ตอนที่ 3
หุบเขา
“กุบกับ ๆ ๆ”
เสียงฝีเท้าม้าดังก้องวิ่งมาทางที่เธอกำลังยืนอยู่ ทำให้เธอรีบลืมตาขึ้นมองดู ก่อนจะทำหน้าฉงน นี่ไม่ใช่เธอกำลังเดินอยู่กลางป่าตามหลังอากงอยู่หรอกหรือ ทำไมตอนนี้ถึงมายืนอยู่บนหน้าผาไปเสียได้ แล้วนี่ก็เป็นเวลากลางวัน! ไม่ใช่เวลาใกล้จะพลบค่ำเหมือนก่อนหน้าเมื่อกี้นี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เธอพูดพึมพำออกมาอย่างเหม่อลอย จับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
“หลบไป!” ชายหนุ่มชุดดำบนหลังม้าตะโกนบอกเธอ
“กรี๊ด!”
พรชิตากรีดร้องตกใจจนก้าวขาไม่ออก ได้แต่ยืนหลับตาแน่น จนรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ ตัวเธอก็ลอยหวือขึ้นจากพื้น หลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่กลางอากาศ
เธอเบิกตากว้างอีกครั้งอย่างตกใจ เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของชายคนเมื่อกี้ และตอนนี้เธอกำลังจะร่วงตกลงไปก้นเหวกับเขา!
“กะ...” พรซิตาที่กำลังจะกรีดร้องถึงกับตัวแข็งอ้าปากค้างเมื่อได้สบตากับเขา หัวใจแทบจะหยุดเต้น รู้สึกเหมือนได้พบใครคนนั้นที่เธอเฝ้ารอคอยมาแสนนาน เธอดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ได้แต่มองเขา แล้วปล่อยให้น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ชินอ๋องหยวนจางหมิงตัวแข็งทื่อ จ้องมองดวงตาสีน้ำเงินของคนในอ้อมแขนเหมือนต้องมนตร์สะกดจนลืมใช้วิชาตัวเบา ความรู้สึกหนึ่งไหววูบขึ้นมา ชายหนุ่มใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับผู้หญิงตรงหน้าจนนึกแปลกใจ
“อ๊ะ! กรี๊ด!” พรชิตากรีดร้องเมื่อเห็นว่าเธอกับเขากำลังจะกระแทกลงกับพื้นด้านล่างแล้ว
“เกาะข้าไว้แน่น ๆ” ชายหนุ่มคว้าได้เถาวัลย์เส้นโตที่เลื้อยอยู่ริมผา ก่อนจะโหนตัวใช้เท้าเตะโยนตัวไปมา เพื่อลงสู่เบื้องล่าง ..... “ตุ๊บ! อั๊ก โอ๊ยยยย” พรชิตาค่อย ๆ ยันกายขึ้น เธอรู้สึกปวดตามร่างกายอยู่บ้าง ก่อนจะลองขยับแขนขาดูว่ามีตรงไหนแตกหักหรือไม่ สำรวจตัวเองเรียบร้อยไม่พบว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหน จึงหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความตกใจ เธอรีบลุกขึ้นสำรวจตามตัวเขา กลิ่นคาวเลือดลอยออกมากระทบจมูก ทำให้เธอเริ่มลนลานเขย่าตัวหวังจะเรียกให้เขาได้สติ
“คุณ...คุณ...ตื่นสิ ได้ยินฉันไหม ให้ตายสิ! ฉันมาอยู่ที่ไหนเนี่ย!”
พอเงยขึ้นมองหน้าผาที่ตกลงมาเธอก็ถึงกับตัวชาเพราะมันสูงลิบ พอหันไปสำรวจคนที่นอนสลบอยู่ก็พบว่าได้รับบาดเจ็บถึงขนาดเลือดตกยางออก เธอมองเขาแล้วยิ่งสับสนเพราะการแต่งตัวของเขาไม่เหมือนกับเธอ เขาสวมเสื้อผ้าที่ดูเหมือนชุดจีนโบราณแบบที่เธอเคยดูในหนังจีนไม่มีผิดเพี้ยน หรือเขาจะเป็นพระเอกที่มาถ่ายหนังแล้วพลัดตกลงมาเพราะเธอไปยืนบังการถ่ายทำนะ
“คุณคะคุณ...ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวกองถ่ายก็ยกกองหนีหรอก เราต้องรีบกลับขึ้นไป ฉันก็ต้องรีบกลับไปหาอากงด้วย” พรชิตาเขย่าตัวเขาก่อนจะค่อยๆ เปิดเสื้อเขาออกเพื่อดูบาดแผล เพราะเห็นเลือดไหลซึมออกมา แต่ชุดเจ้ากรรมมันช่างซับซ้อนนัก
“แค่ใส่ถ่ายหนังทำไมต้องทำให้ซับซ้อนด้วยนะ” เธอบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด
“แผลจริง เลือดจริง แผลถูกแทง” เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่เริ่มดูซีดลง ยกนิ้วไปอังจมูก โล่งใจ! ยังหายใจอยู่ เธอลงมือฉีกเอาชายเสื้อตัวเองกดปิดปากแผลเอาไว้
“ฟื้นสิคุณ ฉันเพิ่งหาคุณเจอ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปอีก...โอ๊ย! ซวยซ้ำซวยซ้อน ฝนมันจะมาตกอะไรตอนนี้!”
เธอบ่นอย่างหัวเสีย รีบหยิบเป้กับไฟฉายที่ตกอยู่ไม่ไกลขึ้นมา ทั้งดึงทั้งลากเขาเข้าหลบใต้ชะง่อนหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ซึ่งก็ไม่นับว่าง่ายเพราะเขานั้นทั้งสูงทั้งใหญ่...ทั้งใหญ่ แค่คิดใบหน้าเธอก็เห่อร้อนขึ้นมา แม้ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้เธอก็ยัง...อดคิดดีไม่ได้ คิดดีที่ไม่ได้แปลว่าดี
“หนาวไหมคุณ ทำใจดี ๆ ไว้นะเดี๋ยวฉันจะทำแผลให้”
โชคดีที่มียาสามัญประจำบ้านติดตัวมาด้วย ห่วงก็แต่อากงเพราะของทุกอย่างอยู่กับเธอ ส่วนอากงแบกแค่เต็นท์นอนไปเท่านั้น
“เจ้าทำอะไร!” ชินอ๋องหยวนจางหมิงปัดมือนางออกทันทีที่รู้สึกตัว รีบจับเสื้อคลุมไว้แน่น ไม่เคยเห็นหญิงสาวที่ไหนใจกล้าหน้าด้านเปลื้องผ้าบุรุษเยี่ยงนี้มาก่อน
“อยู่เฉย ๆ ได้ไหม ฉันก็แค่จะทำแผลให้คุณเท่านั้น”
ชายหนุ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ยามที่ปากนางขยับขึ้นลง เขาได้ยินเพียงเสียงแบะ ๆ กับสีหน้าที่ไม่พอใจเท่านั้น การแต่งตัวก็พิลึกพิลั่น แต่ใบหน้ากลับงดงามปานนางฟ้านางสวรรค์ลงมาจุติ ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายเหมือนลูกแก้วนั่นอีก ไม่เคยเห็นใครงดงามหยดย้อยแบบนี้มาก่อน
“เจ้าพูดไม่ได้รึ?”
“พูดจนปากจะฉีกถึงรูหูอยู่แล้ว จะพูดไม่ได้ได้ยังไง”
เธอก็พูดจีนกับเขานะและก็ฟังเขารู้เรื่องด้วย ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ หรือเขาจะเสียเลือดจนฟังไม่รู้เรื่อง หรือไม่หัวอาจกระแทกจนสติฟั่นเฟือน
“พอ ๆ ๆ ข้าฟังไม่รู้เรื่อง”
เขาขบกรามเข้าหากันแน่นข่มความเจ็บ แต่แววตากับใบหน้าหล่อเหลานั้น ยังคงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา
“เดี๋ยวฉันทำแผลให้”
พรชิตารีบค้นหาของออกมาทำแผลให้เขา ชินอ๋องหยวนจางหมิง มองของที่หญิงสาวดึงออกมาจากถุงหน้าตาแปลกประหลาดด้วยความสนใจ ของทุกอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มันคือสิ่งใด ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นของเช่นนี้มาก่อน
“ของพวกนี้คืออะไร” ตาคมหรี่ลง มองของในมือหญิงสาวอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
“พูดไปแล้วคุณจะเข้าใจว่างั้น”
หญิงสาวย่นจมูกใส่เขา ชินอ๋องหยวนจางหมิงนึกเคืองในใจ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครทำกิริยาเช่นนี้ใส่เขามาก่อน ทุกคนล้วนเกรงกลัวชินอ๋องอดีตองค์รัชทายาทแห่งบัลลังก์มังกรทอง ผู้ที่ถูกกล่าวขานว่าเหี้ยมโหดไร้ใจอย่างเขากันทั้งนั้น แต่หญิงผู้หญิงคนนี้กล้าทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา