ตอนที่ 2 เรื่องร้าย
ตอนที่ 2 เรื่องร้าย
หลายวันผ่านไป
อิงฟ้ายังคงใช้ชีวิตเหมือน ๆ ทุกวันที่ผ่านมา กลางวันไปเรียนกลางคืนก็ไปทำงานเฉกเช่นในวันนี้ที่ถึงแม้เธอจะกลับมาถึงห้องดึกมากแค่ไหนหญิงสาวก็ตื่นมาทำหน้าที่ของตัวเองได้อยู่ดี ร่างเล็กในชุดนักศึกษาย่างก้าวเดินลงจากหอพักด้วยท่าทีกระตือรือร้น เธอรีบเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปยังมหาวิทยาลัยด้วยระยะทางที่ถึงแม้จะไม่ได้ไกลมากแต่การนั่งวินมอเตอร์ไซค์ก็ทำให้เธอร่นเวลาให้เร็วขึ้นพอสมควร
“50 บาทจ้ะหนู” เสียงวินมอเตอร์ไซค์เจ้าประจำเอ่ยบอกคนตัวเล็ก นั่นจึงทำให้เธอรีบหยิบเงินจ่ายพร้อมกับเอ่ยขอบคุณออกไป
“นี่ค่ะคุณลุง ขอบคุณนะคะ” เธอรีบเดินเข้าไปในตึกเรียนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อิงฟ้าเป็นคนมองโลกในแง่ดีเธอมักจะทำตัวให้มีความสุขอยู่ตลอดเวลา
การที่ทุกวันเราตื่นมาให้กำลังใจตัวเองทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุขมันสามารถสร้างพลังบวกให้แก่เธอได้มากพอสมควร เธอไม่รู้สึกเหนื่อยกับชีวิตที่เป็นอยู่เพราะว่าเธอทำมันด้วยความสุขของเธอ การที่เธออยากมาเรียนที่นี่ถึงแม้ว่าจะต้องเหนื่อยกับการหาเงินเพิ่มเติมหญิงสาวก็ยอม
“อิง ทางนี้” ธารน้ำเพื่อนสนิทของอิงฟ้าโบกมือให้กับเพื่อนเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินทางมาถึงพอดี
“อรุณสวัสดิ์จ้า”
“ยิ้มแย้มมาแต่ไกลเลยนะ เธอนี่มันสดใสจริง ๆ เลย” ธารน้ำพูดแซวเพื่อน การที่ได้รู้จักกับอิงฟ้ามันทำให้เธอรู้สึกดีเหมือนกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนจริงจังและจริงใจกับคำว่ามิตรภาพนั่นจึงทำให้เธอรู้สึกดีกับการได้เป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้
“ขึ้นเรียนกันเถอะได้เวลาแล้ว”
“อืม ว่าแต่รายงานอาจารย์สมพรทำถึงไหนแล้ว” ธารน้ำชวนอีกฝ่ายพูดคุยถึงรายงานเดี่ยวที่อาจารย์พึ่งสั่งไปสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกำหนดส่งก็คือวันศุกร์นี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเธอจึงเอ่ยถามออกไปว่าเพื่อนได้ทำหรือยัง
“ใกล้แล้วอีกนิดนึง เสร็จทันแน่นอน เธอล่ะ”
“ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน คิดว่าเธอยังไม่ถึงไหน เก่งอ่ะเอาเวลาไหนมาทำเนี่ยทั้งทำงานทั้งเรียน” นับว่าหญิงสาวเป็นคนที่หัวไวพอสมควร ขนาดทำงานกลับดึกเรื่องการเรียนก็ยังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เมื่อได้ยินคำชมของเพื่อนอิงฟ้าก็อมยิ้มให้ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องเรียนไม่นานสักเท่าไรนักอาจารย์ก็เข้ามาสอน
หญิงสาวจดจ่อไปกับบทเรียนที่อาจารย์สอน ทุกครั้งเธอจะอัดเสียงเอาไว้เพื่อเก็บไปฟังก่อนนอนถือว่าทบทวนบทเรียนไปในตัว ไม่นานนักคาบแรกของวันก็จบลง ก่อนที่สองสาวจะเดินมายังโรงอาหารของคณะ
“อิง” เสียงเกริกพลเอ่ยเรียกเพราะเขาไม่ได้มีเรียนคาบเช้าจึงมาเอาตอนเที่ยงแทน
“พลมาแล้วเหรอ กินข้าวยัง”
“กะมากินพร้อมกันนี่แหละ” หญิงสาวพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปซื้อข้าวร้านประจำที่เธอมักจะทานอยู่เสมอ ไม่นานก็เดินกลับมายังโต๊ะที่มีเพื่อนอย่างเกริกพลนั่งอยู่
ทั้งสามพูดคุยกันไปมาก่อนที่จะเดินขึ้นไปยังตึกเรียนอีกครั้ง เหลือคาบบ่ายอีกคาบก็เลิกคลาสของวันนี้ หญิงสาวพูดเอ่ยปากลาเพื่อนเพราะเธอจะไปนอนต่อสักงีบก่อนที่จะไปทำงาน
“เดี๋ยวเราไปส่งอิงก่อนจะออกไปทำงานแล้วกัน” เกริกพลทำงาน part time ที่อู่แห่งหนึ่ง เขาทำงานจนถึงห้าทุ่มเพราะอู่แห่งนี้มีรถเข้ามาใช้บริการเสมอจึงเปิดทำการสองกะในแต่ละวัน
“ไม่เป็นไร พลไปทำงานเถอะเรากลับเองได้แค่นี้เอง”
“แต่ว่า…”
“พล เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เราไปล่ะบาย ๆ” อิงฟ้าโบกมือบ๊ายบายเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่เธอจะเดินหันหลังไปอย่างอารมณ์ดี
“งั้นเราไปก่อนนะ” ธารน้ำพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ารถที่บ้านมารับแล้ว
อิงฟ้าใส่หูฟังพร้อมกับเดินออกไปยังหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับไปที่หอพักแต่ในระหว่างทางก็มีรถคันหรูของใครอีกคนขับผ่าน เธอไม่ได้สนใจอะไรนอกจากมองทางไปเรื่อย ๆ แต่ทว่าคนในรถกลับให้ความสนใจคนตัวเล็กพอสมควร เขายกมุมปากก่อนจะค่อย ๆ ขับผ่านไป
อัศวินกำลังวางแผนหาทางที่จะเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องชนะการเดิมพันในครั้งนี้ให้ได้ ก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึงจะยากเย็นอะไรนัก อยากจะรู้เหมือนกันไอ้ที่บอกว่ายากจะขนาดไหน
00:12 นาฬิกา
เพราะวันนี้ไม่ต้องปิดร้านทำให้อิงฟ้าไม่ได้กลับบ้านช้า เธอเก็บของเสร็จก็เอากระเป๋าก่อนจะเดินออกมาจากทางนอกร้านเหมือนที่เคยทำ
คนตัวเล็กเดินกลับไปยังห้องพักเพราะในตอนนี้ยากต่อการหาวินมอเตอร์ไซค์ อีกอย่างถ้าเดินเลาะไปอีกทางจะไกลกว่าถนนใหญ่ เธอใช้เส้นทางนี้อยู่บ่อยครั้งไม่เคยมีปัญหาใด ๆ แต่ทว่าในขณะที่หญิงสาวกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น พอมาซอยสุดท้ายที่จะเดินทะลุออกไปยังด้านหอพักของเธอก็มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังนั่งอยู่บนมอไซค์ของใครของมัน พอพวกนั้นเห็นเธอเดินมามันก็หันหน้ามามองทันที
หญิงสาวกำกระเป๋าแน่นพยายามไม่สนใจก่อนจะรับเดินเลี่ยงผ่านไป ทว่าชายอีกคนกลับลงจากรถมอเตอร์ไซค์เดินมาขวางทางเธอเอาไว้ซะอย่างนั้น ท่าทางของเขามันทำให้คนตัวเล็กรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ไหนจะกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ทำเอาเธอแทบเวียนหัว
“ถะ ถอยไปนะ”
“จะไปไหนจ๊ะคนสวย ให้พี่ไปส่งไหมจ๊ะรับรองถึงอย่างรวดเร็ว แต่หมายถึงสวรรค์นะจ๊ะ” คำพูดสองแง่สองง่ามทำเอาอิงฟ้ารู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม แววตาของหญิงสาวสั่นไหวพยายามมองหาทางหนีและคนละแวกนี้ให้ช่วย แต่ด้วยเวลาที่ดึกมากแล้วทำให้ไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมาเลย
“ขอร้องอย่ามายุ่งกับฉัน”
“เฮ้ย คนสวยขอร้องว่ะ เรามาช่วยให้น้องเขาร้องหน่อยดีไหมวะ”
“ดีสิ สวย ๆ แบบนี้กูชอบ” ไม่พูดเปล่ามือหยาบของผู้ชายอีกคนยื่นมาจะสัมผัสใบหน้าของเธอ ทำให้คนตัวเล็กถอยหลังหนีทันควันก่อนที่เธอจะรีบวิ่งย้อนกลับมาทางเดิม แต่คนเหล่านั้นก็ไม่คิดปล่อยเธอไป พวกมันรีบวิ่งมาหาก่อนจะคว้าแขนของเธอเอาไว้ เล่นเอาหัวใจดวงน้อย ๆ ที่กำลังตื่นกลัวตกฮวบลงพื้นทันที
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!” เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงทำให้อิงฟ้าส่งเสียงร้องให้คนช่วย ผู้ชายพวกนั้นจึงรีบเอามือมาปิดปากของเธอเอาไว้ คนตัวเล็กจึงดีดดิ้นก่อนจะกัดมือคนดังกล่าวจนมันส่งเสียงร้องเจ็บออกมา หญิงสาวได้โอกาสก็รีบวิ่งหนีทันที
“ตามไปสิวะ ยืนโง่อยู่ทำไมอีก งานยังไม่เสร็จเดี๋ยวก็ไม่ได้ค่าจ้างกันหรอก”
“เออ ๆ รู้แล้ว” สิ้นคำพูดของหัวโจกพวกมันก็รีบวิ่งตามร่างเล็กทันที
อิงฟ้าน้ำตาคลอเบ้า ด้วยความที่รีบวิ่งทำให้หญิงสาวไม่ทันระวังจนล้มลงไปที่พื้น ทำให้หัวเข่าของเธอกระแทกลงพื้นจนมีเลือดซิบออกมาให้เห็น เธอน้ำตาตกรู้สึกเจ็บจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งได้ยินเสียงชายฉกรรจ์ที่กำลังวิ่งเข้ามาหามันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ด้วยความเจ็บทำให้เธอแทบไม่มีแรงลุก ได้แต่ภาวนาให้ใครสักคนมาช่วยเหลือเธอ ใครก็ได้ขอแค่นั้นจริง ๆ
“เฮ้ย อยู่ตรงนั้น!”
“ฮึก อดทนสิอิง แกต้องอดทน” คนตัวเล็กร้องบอกตัวเองก่อนจะพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง
“โอ๊ย!” แต่แล้วหญิงสาวก็ทรุดลงอีกรอบ
“เธอ” จู่ ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้น ทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขา ม่านน้ำตาที่เอ่อล้นมันทำให้วินาทีนั้นอิงฟ้ามองใบหน้าอีกคนไม่ชัดก่อนที่เธอจะรีบถลาขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนตรงหน้า
“ช่วยด้วยค่ะ ฮึก ช่วยอิงด้วย” เธออ้อนวอนเขาออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับจับขาอีกคนเอาไว้แน่น
“จะทำอะไรกัน ฉันแจ้งความแล้วตำรวจกำลังมา ถ้าไม่กลัวก็เข้ามา” ชายหนุ่มแกล้งร้องขู่ออกไป
“เฮ้ย เอาไงดีพี่”
“หนีสิวะอยู่ทำไม” หัวโจกแกล้งพูดขึ้นก่อนจะรีบวิ่งหนีกลับไปทางเดิม