ตอนที่ : 12 งานแรก 4
ด้านคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำนั้น ปารเมศรู้สึกว่าร่างกายของเขา เหมือนได้รับการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายมานาน เขาห่างหายจากเรื่องบนเตียงมานานมากแล้วจริง ๆ นับตั้งแต่ภรรยาได้จากโลกนี้ไป พร้อมกับลูกแฝดสาวน้อยวัยสามขวบทั้งสอง เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่พรากทุกสิ่งอย่างไปจากชีวิตเขา ผ่านมาสามปีแล้วเขาก็ยังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ บางค่ำคืนยังต้องอาศัยยานอนหลับด้วยซ้ำไป ทว่าเมื่อคืนนี้เขากลับหลับได้ง่ายกว่าทุกคืน
‘คงเพราะใช้แรงเยอะ’
เขาส่ายหน้าไปมา เปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลกระทบศีรษะแรง ๆ แล้วสะบัดไปมาเพื่อไล่ความคิดให้โล่ง เสร็จแล้วก็ปิดน้ำ หันไปคว้าผ้าขนหนูผืนน้อยมาเช็ดเส้นผม ส่วนผืนใหญ่เอามาพันสะโพกไว้ ปารเมศเดินออกจากห้องน้ำมา ก็เป็นอันต้องตกใจกับสภาพของคัทลิน ที่กำลังกลิ้งตัวงออยู่บนเตียงนอน
“เป็นอะไรไปแคท” เขารีบเข้าไปดูอาการของหญิงสาว
“เอ่อ แคทปวดหัวค่ะ คุณปารเมศพอจะมียาแก้ปวดบ้างไหมคะ”
“ยาแก้ปวดผมไม่มีหรอก แต่ว่าคุณทินกรน่าจะมี รอเดี๋ยวนะ” เขาบอกแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ กดเบอร์โทรหาทินกรในทันที
“ผมเห็นคุณพกยาด้วยเวลาเดินทาง พอจะมียาแก้ปวดไหมคุณทินกร” เขาถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน สายตายังมองหญิงสาวบนเตียงด้วยความเป็นห่วง
“มีครับคุณปารเมศ”
“ช่วยเอามาให้ผมที่ห้องหน่อยนะ”
“ครับ ๆ” ทินกรนึกว่าเจ้านายตัวเองปวดหัว เลยรีบนำยาแก้ปวดมาเคาะประตูห้องเรียก
“ขอบคุณมากนะคุณทินกร” ปารเมศเปิดประตูห้องมารับยา ทั้งที่มีผ้าขนหนูพันสะโพกไว้แค่ผืนเดียว
“ว่าแต่คุณปารเมศเป็นอะไรหนักหรือเปล่าครับ ต้องไปโรงพยาบาลไหม ถ้าต้องไปให้รีบบอกผมเลยนะครับ เดี๋ยวผมขับรถพาไปเอง”
“ไม่ใช่ผมหรอกคุณทินกร แคทน่ะ” ปารเมศบอกยิ้ม ๆ ก่อนจะดันปิดประตูห้องลง
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับงง ว่าเจ้านายตัวเองหมายถึงใคร แคทไหน หรือว่า เขาตกใจเมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนนี้ ธีรวิทย์เลี้ยงต้อนรับการร่วมงานกัน คงมีสาว ๆ มาคอยดูแล ไม่น่าเชื่อว่าปารเมศจะพาผู้หญิงกลับมาด้วย เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แต่ให้คิดอีกทีก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่เหมือนกัน
ภายในห้องพักคัทลินแบมือรับยาจากปารเมศ นำเข้าปากตัวเองแล้วตามด้วยน้ำดื่ม โดยที่เขากำลังยืนกอดอกมองด้วยความสนใจ ในอาการไม่ปกติของหญิงสาว
“คุณป่วยเหรอแคท” และถามออกไปตรง ๆ
“เปล่าค่ะ” คัทลินเงยหน้าขึ้นมาตอบเขา ก่อนวางแก้วน้ำดื่มลงบนโต๊ะ
“ถ้าไม่ได้ป่วยแล้วทำไมถึงมีอาการปวดหัว จนต้องกินยาแก้ปวดด้วยล่ะ”
“ก่อนหน้าไม่นานมานี้ แคทเกิดอุบัติเหตุโดนรถชนค่ะ หัวกระแทกพื้นเลยมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ” คัทลินเล่าความจริงไม่หมด ไม่อยากให้เขามาซักถามอะไรเพิ่มเติม ยิ่งไม่อยากบอกด้วยว่าเธอความจำเสื่อม คงดูไม่ดีเท่าไรนักหากลูกค้ารู้ ว่าคนที่บริการตัวเองมาตลอดทั้งคืนนั้น ไร้ซึ่งความทรงจำในอดีตแม้แต่เรื่องเดียว
“แล้วยังไม่หายดีเหรอถึงได้ยังปวดอยู่”
“หายแล้วค่ะ แต่ยังมีอาการปวดอยู่บ้างเป็นครั้งคราว เอ่อ แคทขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะคุณปารเมศ ขอบคุณสำหรับยาแก้ปวดอีกครั้งค่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่อยากตอบคำถามเขาอีกต่อไปแล้ว
ตอนอาบน้ำอยู่นั้นคัทลินรู้สึกปวดแสบตรงกลางร่าง แต่พยายามฝืนอาบจนเสร็จ จากนั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นชุดเดิม ออกจากห้องน้ำมาก็ต้องหยุดชะงักอยู่กับที่ เพราะปารเมศกำลังยืนกอดอกจ้องมองมาที่เธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณปารเมศ” หญิงสาวต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถาม เพราะเขาเอาแต่นิ่งไม่พูดอะไรออกมาสักที
“นี่เป็นครั้งแรกของคุณเหรอแคท” แต่แล้วคำตอบของเขา ก็ทำให้คนได้ยินรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องถามเรื่องนี้ด้วย
“ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ” หญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เธอทำอาชีพนี้มานานแล้ว มาดามไลลากับเจสซี่เป็นคนบอกเอง จะเป็นครั้งแรกได้อย่างไรกัน
“ทำไมมีเลือด” เขาเอียงหน้าไปที่ผ้าปูเตียง
คัทลินหน้าเหวอเล็กน้อยหลังได้ยิน ปรายตามองตามเขาไปตรงเตียงนอน เธอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จ้องมันให้ชัด ๆ พบว่าเป็นรอยเลือดแห้งเกรอะกรังอยู่จาง ๆ ได้แต่ยืนนิ่งตัวชาไปเหมือนกัน
“หรือว่าประจำเดือนมาแต่ฝืนมาทำงาน” น้ำเสียงเขาออกแนวตำหนิทันทีหากว่าเป็นเรื่องนี้
“ไม่ใช่นะคะ ประจำเดือนหมดตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว” หญิงสาวรีบหันมาส่ายมือปฏิเสธทั้งสองข้าง
“แล้วมันเลือดอะไร !”
“เอ่อ แคทไม่รู้ค่ะ ของคุณหรือเปล่าคะ”
“นี่เธอบ้าหรือยังไง ! ผมจะไปมีเลือดออกได้ยังไง” ยิ่งปารเมศตวาดเสียงดัง คัทลินก็ยิ่งตกใจกลัวเขามากขึ้นกว่าเดิม
“บ้าจริง คุณเป็นโรคร้ายอะไรหรือเปล่าแคท” ปารเมศเดินเข้ามากระชากต้นแขนของหญิงสาว แล้วเขย่าถามแรง ๆ
“ผมถามว่าคุณเป็นโรคร้ายอะไรหรือเปล่า !”
“แคทไม่รู้ค่ะ ! เจ็บนะ !” สีหน้าบิดเบี้ยวของคัทลินทำให้อีกคนยิ่งโมโห เขาดันตัวของหญิงสาวให้ลงบนเตียงนอนแบบแรง ๆ
ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ เหมือนคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือ เพื่อหาคนช่วยในเรื่องนี้ ไม่ช้าเลขาส่วนตัวของเขา ก็เดินเข้ามาภายในห้อง คัทลินนั่งหน้าเสียอยู่บนโซฟา ตรงข้ามก็เป็นปารเมศ
“นั่งลงก่อนสิคุณทินกร” ปารเมศผายมือให้ทินกรนั่งลงบนโซฟา
“ครับ”
“นี่แคทคัทลินคนที่คุณธีรวิทย์พามาเมื่อคืน ผมอยากให้คุณพาเธอไปตรวจเลือด เอาให้ละเอียดทุกโรคที่มีการติดต่อกันนะ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” คำพูดของเขาเหมือนกำลังตบหน้าคัทลินอยู่ หญิงสาวกลืนก้อนสะอึกลงคอฝืด ๆ อยากร้องไห้เต็มทนแต่จำต้องกลั้นเอาไว้
“คุณปารเมศไม่ได้ใส่ถุงยางเหรอครับ ถึงต้องตรวจกันละเอียดขนาดนั้น” ทินกรถามเพราะสงสัยจริง ๆ
“ใส่แต่ของแบบนี้มันพลาดกันได้ ผมแค่อยากมั่นใจเท่านั้นเอง คุณทำได้ไหมคุณทินกรติดงานอื่นหรือเปล่า” ปารเมศไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริง และเขาก็ไว้ใจแค่ทินกรแค่คนเดียว