5) เรื่องใหญ่กว่าเดิม
“นี่ลูกมีแฟนเหรอ ใครคะ”
วิภาดาถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นจนแทบทนรอไม่ไหว วิกรยิ้มก่อนจะผายมือไปฝั่งตรงข้ามตัวเองและพูดออกมาด้วยสีหน้าภูมิใจ
“นี่ไงครับ”
“คะ…”
นีรนาราตกตะลึง มองมือของวิกรที่อยู่ด้านหน้าตัวเองแข็งค้าง บอสมีแฟนโดยที่ไม่เคยรู้เธอก็ตกใจมากแล้ว แต่พอเห็นว่าแฟนคือใครก็ทำเอาตกใจยิ่งกว่า
นี่เธอไปเป็นแฟนของบอสตอนไหนกัน!
“อะไรนะ นี่ลูกกับหนูนีน”
วิภาดาเองก็ตกใจมากไม่ต่างจากนีรนาราสักนิด เธอมองหน้าลูกชายสลับกับนีรนาราอย่างงุนงงและไม่อยากเชื่อ
“เดี๋ยวค่ะ คือ…”
นีรนาราที่กำลังจะแย้งออกมาพลันต้องเงียบเสียงลงเมื่อถูกวิกรแย่งพูดซะก่อน
“ครับ คุณนีนคือคนที่ผมคบอยู่แล้วก็จะมาขออนุญาตจากคุณแม่นี่แหละครับ รู้อย่างงี้แล้วจะให้ไปทำความรู้จักกับใครอีกมั้ยครับ”
“จริงเหรอ ไม่อยากเชื่อเลย เดี๋ยวนะเป็นไปได้ด้วยเหรอเนี่ย”
“เป็นไปแล้ว งั้นคุณแม่จะอนุญาตมั้ยครับ”
วิกรถามย้ำเมื่อเห็นอาการนิ่งอึ้งของคนเป็นแม่ โดยไม่ได้สังเกตสักนิดว่าคนที่ตกใจยิ่งกว่าก็คือนีรนาราที่ถูกใส่สถานะให้โดยไม่ทันตั้งตัว
“กล้าถามแบบนั้นได้ยังไงตากร”
“คุณแม่…ไม่ชอบเหรอครับ”
ใบหน้าหล่อหม่นลงพลางถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วในตอนท้ายเมื่อเห็นว่าแม่ตัวเองย้อนถามด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะต้องสะดุ้งกันอีกครั้งเมื่อวิภาดาพูดออกมาเสียงดังกว่าเดิมจนได้ยินกันไปครึ่งงาน
“ชอบมากน่ะสิไม่ว่า โอ้ย! ดีใจมากเลยทำยังไงดีเนี่ย หนูนีนเลยนะตากรแกทำได้ยังไงเก่งมากเลยลูก ประกาศหมั้นกันวันนี้เลยดีมั้ยคะ”
“ใจเย็นๆครับ เราเพิ่งคบกันเองนะครับ”
วิกรต้องรีบปรามเมื่อวิภาดาลุกขึ้นมาพูดด้วยอาการดีใจ แต่ดูเหมือนวิภาดาจะห้ามความดีใจไว้ไม่อยู่อีกแล้ว เธอเอาแต่มองวิกรกับนีรนาราสลับไปมาและวาดฝันถึงงานแต่งในหัวจนหยุดยิ้มไม่ได้เลย
“โอ้ย ทำงานด้วยกันมาตั้งหลายปียังจะต้องคบอะไรให้เสียเวลาอีกคะแต่งได้แล้วค่ะแม่รีบ”
“อะไรกันคุณ เสียงดังไปถึงนู่นเลย”
เป็นกรวิชญ์ที่เดินเข้ามาหาภรรยาด้วยสีหน้าแปลกใจพลางมองทุกคนรอบๆอย่างงุนงง เพราะเสียงของวิภาดานั้นดังไปจนถึงที่กำลังคุยกับเพื่อนๆอยู่จนต้องเดินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นสีหน้ามีความสุขของภรรยาก็เบาใจไปได้ว่าไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร
“คุณพ่อสวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
“ไม่ต้องเกรงใจน่าคนกันเองทั้งนั้น ว่าแต่คุณเถอะเป็นอะไร”
กรวิชญ์รับไหว้สองคนด้วยรอยยิ้มใจดี ก่อนจะหันมาถามภรรยาอีกครั้ง
“แหม่ ก็ดีใจมากไปหน่อยไงคะ ลูกเราคบกับหนูนีนทั้งที”
“ใครคบกับใครนะ”
คราวนี้เป็นกรวิชญ์เองที่ตกใจขึ้นมาบ้าง จนวิภาดามองค้อนและย้ำออกมาอีกครั้งด้วยความดีใจ
“โอ้ยคุณนี่เข้าใจยากจัง ตากรกับหนูนีนไงคบกัน แล้วแบบนี้จะให้ทำเฉยอีกมั้ยล่ะไม่คุยด้วยละไปอวดเพื่อนๆดีกว่า”
“ขี้เห่อมาก”
กรวิชญ์ส่ายหัวพลางมองตามภรรยาที่เดินออกไปด้วยอาการดีใจจนออกนอกหน้า
“แล้วคบกันมานานแล้วเหรอ”
กรวิชญ์นั่งลงใกล้ๆกับลูกชายก่อนจะมองทั้งคู่แล้วถามด้วยรอยยิ้มพอใจ ไม่ใช่แค่วิภาดาหรอกที่ดีใจตัวเค้าเองก็เฝ้ารอมานานเช่นกัน เพียงแต่ไม่อยากไปวุ่นวายกับชีวิตลูกเหมือนกับภรรยาเท่านั้น
“แค่ไม่กี่เดือนเองครับ คุณแม่ใจร้อนมาก”
“ก็แม่แกรอมานานขนาดนั้นไม่ให้ตื่นเต้นไหวเหรอ ขนาดพ่อยังแปลกใจเลยฉลาดเลือกเหมือนกันนะแกเนี่ย นึกว่าจะไม่ได้เรื่องแล้วซะอีก”
“โธ่ ทำไมว่าผมแบบนั้นล่ะครับคุณพ่อ”
“ก็แกมันน่าเป็นห่วงกว่าใครเลยไง หนูนีนก็เมตตาเจ้ากรมันหน่อยละกันทำแต่งานจนดูแลใครไม่เป็นแล้ว”
กรวิชญ์ขำเบาๆก่อนจะหันไปฝากฝังลูกชายกับนีรนาราที่ยังคงนั่งตั้งสติกับตัวเองอยู่ พอถูกโยนความคาดหวังมาใส่แบบนี้ก็ได้แต่รับคำอย่างอ้ำอึ้ง
จะปฏิเสธก็เกรงใจไม่อยากหักหน้าวิกรเลยได้แต่ตามน้ำไปก่อน
“เอ่อ ค่ะท่าน”
“เรียกพ่อก็ได้ จะได้ชิน”
นีรนาราแทบสำลักน้ำที่กำลังดื่มเมื่อได้ยินประโยคนี้ ก่อนจะปฏิเสธออกมาด้วยความเกรงใจ
“คือ อย่าเพิ่งดีกว่าค่ะ”
“ค่อยๆปรับละกันเนอะ วันนี้ก็พากันไปพักเถอะดึกมากแล้วทำงานมาเหนื่อยๆเจ้ากรก็ไปส่งหนูนีนเค้าดีๆล่ะ”
“ครับคุณพ่อ ไปกันครับคุณนีน”
“งั้นขอตัวนะคะ”
นีรนารายกมือไหว้กรวิชญ์อีกครั้งก่อนจะลุกตามวิกรออกมาจากงาน โดยพยายามไม่หันไปสบตาใครๆที่มองมาอย่างสนใจยิ่งกว่าตอนเข้ามาซะอีก
“บอสคะ”
นีรนาราเอ่ยเรียกวิกรเมื่อออกรถมาได้สักพัก ไม่ทันที่จะได้พูดวิกรก็ชิงตัดหน้าออกมาราวกับรู้ว่านีรนาราจะพูดอะไร
“ขอโทษนะครับที่ทำไปโดยไม่ถามคุณนีนก่อน แต่ผมจำเป็นจริงๆคุณก็เห็นว่าคุณแม่จะจับคู่ผมอีกแล้ว”
“แต่ปกติบอสก็หาทางเลี่ยงได้อยู่แล้วนี่คะ แบบนี้เท่ากับเราโกหกท่านนะคะนีนรู้สึกผิดเลย”
นีรนาราแย้งพลางนิ่วหน้า เพราะไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่เข้าใจสิ่งที่วิกรทำอยู่ดี ที่ผ่านมาก็โดนมาตลอดอย่างที่ว่าไม่เคยสักครั้งที่จะคิดทำอะไรแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ นานๆไปเดี๋ยวท่านก็เลิกสนใจไปเอง”
วิกรรีบบอกเมื่อเห็นความไม่สบายใจของเลขาตัวเอง
“บอสแน่ใจเหรอคะ”
“ก็ ค่อนข้างแน่ใจครับ ยังไงช่วงนี้คุณนีนก็ช่วยผมไปก่อนละกันได้มั้ยครับ”
วืกรขอออกมาอย่างหน้าด้านๆจนนีรนาราแทบจะมองค้อนใส่ดีที่ยั้งเอาไว้ทัน เมื่อทำอะไรไม่ได้และเรื่องราวก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาและตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก
จะบอกได้ยังไงว่าเธอไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปในโลกของวิกรมากจนเกินไป ไม่อยากให้อะไรมันยุ่งยากกว่าที่เป็น แต่ดูเหมือนตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้ว
“ก็ได้ค่ะ ยังไงก็โกหกไปแล้วนี่คะ”
“คุณนีน…โกรธผมเหรอครับ”
วิกรถามเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิด ลอบมองใบหน้าสวยด้วยความกังวลแต่ก็เห็นเพียงความเรียบเฉยยากจะคาดเดา ก่อนที่นีรนาราจะตัดบทสนทนาไว้แค่นั้นเพราะถึงจุดหมาย
“เปล่าค่ะ อ้อ เดี๋ยวเลี้ยวเข้าซอยข้างหน้านี่เลยค่ะบอส”
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“ครับ”
วิกรรับคำพลางมองตามร่างบางที่ลงจากรถไปโดยไม่กล้าพูดอะไรด้วยอีก จากท่าทางของนีรนาราจะบอกว่าสบายใจที่ให้ความร่วมมือด้วยก็ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ปฏิเสธออกมาซะทีเดียว คงได้แต่รอดูว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไงกับเรื่องราวที่ตัวเองผูกมันจนวุ่นวายไปหมดแบบนี้