EP 7 : เจอกันอีกครั้ง
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 7
ช่วงเที่ยงของวัน....@สนามแข่งรถ
ผู้คนที่มีใจรักในการแข่งรถต่างพากันเข้ามาในสนามเพื่อชมการแข่งขันในวันนี้ ทุกคนรู้ดีว่าวันนี้คาลอสกับจัสตินลงแข่ง และจะเปลี่ยนจากสนามแข่งรถธรรมดาให้เป็นสนามแข่งที่อาจนองไปด้วยเลือด เพราะความดุเดือดของทั้งคู่ในรอบที่แล้วยังสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าชมไม่น้อย การแข่งขันวันนี้ไม่ได้รับการเผยแพร่ออกอากาศแต่อย่างใด เพราะความอันตรายในสนามไม่สามารถให้เยาวชนดูได้ แต่ในโซเชียลก็แตกตื่นกันตั้งแต่รู้ว่าคู่เดือดวันนี้เป็นใครทำให้ผู้คนแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก
จัสตินที่อยู่ในชุดนักแข่งกำลังเช็กสภาพรถเป็นครั้งสุดท้าย ก็ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่ที่อยู่แถวนั้นมองชายหนุ่มตาเป็นมัน รอยสักกร้าวใจทำเอาสาวๆอ่อนระทวย ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกตามแบบฉบับแบดบอยต่างเป็นที่ต้องการของเหล่าพริตตี้สาว แต่ทุกคนต้องรีบหันหนีเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของพริตตี้สาวที่มีข่าวว่ากำลังขั้วอยู่กับจัสติน
"ทำไมคุณไม่บอกคาร่าคะว่าวันนี้มีนัดลงสนามสำคัญ"
"ฉันอยากใช้สมาธิ" จัสตินบอกปัดไปด้วยความรำคาญ ถึงเขาจะเคยร่วมหลับนอนกับเธอแต่ก็ไม่ชอบผู้หญิงวุ่นวายตามติดชีวิตเขาทุกฝีก้าว
"ทำไมละคะ หลายวันมานี่เราไม่เจอกันทำให้คุณหงุดหงิดใช่ไหมคะ เอาไว้แข่งเสร็จแล้วเราไปฉลองที่ห้องคาร่าเหมือนเดิมไหมคะ" คาร่าก้มลงพอที่จะให้ชายหนุ่มได้เห็นหน้าอกคัพดีที่เนรมิตด้วยมีดหมอ
"คาร่า กลับไปซะ" จัสตินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความอำมหิต สายตาคมกริบคู่นั้นจ้องเธออย่างคาดโทษบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย สิ่งที่เธอกำลังยั่วยวนไม่มีผลต่อความรู้สึกเขาแม้แต่นิดเดียว
"ค่ะ" พริตตี้สาวหน้าบูดบึ้งเดินกระทืบเท้าออกไปห่างๆ และตวัดสายตาไปหากลุ่มผู้หญิงพวกนั้นที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยเธออยู่ ทำเอาพริตตี้สาวหงุดหงิดมากกว่าเก่าที่จัสตินทำเหมือนไร้เยื่อใยกับเธอ ทั้งที่วันก่อนยังดุเดือดเผ็ดมันกันเกือบเช้า สุดท้ายพริตตี้สาวก็ต้องยอมกลับไปเพราะกลัวว่าจะทำให้มาเฟียหนุ่มไม่พอใจแล้วเธอจะไม่ได้อะไรจากเขาอีก
"เฮ้...มึงพูดกับสาวสวยแบบนั้นได้ไงวะ"
แค่ได้ยินเสียงก็ไม่ต้องหันไปมองว่าเป็นใคร เพราะมันคือคู่แข่งเขาวันนี้
"อีกครึ่งชั่วโมงจะลงสนามกูว่ามึงควรกลับไปในที่ของมึงจะดีกว่า" จัสตินหันมามองชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่แต่งกายคล้ายกับเขาด้วยท่าทางไม่พอใจ
"กูก็แค่อยากแวะมาให้กำลังใจคู่แข่งก็เท่านั้น แต่สายตามึงเหมือนรังเกียจกูเลยนะไอ้จัสติน"
"....." จัสตินนิ่งเงียบไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเพราะเมื่อไหร่ที่เขาหมดความอดทน พื้นที่ตรงไหนก็เป็นสนามรบได้ทุกเมื่อ และอาจจะเปลี่ยนจากแข่งรถเป็นสงครามลูกปืนแทน
"อยากทำหน้าแบบนั้นสิเพื่อน...กูแค่อยากจะมาบอกอะไรนิดหน่อย ถ้ามึงทิ้งพริตตี้คนนั้น เท่ากับว่ามีผู้หญิงที่มึงทิ้งอย่างไร้เยื่อใยถึงสองคนอยู่ในสนามนี้เลยนะ ผู้หญิงที่มึงคลุกเข่าขอเป็นแฟนก็มาที่นี่เหมือนกัน อยากเจอไหมล่ะ" คาลอสยกยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่าเพราะเขารู้เรื่องราวในอดีตและปัจจุบันของจัสตินอยู่พอสมควร
"ถ้าพูดจบแล้วก็กลับไปซะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน" จัสตินกัดสันกรามแน่นด้วยความเดือดดาล ไม่แปลกที่คาลอสจะรู้เรื่องราวของเขา เพราะตัวเขาเองก็รู้เรื่องราวของศัตรูเช่นกัน จัสตินเข้าใจความหมายของคาลอสดีและรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใครมีเพียงคนเดียวที่เขาลงทุนทำเรื่องแบบนั้น
"พอพูดถึงผู้หญิงคนนั้นความอดทนมึงต่ำจังนะ ชื่ออะไรนะ...อ่อกูนึกออกละ นับดาว ใช่ไหม"
เพล้ง
จัสตินโยนประแจในมือทิ้งจนเกิดเสียงดังและเพียงพริบตาบรรดาลูกน้องของทั้งสองฝั่งจ่อปืนใส่กันพร้อมที่จะปกป้องเจ้านายตัวเอง
"คำพูดของมึงกูไม่เคยเอามาคิดให้รกสมอง กลับที่ของมึงไปซะอย่าคิดเข้ามาปั่นประสาทกู ถ้าจะเล่นตุกติกไปเล่นกับกูในสนามกันตัวต่อตัว แต่จะว่าไปการที่มึงเข้ามาในเขตกูแล้วพาลูกน้องยกโขยงกันมาขนาดนี้แสดงว่ามึงก็กลัวกูอยู่ไม่น้อยนะคาลอส" จัสตินพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเหนือกว่า
"แน่จริงตัวต่อตัวกับกูจะดีกว่า อย่าเป็นลูกแหง่ที่หลบอยู่หลังคนอื่นเลย" จัสตินเดินเข้าไปใกล้คาลอสมากกว่าเดิมและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินแค่สองคน ท่าทางของจัสตินบ่งบอกถึงการหยามฝ่ายตรงข้ามอย่างเปิดเผย ก่อนจะถอยหลังห่างออกมาและพยักหน้าให้กับวินตันจัดการต่อ
วินตันผายมือเชิญคาลอสให้กลับออกไปอย่างนอบน้อมตามที่เจ้านายเขาต้องการ แต่ก็สังเกตเห็นท่าทางหงุดหงิดของศัตรู และไม่นานทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
หลังจากนั้นรถแข่งของจัสตินกับคาลอสก็ลงสู่สนาม เสียงเชียร์ดังกระหึ่มอย่างเช่นเคย ทุกคนรู้ดีว่าการแข่งขันวันนี้ดุเดือดไม่ใช่น้อย สายตาคมกริบมองไปยังคู่แข่งขันข้างๆ เห็นคาลอสยกยิ้มมุมปากพลางส่งสายตาไปขอบสนามซึ่งเป็นเต็นท์ของหน่วยฉุกเฉินโรงพยาบาล จัสตินตวัดสายตาไปมองจุดนั้นเพียงนิดอย่างไม่ใส่ใจ
"วันนี้นักแข่งหล่อมากเลยค่ะหมอนับดาว"
"หื้ม?" ฉันที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมความพร้อมเงยหน้ามองพยาบาลสาวด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่มาถึงฉันแทบไม่สนใจอะไรเลยเพราะต้องเตรียมนั่นเตรียมนี่
"เขากำลังมองมาที่เราด้วยค่ะหมอ ถึงจะเห็นแค่ตาก็รู้ว่าคนด้านในหล่อแค่ไหน"
ฉันมองไปยังสนามแข่งที่ตอนนี้มีรถสองคันจอดเพื่อเตรียมความพร้อม ฉันรู้ว่ารถมารอแข่งสักพักแล้วแต่ไม่ได้สนใจ แต่พอเหล่าพยาบาลสาวต่างตื่นเต้นและพูดกันไม่หยุดก็ทำให้ฉันมองไปยังคนขับที่เปิดกระจกมองมาทางนี้เหมือนกัน แต่แล้วทุกอย่างกลับหยุดนิ่งเมื่อสายตาของฉันและเขาสบตากัน ถึงแม้จะเห็นเพียงแค่ดวงตาสองข้างเพราะต้องใส่อุปกรณ์เซฟตี้แต่ก็รู้ว่าคือ...
"จัสติน" นับดาวพูดชื่อนี้ออกมาเบาๆ ดวงตากลมโตวูบไหวอีกครั้ง คนที่ฉันพยายามลืมมาตลอด พยายามไม่พูดชื่อเขา ตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่องราวที่ทำให้ฉันต้องเจ็บช้ำเราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย และไม่เคยต้องการเรียกร้องที่จะเจอเขาอีกแล้ว
"ทำไมหน้าซีดขนาดนั้นละ ไหวไหม" อานนท์รีบใช้หลังมือแตะเข้าที่หน้าผากมนเพราะสังเกตเห็นสีหน้าแฟนสาวซีดเผือดก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยิ่งเห็นมือของเธอสั่นเทายิ่งกังวลกลัวเธอจะเป็นลมหรือไม่สบาย
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" เมื่อได้สติฉันรีบหันไปตอบพี่นนท์ทันทีพร้อมกับเผยรอยยิ้มบางๆให้กับเขา และไม่คิดหันไปที่รถแข่งคันนั้นอีกเลย
"......" สายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดของโรงพยาบาลแต่กลับมีผู้ชายอีกคนสวมชุดคล้ายเธอยืนอยู่ข้างๆและทำท่าทีราวกับเป็นห่วงเป็นใย จัสตินเบือนหน้าหนีทันทีแต่กลับสะดุดสายตาของคาลอสที่มองเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
จัสตินไม่ได้สนใจกับสายตาของศัตรูและกลับมาจดจ่ออยู่กับการแข่งขัน มือหนากำพวงมาลัยแน่นราวกับจะบีบให้มันแหลกคามือ ไม่รู้ทำไมอาการหงุดหงิดถึงเกิดกับเขาได้ทั้งที่เขากับเธอไม่เจอกันเลยเป็นเวลาหลายปี และเขาก็ไม่เคยอาลัยอาวรณ์เธอเลย
ตึ้ง....ตึ้ง....
เสียงสัญญาณเตือนให้ผู้แข่งขันเตรียมตัวดังขึ้นทำให้จัสตินหยุดคิดทุกอย่างและมุ่งมั่นอยู่กับการแข่งขันในวันนี้
บรื้น บรื้น...
เสียงรถแข่งทั้งสองคันคำรามแข่งกันเพื่อเรียกความฮึกเหิมของตัวเอง
"อีกหนึ่งนาทีเราจะเริ่มการแข่งขัน เรามาลุ้นกันว่าระหว่างจัสตินกับคาลอสใครจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้ บอกเลยว่าวันนี้ต้องดุเดือดแน่นอนเพราะทั้งคู่ถูกขนานนามว่าราชสีห์แห่งสนามแข่งรถ อย่างที่เรารู้กันราชสีห์จะมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น จัสตินจะสามารถครองตำแหน่งที่หนึ่งตลอดกาลได้หรือไม่ การแข่งขันครั้งนี้ไม่มีใครรู้ว่าเงินเดิมพันมากน้อยแค่ไหนแต่ที่รู้กันคือศักดิ์ศรีจะมาหยามกันไม่ได้" เสียงประกาศของพิธีกรในสนามสร้างความลุ้นระทึกให้กับผู้เข้าชมไม่น้อย
บรื้น บรื้น...
ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง
ปี๊ดดดดด
บรื้นนนนน...
รถแข่งทั้งสองคันเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์ จัสตินประคองรถด้วยความเร็วอย่างชำนาญ ต่อให้โค้งที่ว่ายากเขาก็สามารถพารถแข่งคู่ใจไปอย่างราบรื่นความเร็วไม่มีตกแม้แต่น้อย ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเพราะตอนนี้รถแข่งของเขาก็ขึ้นมาเป็นคันแรกแต่ศัตรูตัวร้ายอย่างคาลอสก็จี้มาติดๆ