ตอนที่ 1 ชีวิตในเมืองหลวง
ตอนที่ 1 ชีวิตในเมืองหลวง
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังกุลีกุจอในการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเสิร์ฟยังโต๊ะต่าง ๆ ที่เธอได้รับมอบหมายในการดูแล อิงฟ้า เธอเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเมืองหลวงแห่งนี้ ถึงแม้จะรู้ว่าเส้นทางที่เธอเลือกเดินจะไม่ได้ง่ายแต่เธอก็พร้อมสู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุผลง่าย ๆ ก็คือเธอต้องการประสบผลสำเร็จเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวของเธอ
เธอสอบชิงทุนได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีติดอันดับของประเทศได้ ถึงแม้จะรู้ว่าแค่เงินทุนไม่สามารถทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ได้แต่เธอก็ไม่คิดล้มเลิกความตั้งใจ
ทันทีที่ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ หญิงสาวก็หางานพิเศษทำ เนื่องจากว่าตอนกลางวันเธอต้องเรียนเธอจึงเลือกทำงานตอนกลางคืนนั่นเอง
แล้วก็มีเพื่อนในห้องที่เป็นนักเรียนทุนเหมือนกันและทำให้เธอมาทำงานที่นี่ถึงแม้มันจะเป็นสถานที่ที่เธอไม่ชอบก็เถอะ แต่มันจะเป็นงานเดียวที่ทำให้เธอหาเงินได้เยอะในเวลาอันสั้น
อิงฟ้าเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับแห่งหนึ่ง ถึงจะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแต่ค่าแรงและส่วนอื่น ๆที่ได้จากลูกค้ามันก็ทำให้เธอหาเงินคืนนึงได้มากกว่าห้าร้อยบาท ซึ่งมันเยอะสำหรับเธอมากจริง ๆ อีกอย่างทำงานกลางคืน มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิด เธอไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ อาจจะมีลูกค้าที่มือไวไปบ้างแต่หญิงสาวก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง เธอไม่เคยไปต่อหรือรับงานนอกเวลา งานที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในผับแห่งนี้มักจะทำ แต่เธอไม่เคยคิดที่จะทำมันเลย นั่นจึงทำให้ผู้ชายพวกนั้นต่างได้แต่มองเธออย่างหื่นกระหายเพียงเท่านั้น
“อิง อันนี้ VIP 2 นะ”
“จ้ะ” หญิงสาวหันหน้าไปบอกเพื่อนร่วมงานที่กำลังช่วยกันทำงานกับเธออยู่นั้นด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของเธอที่กระปรี้กระเปร่าถูกสายตาของใครบางคนจ้องมองอยู่
“มองอะไรวะ” อัศวินที่เห็นเพื่อนจ้องมองบางคนอยู่ก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที พอสิ้นคำถามของเขาคนอื่นต่างก็มองตามสายตาเพื่อนไม่ต่างกัน
“อ้อ มองเด็กใหม่หรอ” กวินพูดขึ้นเมื่อจำได้ว่าผู้หญิงที่ธามกำลังมองนั้นเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานผับของเขานั่นเอง
“เออ หน้าตาคุ้น ๆว่ะ”
“จะไม่คุ้นได้ไงเด็กในมหาลัย” กวินที่เอ่ยบอกจึงทำให้ธามพยักหน้ารับรู้ เขาไม่ได้สนใจเธอเป็นพิเศษหรอกก็แค่สงสัยท่าทางที่ขยันขันแข็งก็เท่านั้น ถึงแม้จะเดินไปเดินมาแต่ทว่าใบหน้าของหญิงสาวก็ยังยิ้มแย้มให้กับแขกอยู่เสมอ แบบนี้สิพนักงานดีเด่นประจำร้าน
“เห็นว่าเข้ามาทำงานที่นี่เกือบ 2 อาทิตย์แล้วมั้ง”
“เหรอ แต่ทำไมกูไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยวะ” ทั้ง ๆที่เขาเองก็เป็นหุ้นส่วนในผับแห่งนี้แต่กลับไม่คุ้นหน้าพนักงานใหม่เลย
“ก็เมื่อก่อนทำโซนธรรมดา ผู้จัดการร้านคงเห็นว่าทำงานดีมากเลยให้ขึ้นมาทำงานในโซน VIP” เรื่องเล็ก ๆในร้านเขาให้ผู้จัดการเป็นคนจัดการ เช่น พวกการรับเด็กเข้าทำงาน การโยกย้ายเด็กให้ทำงานในโซนไหน ๆ ล้วนเป็นการตัดสินใจของผู้จัดการร้านของพวกเขานั่นเอง
“แต่แม่งผู้จัดการรู้งานว่ะคัดเด็กแต่ละคนหน้าตาน่ารักดี” ไม่ใช่เพียงผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตาดี คนอื่น ๆ ก็หน้าตาดีไม่ต่างกัน
“ก็แค่หน้าตาธรรมดาจืด ๆ มีอะไรน่าสนใจวะ” เป็นอัศวินที่พูดขึ้นเมื่อมองตามสายตาเพื่อนสำรวจใบหน้าผู้หญิงคนนั้นอยู่พักใหญ่เขาก็คิดว่าเธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจสักนิด
“หึ ครับ สำหรับมึงอ่ะธรรมดาแต่สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ก็ได้ มึงรู้ไหมว่าเด็กคนนั้นน่ะคนที่มาเที่ยวที่ผับเนี่ยสนใจตั้งหลายคน”
“เหอะ รับงานพวกนั้นด้วยสินะ” เขาก็พอรู้มาบ้างว่าพนักงานในผับของเขานอกจากจะทำงานข้างในแล้วยังรับงานข้างนอกอีกด้วยซึ่งเป็นเรื่องปกติเลย เพราะคำว่าเงินมันหอมหวานจนทำให้ผู้หญิงพวกนี้ขายตัวแลกกับเงิน
“ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะทำ รวมเด็กนั่นด้วย เพราะมีคนอยากได้และไม่ได้หลายคนไงล่ะ”
“ไม่ได้สวยเลยแต่เล่นตัวจัง” อัศวินที่พูดอย่างไม่คิดแยแสอะไร เขาเองก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก ปากร้ายใช่ย่อยพอตัวใคร ๆต่างก็รู้ ถึงแม้ท่าทางภายนอกของเขาจะดูเป็นคนเงียบขรึมแต่เวลาอยู่กับเพื่อนนิสัยของเขาก็จะเป็นอีกแบบ เหมือนจะว่าคนอื่นที่ไม่สนิทก็ไม่มีทางรู้ว่านิสัยแท้จริงเขาเป็นยังไงอะไรทำนองนั้น
“ยากใช้ย่อยเลยแหละ”
“กูไม่เชื่อหรอกว่าจะยาก” ผู้ชายที่ผู้หญิงมักยอมพลีกายขึ้นเตียงกับเขาง่าย ๆ ได้ยินคำพูดของเพื่อนก็เอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน อัศวินเป็นคนที่นอกจากจะหน้าตาดีด้วยแล้ว ครอบครัวก็ร่ำรวยมากอีกด้วย ทำให้มีผู้หญิงพยายามเข้าหาเขามากมายพอสมควร แต่ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้กินไม่เลือก คนไหนถูกใจเขาถึงจะยอมขึ้นเตียงด้วยก็ทำนองนั้น
“หึ ถ้ามึงบอกว่าง่ายพนันกันไหมล่ะ” เป็นธามที่เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน
“เออ มึงกล้าพนันกับพวกกูไหม” กวินเองก็พูดเสริม เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าเพื่อนของเขาที่ได้ฉายา ผัวแห่งวิศวะ อย่างอัศวินจะสามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นยอมพลีกายให้รึเปล่า
“แล้วทำไมกูต้องพนันด้วย ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สเปกกูเลย ไม่เห็นว่าจะคุ้มค่ากับการที่กูต้องไปยุ่งวุ่นวายด้วย” สวยอันนี้ไม่เถียง แต่ท่าทางจืด ๆ นั่น เขาไม่ชอบ
“แล้วถ้าแลกกับกับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่มึงอยากได้แต่แม่มึงไม่ยอมให้มึงซื้อล่ะ ถ้าภายใน 3 เดือนมึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นของมึงได้ กูกับไอ้กวินจะหารครึ่งยอมเอาเงินมาซื้อให้มึงเอง”
“อ้าว รถสปอร์ตเลยหรอวะ” เขารู้ดีว่าอัศวินชอบรุ่นไหน ซึ่งราคามันไม่ใช่น้อย ๆเลย
“หึ มึงใจ ๆ หน่อยดินี่กูก็ทุ่มสุดตัวเลยนะเว้ย” เพราะเชื่อว่ารุ่นน้องคนนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เขาจึงกล้าเสี่ยง
“เออ เป็นไงเป็นกัน แค่ภายใน 3 เดือนนะมึงต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้ยอมเป็นแฟนมึงแล้วก็ยอมนอนกับมึง แล้วก็ต้องมีหลักฐานด้วยนะไม่งั้นกูไม่เชื่อว่ามึงทำได้” อัศวินที่กำลังยกแก้วเหล้ากระดกขึ้นอยู่นั้นก็ต้องใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มทันที เพราะเพื่อนของเขารู้จุดอ่อนว่าเขาต้องการอะไร เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินที่จะซื้อรถคันนั้นไม่ได้ ปัญหาคือแม่ของเขาไม่ให้ซื้อนี่สิเพราะเขาเพิ่งซื้อไปได้ไม่นาน อัศวินเป็นคนชอบรถมากเขาสะสมรถเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่าเขาครอบครองรถหรูเกือบ 10 คันเลยก็ว่าได้
“หึ ได้ งั้นตกลง พวกมึงเตรียมซื้อรถให้กูได้เลย!” อัศวินพูดจบก็จ้องมองไปยังร่างเล็กที่กำลังทำหน้าที่ของตนเองอยู่นั้น สายตาคมเข้มของเขาจ้องมองเธอไม่ต่างจากเหยื่อที่เขาคิดอยากจะตะครุบไม่มีผิด
ผ่านไปสักพักใหญ่
หญิงสาวที่ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเธอก็มองดูเวลาที่ตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของเธอแล้ว ปกติในแต่ละวันเธอเลิกงานไม่ตรงกัน ถ้าวันไหนเธอไม่ต้องปิดร้านก็ไม่ต้องอยู่ดึกเหมือนกับวันนี้ที่เธอได้กลับบ้านเร็วนั่นเอง
หลังจากที่หญิงสาวเคลียร์อะไรเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินมายังลิ้นชักเก็บของพนักงานก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกไปทางหลังร้านเพื่อที่จะกลับที่พักของตนเอง ซึ่งหญิงสาวเช่าห้องอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง มันไม่ได้หรูหราอะไรมากมายแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร พออยู่สำหรับเธอนั่นแหละแถมก็ไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยและที่ทำงานอีกด้วย
“อิงขึ้นรถสิ” เป็นเสียงของเพื่อนสนิทเอ่ยดังขึ้น เพราะเสียงนั้นจึงทำให้หญิงสาวชะงักไปทันที
“พล มาทำอะไรที่นี่”
“มารับอิงนั่นแหละ”
“มารับเราทำไม บอกแล้วไม่ใช่เหรอเรากลับเองได้”
“มันดึกแล้วนะอิง เราไม่สบายใจที่อิงกลับดึก ๆ แบบนี้ ขอให้เราได้มารับอิงได้ไหม อย่างน้อยเราจะได้สบายใจ” เกริกพลเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มของเธอนั่นเอง เธอและเขารู้จักกันมาเกือบปีแล้วนับตั้งแต่ที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อีกฝ่ายก็ดูเป็นคนที่ดีพอสมควรเธอถึงเป็นเพื่อนกับเขาได้
“แต่พลก็ต้องทำงานเราเกรงใจ” เพราะอีกฝ่ายก็เป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในเมืองหลวงไม่ต่างจากเธอ เขาเองก็ทำงานเหมือนกัน แต่คนละที่กับเธอ ชายหนุ่มพยายามจะมารับเธอหลังเลิกงานแต่เธอรู้ว่าเส้นทางมันคนละทางกันจึงรู้สึกเกรงใจเพื่อน
“ขึ้นมาเถอะน่า ดึกมากแล้วจะได้กลับไปพักผ่อน”
“เฮ้อ งั้นก็ขอบใจนะพล” เมื่อทนความรบเร้าของเพื่อนไม่ไหว อิงฟ้าจึงเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายออกไปก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนสนิทของตนเอง โดยภาพนั้นถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะแสยะยิ้มออกมาให้เห็น
“เหอะ ไหนว่ายาก” การที่เห็นหญิงสาวขึ้นรถไปกับผู้ชายคนอื่นเขาจึงเดาว่าเธอคงมีคนรักแล้วแต่ถึงจะรู้อย่างนี้อัศวินก็ไม่คิดหยุดกับการเดิมพันที่มีไว้กับเหล่าเพื่อนของเขา เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้จะยากอย่างที่เพื่อนบอกหรือเปล่า