ตอนที่ 4
“ข้าถามว่าเจ้าจะทำอะไร!” มือหนา ๆ ของเขาปัดมือของเธอออกจากตัว แม้พูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยแต่กลับข่มขู่ด้วยสายตาอยู่ในที
“ก็บอกแล้วว่าจะทำแผลให้! ดูสิยาเกือบหก ปัดมาได้ยังไงกัน ถ้าหกหมดคุณได้ตายเป็นผีอยู่กลางป่านี่แน่!” หญิงสาวตะคอกใส่เขายืดยาว แน่นอนว่าสิ่งที่เขาได้ยินเป็นเพียงเสียงที่ฟังไม่รู้เรื่องจากนาง แต่ที่เขาพอจะเข้าใจคืออาการที่นางแสดงออกมา หน้าตาที่ดูโกรธจัดของนาง นี่สิที่ทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก
“สิ่งนี้คืออันใดกัน” ดวงตากลมโตซ้อนขึ้นมองเขาก่อนจะกระซากเสื้อเขาออกแล้วเริ่มทำแผลให้
รูปร่างกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ทำเอาลมหายใจของสาวโสดที่สนิทอย่างพรชิตาถึงกับสะดุด ใบหน้าสวยร้อนผ่าวจนต้องรีบกลืนน้ำลายลงคอเรียกสติ...อื้อฮือ... ดาราจีนนี่หุ่นแน่นเนื้อแน่นยิ่งกว่านักรบเสียอีก หน้าตาก็แสนหล่อเหลา ออกจะเพอร์เฟกต์เกินไปหน่อยแล้วพ่อคุณ!
ชินอ๋องหยวนจางหมิงกัดปากตัวเองแน่น เมื่อหญิงสาวเอาอะไรบางอย่างทารอบ ๆ บาดแผล มันไม่ได้ทำให้เจ็บอะไรมากมาย เขารู้สึกแค่แสบคันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“กัดนี่ไว้ ฉันต้องเย็บแผล หลับตาด้วย”
พรชิตายัดผ้าใส่ปากเขา พร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมายังเข็มที่กำลังถืออยู่ในมือ
เขารีบคว้ามือหญิงสาวมาจับไว้ เกิดมาไม่เคยเห็นใครเย็บแผลมาก่อน ส่วนใหญ่การรักษาแผลแบบนี้จะทำเพียงใช้เหล็กลนไฟแล้วจี้เพื่อปิดบาดแผล เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อไม่ให้แผลลุกลามเท่านั้นเอง
“หยุด! เจ้ากำลังจะทำอะไรข้า”
พรชิตาปัดมือเขาออก ก่อนจะจับผ้ายัดเข้าปากเขาอีกครั้ง ทำท่าเย็บเหมือนเย็บผ้าแล้วปักเข็มลงไปโดยที่ไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัว
“อื้ออออ!” ชินอ๋องหยวนจางหมิงกัดผ้าในปากแน่น มือหนาบีบเข้าที่ต้นขาของหญิงสาวด้วยความเจ็บปวด
พรชิตาเจ็บจนน้ำตาซึม แต่ก็ปล่อยให้เขาได้ระบายความเจ็บกับต้นขาของเธอ
เธอรีบลงมือเย็บแผลให้เขาจนเสร็จ แล้วเอาผ้าก็อตปิดแผลไว้ ปิดทับด้วยเทปปิดแผลอีกครั้ง
“เก่งมาก เสร็จแล้วค่ะ”
มือบางดึงผ้าออกจากปากให้เขา แล้วยกมือขึ้นซับเหงื่อให้อย่างเบามือ หญิงสาวยกมือปาดน้ำตา แต่ก็ส่งยิ้มหวานให้
เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้นางอย่างเบามือ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำให้ใครแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ทำไมแค่เห็นน้ำตาของนาง เขาก็ให้รู้สึกเจ็บปวดกลางใจถึงเพียงนี้
“ข้าทำให้เจ้าเจ็บ”
พรชิตาส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ ก่อนจะก้มหน้าลงค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้ เธอหยิบมันออกมาเทลงไปบนฝ่ามือก่อนจะยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม
“ทานยาแก้ปวดก่อนนะคะ”
ชินอ๋องหยวนจางหมิงขมวดคิ้ว มองเม็ดยาสีขาวสองเม็ดในมือของนางอย่างสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ถามไปนางก็คงตอบไม่ได้
“ทำยังไงดีเราถึงจะคุยกันรู้เรื่อง หรือจะลองเขียนดูนะ”
คิดในใจพลางหันไปค้นหาสมุดกับปากกาในเป้ใบใหญ่ หยิบออกมาแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ ก่อนจะยกให้เขาดู เผื่อเขาจะอ่านออก
“มันคือยาแก้ปวด?”
พรชิตายิ้มกว้างอย่างดีใจที่เขาอ่านออก ยื่นยาให้เขาอีกครั้ง
ชินอ๋องหยวนจางหมิงมองยาในมือนางนิ่ง ไม่กล้าจะจับมันเข้าปาก ชีวิตที่ถูกปองร้ายอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่กล้าที่จะกินอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ถึงจะเป็นลูกของฮองเฮา แต่ก็เป็นลูกที่ผู้เป็นบิดารังเกียจ ถึงขนาดลอบวางยาหวังฆ่าเขามาแล้วหลายครั้ง ส่งเขาออกไปรบหวังจะให้ตายคาสนามรบ แต่เขานั้นวรยุทธสูงส่ง เก่งกาจรอบด้าน มีหรือจะพ่ายแพ้ หากครั้งนี้ไม่มีคนทรยศอย่างน้องชายคนละแม่เช่นรัชทายาทชั่วหยางเลี่ยงเป่าเป็นไส้ศึกส่งคนมาตลบหลังเยี่ยงหมาลอบกัด เขาคงไม่มีวันเสียท่าแบบนี้แน่
“ฉันกินให้ดู” พรชิตาหยิบยาออกมาจากกระปุกอีกสองเม็ด ส่งยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามให้เขาดูเป็นตัวอย่าง
“ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง รับรองไม่ตาย” หญิงสาวทำท่าทางพิลึกแต่สายตาที่มองมาที่เขานั้นกลับดูจริงจัง ใสซื่อไม่มีพิษภัย
“ได้ ข้าจะยอมเชื่อเจ้า” เขาจับยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม
“ฉันจะไปหาฟืน”
พรชิตาเขียนบอกเขา ตอนนี้ใกล้จะมืด แล้วผ้าห่มก็ไม่มี อากาศเริ่มเย็นลง เธอเองก็เจ็บระบมไปทั้งตัว รู้สึกปวดที่ไหล่อยู่มาก จะให้ปีนขึ้นไปตอนนี้ก็ไม่ไหว
“เจ้าอย่าเพิ่งไปเลย นั่งก่อนเถอะ”
เห็นนางลุกขึ้นยืนตัวเซ เขาก็นึกห่วง ยาที่นางให้นั้นช่วยบรรเทาความเจ็บได้เป็นอย่างดี อาการเจ็บปวดตามร่างเริ่มทุเลาลง หรือยาของนางจะเป็นยาวิเศษกันนะ