บท
ตั้งค่า

5. โง่ให้ก็ได้

เฟิงหรานถึงกับพูดไม่ออก หวนนึกถึงคำสารภาพของสาวใช้สองนางที่เขาพึ่งสอบสวนไป ผู้ติดตามในคณะเดินทางล้วนแต่ต้องการเอาชีวิตองค์หญิงหรูเชียนผู้นี้

ถึงขั้นวางยาพิษสลายเลือดให้นางดื่มทุกวัน จนร่างกายสะสมทำให้สติถดถอย พูดจาไม่รู้เรื่องในบางครั้ง และเมื่อคืนก็คือวันสุดท้ายที่นางควรต้องจบชีวิตแล้ว ทว่านางกลับยังอยู่

‘หรือยามันไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิต มันแค่ออกฤทธิ์ทำให้นางจดจำอะไรไม่ได้ สติปัญญาถดถอยลงงั้นหรือ’ เฟิงหรานนึกในใจ พร้อมกับมองอีกฝ่ายอย่างพินิจ จนแววตามันสื่อไปอีกอย่างโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่รอฟังอดต่อว่าไม่ได้

“ท่านคงไม่ได้คิดว่าข้าโง่หรอกนะ” ร้องถามออกไปเมื่อเห็นเขามองหน้า พร้อมกับใช้สายตาดูถูกอยู่ในที

“แล้วไม่ใช่หรือ ตัวอักษรไม่กี่ประโยคยังอ่านไม่ออก ไม่ให้เรียกว่า…โง่ แล้วจะเรียกอะไร” เน้นคำไปอีก

ใบหน้างามค้อนขวับเข้าให้ พร้อมกับหายใจแรงจนเนินอกพองยุบขึ้นลงตามจังหวะ ดึงดูดสายตาคนเจ้าชู้ได้ดีนักเชียว

ทว่า! ความอภิรมย์นี้ต้องสะดุดลงเมื่อเสียงนางดังขึ้น

“โง่ก็โง่ ก็ข้าอ่านไม่ออกจริง ๆ นี่ ท่านรู้ก็อ่านให้ฟังสิ” น้ำเสียงห้วนจนระคายหู นิสัย วาจา มารยาท ทำไมมันขัดกับหน้าตางามนี้นักนะ เฟิงหรานถึงกับกรอกตาแล้วก็ถอนหายใจ ตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนคราแรก

“นี่คือจดหมายลับของบิดาเจ้า” เอ่ยพร้อมกับลอบมองสีหน้านาง เขาอยากเห็นแววตาเศร้าหม่นขององค์หญิงผู้นี้ ทว่า!

“ฮ่องเต้แคว้นเหลียงน่ะหรือ” ถามอย่างพาซื่อ พอเห็นสายตาดุของคนตัวโตที่จ้องมาก็ยิ้มแหย “แหะ ๆ ต่อเลยเพคะ”

เฟิงหรานย่นคิ้วเข้าหากันพร้อมกับเหลือบตามองอย่างหงุดหงิด “จดหมายระบุให้สังหารเจ้าเมื่อเดินทางข้ามเขตแดนแล้ว ตายระหว่างทางได้ยิ่งดี” สิ้นคำเขาก็ยิ้มหยันนาง หมายจะเห็นสีหน้าเศร้าหม่นสักนิด เพราะองค์หญิงผู้นี้ ไร้มารยาท พูดจาก็ไม่มีหางเสียง ถ้าทำให้นางเจ็บปวดได้ คงสาแก่ใจน่าดู

“ข้ากับฮ่องเต้แคว้นเหลียงคงไม่ใช่พ่อลูกกันจริง ๆ พ่อที่ไหนจะสั่งคนเอาชีวิตลูกตนเอง” นางไม่ได้แค่เอ่ย หรูเชียนยังลุกขึ้นใช้มืออีกข้างกอดอก อีกข้างเคาะอยู่ที่แก้มของตนอย่างครุ่นคิด

“เจ้าเป็นบ้าอะไร ไม่เสียใจหรือที่บิดาสั่งฆ่า” คนนั่งมองอดไม่ได้จึงเอ่ยถาม เมื่อเห็นท่าทางนางไร้ซึ่งความเศร้าโศก

หรูเชียนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา ก่อนจะโน้มลงมาหาแล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัด “ก็บอกว่าจำอะไรไม่ได้ ความรู้สึกผูกพันธ์อะไรก็ไม่มี ท่านจะให้ข้าร้องไห้ฟูมฟายกระนั้นหรือ ถึงจะพอใจ” สิ้นคำก็หมุนตัวเดินกลับมานั่งที่เดิม “ว่าแต่ท่านอ๋องจับคนแคว้นเหลียงได้หมดแล้วจะทำเช่นไรต่อ ประหารหรือส่งกลับ” ถามในสิ่งที่ตนสงสัย ทว่าอีกฝ่ายยังคงนิ่งอยู่

“เอ้า! เข้าฌานไปแล้วเหรอ ถามก็ไม่ตอบ” พูดพร้อมกับโบกมือไปมาต่อหน้าเขาด้วย เฟิงหรานจึงรีบปัดออกทันที ซึ่งแรงที่เขาใช้มันก็มากอยู่ ทำให้มือเล็กสะบัดไปฟาดกับขอบเตียงอย่างไม่ตั้งใจ เป็นเหตุให้หรูเชียนร้องเสียงหลงทันที

“โอ๊ย!...เป็นผู้ชายภาษาอะไรทำร้ายผู้หญิง” มือขาวสะบัดไปมาเพราะรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย ไม่กี่อึดใจหลังมือก็ขึ้นสีแดงเรื่อ

“ใครใช้ให้เจ้าเสียมารยาท ข้าโตกว่าเจ้าตั้งสิบสี่ปี เจ้าควรรู้จักเคารพผู้ใหญ่บ้างสิ” แก้ตัวไปเรื่อย ทั้งที่สาเหตุที่ทำให้เขาเหม่อในคราแรกก็เพราะมัวแต่มองใบหน้างามที่โน้มเข้ามาใกล้ต่างหาก ทำให้เขาจับใจความสิ่งที่นางพูดไม่ได้เลย

“สิบสี่เลยหรือ อืม…แก่กว่าเยอะจริง ๆ นั่นแหละ เกือบจะเป็นบิดาข้าได้เลยนะเนี่ยะ” เอ่ยโดยไม่คิดอะไร

ทว่าคนฟังนั้นหน้าเสียไปแล้ว เกิดมายังไม่เคยมีใครว่าเขาเช่นนี้เลยสักหน นางถือดีอะไรมาว่าเขา “แต่ข้าไม่อยากมีลูกไร้มารยาทเช่นเจ้า” เสียงรอดไรฟันเปล่งออกมาให้ได้ยิน

ใบหน้างามหันขวับกลับมาทันที พอเห็นสายตาคมดุของอีกฝ่ายจึงรู้ว่าตนนั้นพลาดอีกแล้ว นางรีบขยับลงไปนั่งคุกเข่า ยกมือประสานกันเหมือนที่สาวใช้ทำ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อน

“ท่านอ๋อง มิน…เอ่อ หรูเชียนแค่เย้าเล่นนะเพคะ อย่าถือสาเลยนะ ท่านอ๋องออกจะรูปงาม สง่า น่าเกรงขาม หน้าตาเหมือนบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบต้น ๆ เลย หรูเชียนก็แค่องค์หญิงตัวน้อยที่พลัดถิ่นมาออกจะน่าสงสาร บิดาก็สั่งให้วางยาจนตอนนี้สติเลอะเลือน ทำให้กล่าวถ้อยคำไร้มารยาทกับพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านอ๋องได้โปรดเมตตาอย่าถือสาหรูเชียนเลยนะเพคะ” กล่าวจบก็ส่งสายตาออดอ้อนอย่างถึงที่สุด

เฟิงหรานนิ่งไปอีกรอบ สายตาเขาจับจ้องที่ใบหน้างามสลับไปมากับมือนางที่วางทับกันอยู่ มันแดงจนเขาเกรงว่าอีกไม่นานมันคงต้องบวมขึ้นมาแน่ ผิวพรรณดีดีเช่นนี้ไม่ควรต้องมีรอย

ทว่าเจ้าของมือไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ที่ร้องเสียงดังก็เพื่อให้เขาสนใจเท่านั้น ไม่ได้เจ็บปวดมากมายอะไร ส่วนสีแดงเข้มบนหลังมือก็เป็นเพราะเจ้าของร่างมีผิวพรรณบอบบาง

ยามปกติเมื่อต้องลมหนาวแก้มนางก็ขึ้นสีแดงเรื่อแล้ว พอร่างกายกระทบกับของแข็งจึงไม่แปลกที่มันจะเป็นเช่นนี้

“ลุกขึ้นมา จะได้คุยเรื่องเมื่อครู่ให้จบ” บอกเสียงเรียบ คำพูดของนางมันทำให้เขาใจอ่อนได้จริง ๆ รวมถึงรอยแดงบนหลังมือด้วย มองแล้วก็รู้สึกผิดอย่างไรไม่รู้ หากไม่เกี่ยวกับการรบหรือการต่อสู้ยามถูกลอบสังหาร เขาก็ไม่เคยทำร้ายสตรีคนไหนเลย นี่คือครั้งแรกก็ว่าได้

ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้ม เมื่อน้ำเสียงท่านอ๋องเบาลง

“ท่านอ๋องจะจัดการกับผู้ติดตามเหล่านั้นเช่นไรเพคะ” พอเห็นเขาเย็นลงนางก็เอ่ยถาม และพยายามทำตัวให้มีมารยาทโดยการนั่งนิ่ง เอามือวางทับกันจนหน้าหมั่นไส้

“เจ้าไม่มีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์คนของตนเลยหรือ” ถึงนางจะบอกว่าจำอะไรไม่ได้ ทว่าคนเราต้องมีจิตสำนึกที่ฝังอยู่ในใจ อย่างไรเสียมันก็ไม่มีทางหายไปหมดเป็นแน่ ใบหน้างามหันกลับมามองเขา แววตานางดูเหมือนมีบางอย่างปิดซ่อนเอาไว้

“หากพวกเขาไม่ได้หมายจะเอาชีวิตองค์หญิงหรูเชียนจนถึงแก่ความตาย ข้าอาจมีใจเมตตาร้องขอให้ท่านปล่อยตัวพวกเขากลับแคว้นเหลียง ทว่ามันมิใช่เช่นนั้น คนเหล่านี้เลือดเย็นเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ปรานีไปก็ไร้ค่า วันหน้าอาจเป็นภัยต่อผู้อื่นก็ได้ ตัวข้าก็ไม่ใช่คนดีอะไร ใครดีมาก็ดีตอบ ร้ายมาก็ร้ายกลับแค่นั้น” เอ่ยโดยไม่แยแสสิ่งใด

และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง คนจากยุคปัจจุบันไม่อาจรู้ได้ว่าใครที่หวังดี ใครหวังร้ายกับตน ช่วงเวลานี้นางไม่มีโอกาสเรียนรู้หรือสืบประวัติใครทั้งนั้น การอาศัยยืมมือคนอื่นจัดการมันง่ายที่สุดแล้ว ส่วนปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า ก็ปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดอีกทีก็แล้วกัน

“ไม่เกรงว่ามันจะกระทบแผนการณ์ของบิดาเจ้าหรือ หากเจ้าไม่ตายเขาก็ไม่มีวันได้บรรณาการจากแคว้นเป่ย เจ้ามีชีวิตอยู่เขาก็มีแต่เสียกับเสีย” เฟิงหรานเอ่ยแล้วก็มองเสี้ยวใบหน้างามที่ยังนิ่งอยู่ สายตานางทอดมองไปที่ทางเข้า ก่อนที่เสียงถอนหายใจจะดังขึ้นมา ฟังดูเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

“หากข้าเลือกเกิดได้ก็ดี องค์หญิงแปดอะไรนี่ข้าไม่ขอเป็นเด็ดขาด เกิดเป็นลูกชาวบ้านธรรมดายังจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องตกอยู่ในวังวนการแย่งชิงอำนาจของใคร มีชีวิตอิสระอยากทำอยากพูดแบบไหนก็ได้ ไม่ต้องมานั่งรักษาภาพลักษณ์อะไรให้เหนื่อย” ในประโยคที่นางเอ่ยเจือปนความจริงบางอย่างอยู่

เฟิงหรานหรี่ตามองสตรีตัวน้อยที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย คำพูดของนางฟังแล้วหดหู่ใจอย่างไรไม่รู้

‘นางจำอะไรไม่ได้จริง ๆ หรือทั้งหมดเป็นเพียงการเสแสร้ง เพื่อปิดบังความจริงบางอย่างกันนะ’

#อีพี่ว่าน้องโง่  น้องเลยเอาคืนโดยการว่าอีพี่แก่  555

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel