เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ตอนที่ 3
เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ม่านไหมใช้เวลาสองวันเพื่อรอการตอบกลับจากโรงแรมที่เธอนั้นยื่นสมัครงานไว้ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ติดต่อมาก็รู้สึกหมดหวัง หลังส่งลูกสาว ทั้งสองที่โรงเรียนแล้ว เธอก็ตะเวนสมัครงานใกล้บ้าน เริ่มจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่เมื่อเธอเห็นสายตาเจ้าของร้านซึ่งเป็นชายวัยกลางคนแล้วก็ตัดสินใจปฏิเสธไม่ขอร่วมงานด้วย เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง อีกอย่างเธอก็ไม่สามารถทนทำงานกับพวกหัวงูได้
หญิงสาวเดินทางมาที่โรงงานผลิตพลาสติกใกล้บ้านเพื่อสมัครงานในตำแหน่งเสมียน แม้เงินเดือนจะมากกว่าที่ทำงานเดิมเพียงสองพันแต่หญิงสาวก็ตัดสินใจแล้วว่าจะงานที่นี่ แต่ขณะที่กำลังจะกรอกใบสมัครเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะ”
ม่านไหมเดินเลี่ยงออกมาด้านนอกเพื่อรับสาย ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยตอบกลับมา
“คุณม่านไหมใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ โทรมาจากที่ไหนเหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“โรงแรมแกรนด์ริเวอร์รอยัลค่ะ”
ดวงตาคนตื่นเต้นเบิกกว้าง รอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าทางโรงแรมจะตอบกลับมาเพราะรู้สึกหมดหวังไปแล้วด้วยซ้ำ ม่านไหมตัดสินใจคืนใบสมัครก่อนจะก้มหัวเป็นการขอโทษและเดินดุ่มออกมาหน้าถนน ระหว่างนั้นก็คุยโทรศัพท์กับปลายสายไปด้วย
“คุณสะดวกมาสัมภาษณ์งานไหมคะ”
“สะดวกค่ะ วันนี้เลยก็ได้ค่ะ”
น้ำเสียงนั้นกระตือรือร้น ม่านไหมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ หากเธอได้งานนี้ เธอก็จะได้เงินเดือนเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่ทำงานก็อยู่ตรงข้ามกับบ้านของเธอ มีเพียงแม่น้ำคั่นกลางเท่านั้น
“โอเคค่ะ งั้นถ้ามาถึงแล้วแจ้งพนักงานที่ล็อบบี้นะคะว่ามาสัมภาษณ์งาน”
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ม่านไหมดีใจจนแทบกระโดดตัวลอย เธอเดินตรงมาที่ท่าเรือก่อนจะจ่ายเงินเพื่อผ่านเข้าไปด้านใน
หญิงสาวก้าวขึ้นจากเรืออย่างช้าๆก่อนจะเดินตรงไปยังโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
ม่านไหมสำรวจดูตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง วันนี้เธอสวมกระโปรงทรงเอสีดำเกือบถึงเข่า และเสื้อเชิ้ตสีครีม ผมดำขลับมัดรวบเป็นหางม้าเพื่อความเรียบร้อยบุคลิกภาพที่ดีบวกกับใบหน้าที่สะสวย ทำให้เธอนั้นมักจะตกเป็นเป้าสายตาอยู่เสมอ
“สวัสดีค่ะ มาสัมภาษณ์งานค่ะ”
“เชิญทางนั้นเลยค่ะ ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ”
ม่านไหมเอ่ยขอบคุณก่อนจะสูดลมหายใจลึกและเดินไปตามทางที่อีกฝ่ายบอก เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านในก็พบว่ามีคนมานั่งรอสัมภาษณ์งานก่อนหน้าถึงสามคน แต่เพราะม่านไหมนั้นโดดเด่นกว่าใคร ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาอีกครั้ง
หญิงสาวหย่อนกายนั่งลงก่อนที่จะบีบมือตัวเองเบาๆ
“เชิญคุณม่านไหมค่ะ”
กว่าจะถึงคิวสัมภาษณ์ก็ใช้เวลานานพอสมควร หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ความเย็นกระทบผิวทำให้ขนเธอลุกซู่ชูชัน
“ในใบสมัครกรอกไว้ว่าคุณสามารถพูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ดี”
“ค่ะ”
หญิงสาวตอบสั้นๆอย่างถ่อมตัว อีกฝ่าย พยักหน้าพลางหรี่ตามองหญิงสาวอย่างสนใจม่านไหมเป็นคนบุคลิคดี แม้นัยน์ตาจะดูเศร้าแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เธอทดสอบภาษาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าม่านไหมทำได้เป็นอย่างดี
“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าคุณจะจบแค่มัธยมปลาย ภาษาคุณดีมาก ดีกว่าคนจบปริญญาเสียอีก”
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยเรียนมหาลัยค่ะ แต่มีเหตุจำเป็นเลยเรียนไม่จบ”