บท
ตั้งค่า

๔ พลอดรัก (๑)

พลอดรัก

แก้วยาดองถูกยกขึ้นกลืนลงคอหลายแก้ว นายอำเภอที่ตั้งมั่นกับตัวเองจะหยุดที่สองแก้ว แต่ตอนนี้หมดไปเป็นสิบโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังดื่มแอลกอฮอล์ที่กนกวดีผสมใส่น้ำเปล่า โดยแกล้งบอกว่าเป็นยาดอง

จากนั่งตัวตรงกลายเป็นว่าศีรษะเริ่มเอน ดวงตาปรือพยายามมองคนที่นั่งตรงข้ามซึ่งยังคงครองสติได้ครบถ้วน

ของพวกนี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก คอแข็งขนาดนี้ มาพร้อมกันสามขวดก็ไม่เมา...

“อ่า! เอาอีกครับ เอามาอีก หวานชื่นใจคล่องคอ อร่อยมาก อึก เลย มาอีกครับ” พูดลิ้นพันกันฟังแทบไม่รู้เรื่อง หล่อนแอบยกยิ้มเมื่อคิดว่าแผนของตนกำลังไปได้สวย เหมาะแก่การพาเขาออกจากงานวัดเพื่อไปสนุกกันแล้ว

“คุณอั๋นคะ เมามากแล้วนะคะ กริ้งว่าเราไปเดินรอบงานวัดดีกว่าค่ะ ไปกันนะคะ” ลุกจากเก้าอี้แล้วมาประคองร่างสูง ทว่าเขาเลือกจะผละห่าง เงยหน้ามองหล่อนด้วยแววตาออดอ้อนจนร่างบางทำตัวไม่ถูก เขินกับสายตาของภูมิรพี

“ผมยังอยากกินอยู่เลย”

“อย่าอ้อนแบบนี้สิคะ กริ้งใจไม่ดีเลย...อีกแก้วก็ได้ค่ะ ให้แก้วสุดท้ายแล้วพอนะคะไม่กินต่ออีกแล้ว แค่นี้ก็น่าจะพอ” พอเจอลูกอ้อนก็กลายเป็นว่าแอบเทอีกแก้วให้ชายหนุ่ม ทว่ากลับมีบุคคลที่สามโผล่มาขัดจังหวะซะก่อน

“นายครับ!”

“ลุงแสงมาได้ไง” มองคนตรงหน้าแล้วถามเสียงดัง ลุงแสงคือคนขับรถของนายอำเภอที่คอยตามติดตลอด หล่อนก็อุตส่าห์เอาเหล้าไปให้คิดว่าจะกินเลี้ยงกันทั้งคืนซะอีก ไม่นึกว่าจะโผล่มางานวัดได้จนต้องถามด้วยความสงสัย

“มารับนายกลับบ้านน่ะสิ เห็นมีคนบอกว่านายเมากลับเองไม่ไหว ข้าก็รีบวิ่งมาเลย” กำลังกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนานก็มีคนมาบอกว่านายอำเภอเมา จึงรีบขับรถมารับเจ้านายของตัวเองทันที แล้วก็เป็นจริงเมื่อภูมิรพียิ้มให้คนไปทั่วทั้งยังตาหวานเยิ้มอีกต่างหาก

เกือบปล่อยนายเมาอยู่งานวัดเสียภาพลักษณ์นายอำเภอแล้วไหมล่ะ

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันพานายกลับเอง ลุงไปพักผ่อนเถอะ” รีบขัดขวางกลัวว่าแผนของตัวเองจะล่ม แต่ลุงแสงก็ยังยืนยันเสียงหนักแน่น ยิ่งเห็นเจ้านายตัวเองแทบจะหัวทิ่มลงพื้นก็เป็นห่วงอย่างยิ่ง เข้าไปประคองอีกฝ่ายเอาไว้

“ได้ยังไงล่ะ เอ็งตัวเท่าเมี่ยงจะแบกนายไหวได้เหรอ ข้าพากลับเองดีกว่า...อึ้บ มาครับนาย กลับไปที่รถนะครับ” กนกวดีที่คิดว่าแผนกำลังไปได้สวยกลับต้องคิดใหม่อีกรอบว่าจะเอาอย่างไรดี หรือควรพากลับบ้านแล้วอาสาดูแล

อย่างนั้นก็เข้าท่าดีเหมือนกัน...

“เดี๋ยว เดี๋ยวฉันช่วยประคองอีกข้าง” เข้ามาหิ้วปีกเขาอีกข้างแล้วพาเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอพยายามคิดหาจังหวะเหมาะสมที่จะขอดูแลชายหนุ่มเอง

“ชน ชนอีก!”

“นายเมามากเลยนะ” ใกล้ถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ลานกว้าง ลุงแสงก็พรูลมหายใจแล้วพูดกับเธอ แต่ร่างบางกลับพูดขัด

“เท่านี้แหละกำลังพอดี ไม่ถือว่าเมามากเกินไปหรอกน่า” ถึงรถยนต์ประจำตำแหน่งพอดี จึงช่วยกันพาชายหนุ่มเข้าไปนั่งเบาะหลัง ขณะที่เธอกำลังจะก้าวเข้าไปนั่งด้วย เพิ่งนึกออกว่าตนลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้านขายยาดอง

ดวงตากลมเบิกกว้างแล้วก่นด่าตัวเองในใจที่ลืมโทรศัพท์จนต้องรีบกลับไปเอาอย่างเร่งด่วน กลัวลุงแสงไม่รอ

“เอ๊ะ ลืมโทรศัพท์ ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้านเดี๋ยวมานะลุง” ก้าวเท้าไปยังร้านยาดองของเจ๊ไก่ เธอมองโต๊ะตัวเองที่ว่างเปล่าไม่มีโทรศัพท์ ใจหล่นลงไปกองแทบเท้า ย่ำเท้าเข้าไปหาคนขายที่คุ้นหน้าค่าตาเป็นอย่างดี

“ป้า เห็นโทรศัพท์หนูหรือเปล่า วางไว้โต๊ะนั้น”

“อยู่นี่ ป้าก็นึกว่าของใครมาลืมไว้ มองหาก็ไม่มีใครรู้ดีนะไม่หาย พวกขโมยมันยิ่งเยอะอยู่ด้วย ต่อไปนี้ก็เก็บไว้ดีๆ ล่ะหนู” ยิ้มกว้างเมื่อเห็นโทรศัพท์ของตัวเอง ตอนแรกคิดว่าหายแล้วซะอีก หล่อนอุตส่าห์กลั้นใจจ่ายเงินหลายหมื่นเพื่อได้มันมา

ถ้าหายคงนั่งเสียดายเป็นเดือน คนขี้งกอย่างกนกวดีกว่าจะควักเงินซื้อของแพงต้องทำใจเป็นเดือน

“จ้า ขอบคุณมากนะจ้ะ” ขอบคุณเจ้าของร้านแล้วเดินกลับมาที่ลานจอดรถ คิดว่าอย่างไรก็ต้องเจอภูมิรพีแต่กลายเป็นว่าว่างเปล่า รถยนต์คันนั้นอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย หล่อนถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกแล้วมองซ้ายขวา

“อ้าว หายไปไหน...” ยังไม่ทันได้ถามคนอื่น กลับมีข้อความส่งมาหาหล่อนจนต้องรีบยกโทรศัพท์ขึ้นอ่านทุกตัวอักษรด้วยความตั้งใจ

‘ผมอยากนัดกรุ้งกริ้งมาเจอกันที่กระท่อมริมบึงบัว อยากสารภาพความในใจบางอย่างกับคุณ เจอกันตอนสี่ทุ่มนะครับ ผมจะแอบออกมาจากบ้านเพื่อไปหาคุณ กลัวคนอื่นเห็นแล้วกรุ้งกริ้งเสียหาย’ ขยี้ตาตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด

คนที่ส่งข้อความมาหาเธอคือภูมิรพี...ไม่ผิดแน่!

“เขานัดฉัน! กรี๊ด อุ้บ! ความฝันเป็นจริงแล้วแม่ สี่ทุ่ม สี่ทุ่มเหรอ ตอนนี้สามทุ่มครึ่ง ตายๆๆ ต้องไปอาบน้ำอีกรอบ โอ๊ย อีกิ่ง เอ๊ย! กรุ้งกริ้งจะมีผัวแล้วแม่” ดีใจจนไม่อาจยืนนิ่งเฉยได้ เธอกระโดดโลดเต้นแล้วรีบปิดปากเมื่อมีคนมอง

ดีใจจนเนื้อเต้นรีบกลับบ้านไปอาบน้ำอีกรอบเพิ่มความหอมให้ร่างกายตัวเอง แล้วเลือกขับมอเตอร์ไซค์ไปยังสถานที่นัด

แต่ก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายรู้จักกระท่อมริมบึงบัวได้อย่างไร...

ความจริงกระท่อมนั้นเป็นของบ้านก้องคำราม แต่เพราะที่นาของหล่อนอยู่ติดกันจึงใช้ร่วมกันไปโดยปริยายเพราะสองแม่ช่วยกันสร้าง น่ารำคาญที่ถึงฤดูทำนาเมื่อไหร่เป็นต้องเสือทุกครั้ง

หล่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียกร้อยก็ขับรถมาตามทางลูกรังมายังสถานที่หมาย เสียงฟ้าร้องบ่งบอกว่าฝนกำลังจะตก เหมือนทุกอย่างเป็นใจจนกนกวดีแอบใจสั่นด้วยความตื่นเต้น

อีกไม่นานหล่อนจะมีผัวแล้ว!

“คุณอั๋นนะคุณอั๋น ความจริงแอบชอบเราก็ไม่บอกแต่แรก นัดมากระท่อมตอนกลางคืนจะทำอะไรได้อีก...ถ้าไม่เล่นผีผ้าห่ม” พูดกับตัวเองแล้วกลั้นยิ้มเอาไว้เพียงแค่คิดภาพ ไม่อยากนึกเลยว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เปรี้ยง!

“ว้าย ฝนตก!” ใกล้จะถึงกระท่อมแต่ฝนดันตกลงมาก่อนพร้อมเสียงฟ้าผ่า จนต้องรีบเร่งบิดมอเตอร์ไซค์ให้เร็วที่สุดก่อนจะเปียกไปมากกว่านี้

“เดี๋ยวสิยังไม่ถึงเลย ขอให้ถึงกระท่อมก่อนไม่ได้หรือไง โอ๊ย เปียก เปียกหมดแล้ว” ดับเครื่องยนต์ทันทีเมื่อถึงที่หมาย ฝนเม็ดใหญ่ตกกระทบกายจนต้องรีบเข้าไปในกระท่อมอย่างรวดเร็ว

ภายในมืดจนมองไม่เห็นใคร เธอนึกตกใจแต่ไม่นานกลับมีมือหนาเอื้อมมากอดเอวจากทางด้านหลังจนเผลอร้องอุทาน

“ว้าย” ปิดปากแน่นแล้วแอบอมยิ้ม ถ้าเริ่มด้วยกอดคงไม่หยุดแค่นี้หรอก กนกวดีเผลอยิ้มกระหย่องในใจคิดว่าอีกไม่นานตนจะได้เป็นคุณนายของท่านนายอำเภอแล้ว

แรงที่กอดจากทางด้านหลัง พร้อมกลิ่นเหล้าโชยเข้าจมูกทำให้เธอแอบยิ้มกริ่ม เสื้อผ้าเปียกปอนจากเม็ดฝนที่ตกกระทบกาย เสียงฟ้าคำรามทำให้เธอใช้จังหวะนี้รีบหันไปโอบกอดร่างหนาทันที ไฟจากข้างนอกถูกปิดสนิท หน้าต่างของกระท่อมก็ปิดลงเช่นเดียวกันเพื่อไม่ให้ละอองฝนสาดเข้ามาข้างใน

ร่างแบบบางสั่นระริกในอ้อมแขนของเขา เธอไม่ได้เอ่ยอะไรทำเพียงแค่สูดกลิ่นหอมเข้าปอด นึกยิ้มกระหย่องอยู่ในใจ ฝันหวานกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด อุตส่าห์เตรียมตัวมาอย่างดี ขัดสีฉวีวรรณเพื่อคืนนี้โดยเฉพาะ

จะถูกเจาะไข่แดงเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนประกาศผลนางนพมาศซะอีก...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel