ตอนที่ 7 อยู่ในอ้อมกอดของข้า
มือของเจ้า เอวของข้า หกคำที่ถูกกดไว้เป็นพิเศษ
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆ รอยยิ้มขี้เล่นและสนุกสนานไม่อาจถูกปกปิด ไว้ได้ กลีบปากราวกับดอกไม้ ขอร้องให้ปล่อยมืออย่างอ้อนวอน
“หากมี่เอ๋อร์ไม่ต้องการอยู่ในอ้อมกอดของข้า หากเจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้เช่นไรกันเล่า หากมี่เอ๋อร์รีบบอกกันก่อน ข้าก็คงจะปล่อยมือไปนานแล้ว”
มี่เอ๋อร์ เขารู้อยู่แต่แรกแล้วว่าเธอคือใคร ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าราวกับภาพวาดผู้นี้ย่อมไม่ใช่คนดีเป็นแน่ เหยาเซิงถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อรักษา ระยะห่างจากเขา
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้ามากมายกำลังตรงมาทางสวน
ดอกไม้แห่งนี้
เหยาเซิงหันกลับไปมองชายชุดม่วงผู้นั้น เพราะเขาคาดการณ์เวลาที่จะมีคนมาไว้แล้ว เขาปล่อยมือไป
เธอไม่จําเป็นต้องบอก เขาเองก็จะปล่อยอยู่แล้ว ชายผู้นี้มันหน้าเนื้อใจเสือยิ่งนัก
ทันใดนั้นก็มีเสียงแทรกขึ้นมาในห้วงภวังค์ ของเธอ “เสว่มี่ เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่กัน มิใช่ว่าข้าให้สี่เอ๋อร์มาตามเจ้าไปร่วมงานเลี้ยงแล้วอย่างนั้นหรือ แขกเหรื่อต่างรอเจ้ากันอยู่ วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านอ๋อง เจ้ายังไม่เข้าใจอะไรอีกอย่างนั้นรึ?"
เมื่อได้เห็นตัวผู้กล่าว
เครื่องประดับพราวระยับแสบตาภายใต้ชุดกระโปรงร่างบางนั้นสูงเพรียว เอวบาง คอดกิ่ว ร่างที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อกะจากสายตาน่าจะ อายุอานามประมาณสามสิบปีได้ ปลายคางแหลมเชิดขึ้นดั่งหญิงสาวผู้สูงศักดิ์
ถึงแม้จะถึงวัยสามสิบปีแล้วแต่ผิวยังคงขาว ดังเก่า
ย่อมเป็นเพราะได้รับการบำรุงอย่างดีเป็นแน่ นางคือชายารองยิงแห่งตำหนักอ๋องคัง
ปากแดงเอ่ยขึ้นอย่างกล่าวหา ดวงตามีร่องรอยแห่งความสงสัยวันนี้คือวันคล้ายวันเกิดสี่สิบปีของท่านอ๋อง เสนาบดีน้อยใหญ่จากทั่วเมืองหลวงต่างเดิน ทางกันมาร่วมยินดีกันให้วุ่นวาย
ในวันที่แขกเหรื่อมากมาย และผู้คนด้านหลังต่างวุ่นวาย นางให้สาวใช้สี่เอ๋อร์พาเด็กปัญญาอ่อนคังเสว่มี่มาฆ่าตายที่นี่เหตุใดถึงไร้ร่างของสาวใช้คนนั้น สี่เอ๋อร์ไปไหนกัน
เหยาเชิงลบเลือดที่แห้งกรังอยู่บนหน้าผาก เงยหน้ามองบุคคลที่มีแต่คนชื่นชม ชายารองติงผู้โอบอ้อมอารีที่สุด
แต่กระนั้นเลือดท่วมหัวเธอขนาดนี้ ผู้โอบอ้อมอารีผู้นี้กลับไม่เห็นเลยอย่างนั้น หรือ
กลับพูดถึงเรื่องที่เธอปล่อยให้แขกเหรื่อรอ และบอกอีกว่าเธอนั้นไร้มารยาท ไม่เคารพกฎอย่างนั้น และดวงตาคู่นั้นมีประกายของความผิดหวัง พาดผ่าน ราวกับเสียใจอย่างสุดซึ้งที่นางยังไม่ถูกฆ่าใช่หรือไม่
เฮ้อ
เหยาเชิงลอบถอนหายใจอยู่ภายในอก ในความจริงเธออยากจะบอกกับชายารองติง ผู้นี้เหลือเกินว่า คังเสว่มี่คนเดิมได้ถูกนางฆ่าตายไปแล้วที่ยืนอยู่ตรงนี้คือเธอ ที่กำลังใช้ร่างของคังเสว่มี่เป็นที่อยู่ก็เท่านั้น
แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของชายารองติง เหยาเซิงก็รู้สึกไม่ดี เมื่อความทรงจำของร่างนี้ได้ไหลเข้ามา และรวมเข้ากับความรู้สึกที่สัมผัสได้
ราวกับเธอเป็นคังเสว่มี่อย่างไม่มีผิดเพี้ยนถึงแม้เธอกับชายารองติงเพิ่งจะเคยพบหน้า กัน เพิ่งพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ก็ทำให้เหยาเซิงรู้สึกรังเกียจคนเยี่ยงนี้ยิ่งนัก
ชายารองติงเมื่อเห็นเหยาเชิงไม่มีปฏิกิริยา ตอบกลับก็ไม่ได้แปลกใจอะไร แต่เดิมนางไม่ได้สนใจเด็กปัญญาอ่อนอย่าง คังเสว่มีอยู่แล้ว นางสนแค่ตอนนี้สี่เอ๋อร์ไปอยู่ที่ไหน
สายตาลอบมองไปยังศพที่อยู่ในทะเลสาบข้างหลัง นั่นไม่ใช่สี่เอ๋อร์หรอกหรือ นางตายได้อย่างไรกันชายารองติงตกตะลึงไปชั่วพริบตา ก่อนจะกลับมาเป็นปกติในตอนนี้นางกำลังโมโหที่สี่เอ๋อร์ทำพลาด แต่เมื่อเห็นศพของสี่เอ๋อร์
สถานการณ์กลับกลายเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก
ทันใดนั้นชายารองติงก็ดึงสติกลับมาจ้องมองเหยาเชิงที่ไม่เคยเปิดปาก แล้วแสร้งก้าวเท้าถอยไปข้างหลังด้วยความ ตกใจ
“เสวีมี่ ทำไมเจ้าถึงโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ทำไมถึงฆ่าสี่เอ๋อร์กัน นางทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ เจ้าถึงต้องกระทำโหดร้ายเช่นนี้ ท่านอ๋อง ท่านรีบมาดูเถอะว่าเสว่มี่ทำอะไรลงไป เพคะ”