่งเยว่เดินมาถีบโจร และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เจ้าจะแกล้งตายหรือ?”
ลูกพี่ของโจรเจ็บจนร้องออกมา เขาแกล้งสลบต่อไปไม่ไหวแล้ว”แม่นางไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้า ข้าไม่กล้าอีกแล้ว…….”
“ไม่ต้องมาอ้อนวอนข้า เจ้าเงยหน้าดู ที่นี่มีคนที่เจ้าคุ้นเคยหรือไม่”เซียวลิ่งเยว่พูดออกมาอย่างมั่นใจ
มือและขาของโจรถูกมัดไว้แน่น พอได้ยินคำพูดนี้ถึงกับชะงัก
ฮัวอี๋เหนียงรู้สึกไม่ชอบมาพากล รีบไปหลบข้างหลังโหวหนานหยางทันที
แต่ช้าไปแล้วหนึ่งก้าว
โจรเงยหน้าขึ้น และมองไปทางฮัวอี๋เหนียงที่แต่งตัวดูดี“ท่าน!”
ฮัวอี๋เหนียงตกใจ รีบบอกปัดว่า“ไม่ใช่ข้า!”
ทุกคน”…….”
“ข้าจำท่านได้ ท่านบอกว่าท่านเป็นฮูหยินของจวนโหว! ฮูหยิน ท่านรีบช่วยข้าเร็ว ข้าไปคนช่วยท่านจัดการภารกิจ!”โจรหวาดกลัวเซียวลิ่งเยว่ พอเห็นฮัวอี๋เหนียงที่เป็นจอมบงการ ก็เลยตะโกนออกมาโดยไม่คิดอะไร
สายตาของทุกคนที่อยู่ในห้องโถงมองไปทางฮัวอี๋เหนียง
นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พิจารณาและแปลกใจ
“พูดเหลวไหล ข้าไม่เคยเจอเจ้า! ใครสั่งให้เจ้ามาใส่ร้ายป้ายสีข้า?”ฮัวอี๋เหนียงพูดด้วยความเดือดดาล
ลูกพี่โจรจ้องเขม็งมอง“ท่าน……”
โหวหนานหยางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบตะคอกว่า“เสิ่นหว่าน เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เซียวลิ่งเยว่มองเขาด้วยสายตาไร้เดียงสา “ท่านพ่อ คำพูดนี้ท่านควรจะเอาไปถามฮัวอี๋เหนียงนะเจ้าคะ วันนี้ข้าเพิ่งจะเข้ามาเมืองหลวง ก็เจอเข้ากับกลุ่มโจรแล้ว พวกเขาบอกกับข้าว่าฮัวอี๋เหนียงสั่งพวกเขามาว่าต้องการหัวของข้า! ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าเลยจับเป็นพวกเขา แล้วเอามาคุมเชิงกับฮัวอี๋เหนียง”
โหวหนานหยางอึ้ง และตะคอกด้วยน้ำเสียงเดือดดาลขึ้นอีก“คำพูดของโจรเจ้าก็เชื่อหรือ? ข้าว่าเจ้าถูกเลี้ยงจนโง่แล้วแบบนี้!”
“เพราะว่าข้าไม่เชื่อ ข้าถึงได้เอาคนกลับมายันกันกับฮัวอี๋เหนียงอย่างไรล่ะเจ้าคะ!”
เซียวลิ่งเยว่พูดอย่างคลุมเครือ นางมองไปรอบๆ และพูดว่า“ทุกท่านต่างเป็นขุนนาง ฉลาดหลักแหลม คาดว่าผู้ใดโกหก ทุกท่านก็น่าจะดูออกใช่หรือไม่?”
“ข้าพูดความจริง ข้าไม่ได้โกหก! ข้าสาบานได้!”
ลูกพี่โจรลุกลี้ลุกลนตะโกนขึ้น นิ้วมือที่ถูกมัดแน่นก็พยายามชี้ไปทางฮัวอี๋เหนียง“นาง! สี่วันก่อนหน้านี้นางพาแม่นมและสาวใช้ไปหาข้าที่วัดร้างนอกเมือง นางให้เบี้ยข้ามาหนึ่งพันตำลึงเพื่อทำข้อตกลงกับข้า นางให้ข้าไปช่วยนางฆ่าคน เสร็จเรื่องเร็วก็เอาหัวคนมารับรางวัลกับนาง!”
ฮัวอี๋เหนียงลุกลี้ลุกลนจับแขนของโหวหนานหยาง“นายท่าน ข้าไม่ได้ทำ! ข้าถูกใส่ร้าย…..”
“ข้าจำได้แม่น ท่านนั่นแหละ!”หัวหน้าโจรพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
ถ้านางไม่ยอมรับ ก็ไม่ใช่ว่าเขาต้องโชคร้ายหรือ? ไม่มีคนรับผิดเลยสักคน
คุณหนูสามเสิ่น ผู้โหดเหี้ยมคนนี้ไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน
แขกเหรื่อในห้องโถงก็ไม่ใช่คนโง่
ในพวกเขาหลายคนส่วนใหญ่เป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าบนราชสำนัก สายตาเฉียบแหลม ในนั้นก็มีขุนนางกรมยุติธรรมด้วย
ฮัวอี๋เหนียงกับลูกพี่โจร คนไหนโกหก แวบเดียวคนที่มีสายตาเฉียบแหลมเหล่านี้ก็ดูออกแล้ว!
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องภายในของจวนโหวหนานหยาง
อี๋เหนียงเรือนหลังติดต่อกับโจรให้ไปข้าลูกของภรรยาเอกแต่กลับทำไม่สำเร็จ คิดไม่ถึงว่างานวันเกิดของท่านโหวอาวุโสจะถูกคุณหนูสามเสิ่นที่กลับมาจากชนบททำพังจนไม่เป็นท่าแล้ว!
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องน่าอับอายมาก! ศักดิ์ศรีของจวนโหวหนานหยางถูกเหยียบอยู่ที่พื้นแล้ว!
แขกเหรื่อหัวเราะเหยียดหยามในใจ มองเรื่องนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นายท่าน ข้าถูกใส่ร้ายจริงๆ!”ฮัวอี๋เหนียงดวงตาแดงก่ำ นางถือผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา พูดว่า“ข้ากับคุณหนูสามไม่มีความแค้นเคืองกัน นางถูกเลี้ยงที่ชนบทตั้งแต่เด็ก ข้ามีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปฆ่านาง?”
เซียวลิ่งเยว่มองนางด้วยสายตาเหยียดหยาม
เหตุผลนี้นางไม่จำเป็นต้องพูด
ลูกพี่โจรที่ถูกเทกลางคันพูดออกมาว่า“เพราะงานแต่งของคุณหนูสาม!”
ฮัวอี๋เหนียง“…….”
“ข้าจำได้ว่าท่านบอกกับข้าว่า ท่านแค้นท่านแม่ของคุณหนูสาม เพราะฉะนั้นเลยไม่อยากให้นางได้แต่งงานกับคนมีชาติตระกูล เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นางไปสืบความจริงแล้วมาแก้แค้น! ท่านยังบอกอีกว่า ถึงยังไงนางก็โตที่ชนบท ท่านโหวไม่สนใจลูกคนนี้อยู่แล้ว ให้นางตายที่ชนบทก็จบแล้ว ไม่มีคนสนใจหรอก!”
ลูกพี่โจรพูดออกมาหมด“ข้าเชื่อคำพูดของท่าน ข้าถึงได้รับเบี้ยมาเพื่อฆ่านาง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ท่านจะไม่ยอมรับ!”
โหวหนานหยางมองฮัวอี๋เหนียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าไม่ได้ทำ! ข้าไม่ได้…..”ฮัวอี๋เหนียงร้องไห้ส่ายหน้าไปมา ร่างกายอ่อนระทวยลงกับพื้น
ลูกสาวของฮัวอี๋เหนียง เสิ่นยู่ถิงคุณหนูรองออกหน้า
นางพูดอย่างจริงจังว่า“ท่านพ่อ ข้าเชื่อว่าอี๋เหนียงไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ นางแต่งกับท่านมาตั้งหลายปี ดูแลเรือนหลังให้ท่านมาโดยตลอด นางเห็นแม่นางคุณหนูคนอื่นเป็นเยี่ยงลูกสาวแท้ๆของตัวเอง นางจะไปทำอย่างนั้นกับน้องสามได้อย่างไร? ข้ารับรองได้ สี่วันก่อนหน้านี้ อี๋เหนียงอยู่กับข้าตลอด นางไม่มีโอกาสไปเจอคนอื่นแน่นอน ชัดเจนเลยว่าโจรคนนี้ถูกคนสั่งมา เพื่อใส่ร้ายป้ายสีอี๋เหนียง!”
ลูกพี่โจรสบถด่าว่า“เจ้าพูดจาเลอะเทอะ!”