บทที่ 3 คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด
คอนโดหรูหราใกล้มหาลัยความปลอดภัยดีเยี่ยม ชั้นทั้งชั้นมีเพียงสามห้องเท่านั้น ซึ่งพราวฟ้าไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของอีกสองห้อง เธออยู่ห้องเดียวกับไคล์ ภายในห้องอันใหญ่โตหรูหราแยกออกเป็นสามห้องนอน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นของเธอ เธอไม่เคยได้นอนเตียงเดียวกันกับเขา และไม่เคยได้เข้าไปในห้องนอนเขาจริงๆ
ถ้าเขาต้องการเธอ อีกห้องจะเป็นห้องเชือดของเขา ไคล์หวงความเป็นส่วนตัวมาก เขาสั่งเธอเสียงเด็ดขาดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่ว่าห้ามเข้าไปในห้องนอนของเขาเด็ดขาด
การมาอยู่ที่นี่ของเธอ ก็เหมือนมาอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขา เวลาเขาต้องการ เธอต้องตอบสนองเขาทุกครั้ง และห้องอีกห้องจะเป็นห้องเชือดของเขา เธอไม่เคยได้เข้าไปในห้องนอนเขาเลยสักครั้ง และเขาก็ไม่เคยเข้าห้องเธอเหมือนกัน
เธอไม่รู้ว่าการมาอยู่ที่นี่ของเธอจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ในเมื่อเจ้าตัวเขาฝังใจเกลียดเธอไปแล้ว แต่เธอก็อยากลองทำตามคำขอร้องของคุณทิพย์อาภาดูสักครั้ง เธออยากชดใช้อยากแก้ไขข้อผิดพลาด และอยากทำตามหัวใจตัวเองสักครั้ง
หลังจากที่เธอกลับมาได้ไม่นานไคล์ก็เปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นเขาเธอก็ลุกขึ้นจะเดินเข้าห้องตัวเอง การมีเธออยู่มันเกะกะลูกตาเขา เธอต้องไม่อยู่ในสายตาเขาถ้าเขาไม่เรียก
มันเป็นแบบนี้ตลอดสามเดือน พราวฟ้าไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าหาเขาก่อน เธอมันเป็นคนขี้ขลาด
“มานี่ซิ” ไคล์นั่งลงบนโซฟา กระดิกนิ้วเรียกคนที่กำลังจะเดินเข้าห้องตัวเองให้เข้าไปหา มองสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจ เขายอมรับว่าพอใจกับรูปร่างของพราวฟ้ามาก ครั้งแรกที่ได้ครอบครองเธอเขารู้สึกเสียวซ่านกว่าทุกครั้งที่มีประสบการณ์ทางเพศ
มันทำให้เขาอยากครอบครองเธอทุกครั้งที่เห็นหน้า หน้านิ่งๆ เหมือนไม่มีชีวิตชีวานั่น เขาอยากทำให้เธอแสดงด้านอื่นออกมาบ้าง และเธอจะแสดงมันออกมาตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่แม่เขาเก็บมาส่งเสียเลี้ยงดู มีทุกอย่างเท่าเทียบกับเขา เขาไม่รู้ว่าเขาเริ่มไม่ชอบหน้าผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นตอนที่เธอเริ่มเข้ามามีความสำคัญกับทุกคนมากกว่าเขา
เขาเกลียดเธอ
เกลียดที่เธอแย่งทุกอย่างไปจากเขา แม้แต่ความรักของแม่ ตั้งแต่มีเธอเข้ามา แม่ก็รักเขาน้อยลง สนใจแต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งเขามองว่ามันน่ารำคาญ
ไคล์จึงแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่ยังไม่จบมอหก นานๆ เขาจะกลับบ้านสักครั้ง
และการกลับบ้านครั้งล่าสุดของเขา ก็ได้ตุ๊กตายางกลับมา ตอนแรกเขาก็หมดอารมณ์ที่จะใช้งานเพราะหน้าจืดชืดไร้ชีวิตชีวา ทำให้เขาหมดอารมณ์ แต่เอามาแล้วก็เสียของ เลยทดลองซะหน่อย
ยอมรับว่าถูกใจ ยอมรับว่าคลั่งทุกครั้งที่เข้าไปอยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้ แต่เขาจะไม่ให้เธอรู้หรอกว่าเขาต้องการเธอแค่ไหน
เพราะเธอมันก็แค่นางบำเรอระบายความใคร่ของเขาแค่นั้น ไม่ต้องรู้หรอกว่าเขาคิดยังไง ไม่นานเขาคงเบื่อ และเขาจะเฉดหัวเธอกลับไปให้แม่เขารักษาบาดแผลที่เขาสร้างไว้ให้เธอ
พราวฟ้าเดินก้มหน้าเข้าไปหาไคล์
“ถอนกางเกงในออก” เสียงเข้มสั่ง มือใหญ่ดึงเข็มขัดนักศึกษาออกจากเอว ปลดกระดุมและรูดซิป ถอดกางเกงนักศึกษาลงไปกองที่ปลายเท้า ควักแก่นกายของตัวเองออกมา ตาจ้องมองร่างบางที่ยืนก้มหน้าเม้มปากแน่น
“เร็ว” ร่างบางสะดุดกับเสียงตะคอกนั้น เหลือบตามองการกระทำของเขาเม้มปากแน่นจนรู้สึกเจ็บ
มือเรียวกำเข้าหากันแน่น
“จะยืนบื้ออยู่ทำไม ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึไง” ไคล์รู้สึกหงุดหงิดทันทีที่อะไรไม่ได้ดั่งใจ ลุกขึ้นไปคว้าแขนแม่นางบำเรอ จัดการล้วงมือเข้าไปในกระโปรงพลีทตัวยาว กระชากกางเกงในและซับในของเธอลงไปที่ปลายเท้า
ดีที่เธอไม่ใส่กระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ไม่งั้นเขาคงหมดอารมณ์
พราวฟ้าตัวสั่นระริก แต่พูดอะไรไม่ได้ ถ้าเธอขัดขืนเขาจะส่งเธอกลับบ้าน ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นไม่ได้ คุณหญิงท่านจะเสียใจ และตอนนี้เธอยังทนไหว
ร่างบางลอยหวือลงไปนั่งที่ตักแกร่ง นิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้าไปช่องทางคับแคบรวดเดียวมิด
“อ๊ะ เจ็บ” พราวฟ้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จิกมือลงบนบ่าเขา
“ทีหลังอย่ายืนบื้อแบบนั้นอีก สั่งอะไรก็รีบทำ เข้าใจไหมแม่คนกตัญญู” น้ำเสียงเย้ยหยันของเขาทำให้พราวฟ้าเม้มปากน้ำตาซึม กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
ไคล์เกลียดเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เขาไม่เคยพูดดีกับเธอสักครั้ง ทั้งที่ตอนนั้นเธอดีใจมากที่รู้ว่าตัวเองจะมีพี่ชาย
“อ๊ะ” นิ้วแกร่งหมุนวนไปมา ปากบางเม้มเข้าหากัน ความเจ็บกลายเป็นความเสียว อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมา แรงเสียดสีทำให้เกิดความเสียวซ่าน ความปรารถนาก่อตัวขึ้น ท้องน้อยบิดเกร็ง ขนลุกซู่ไปทั่วร่าง
“แฉะไว้ดีหนิ ร่านได้ใจฉันจริงๆ” ทั้งคำพูดและการกระทำของเขาทำให้เธอตัวง้อก้มลงไปกอดคอเขาแน่น ไคล์ถอดถอนนิ้วออกจากช่องคับแคบแล้วแทนที่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา พราวฟ้ากัดฟันแน่นหลับตากลั้นหายใจยอมรับความเจ็บปวดที่ไคล์มอบให้
กรามแกร่งของไคล์บดเข้าหากัน เขากัดฟันกรอดๆ ขณะยัดเยียดตัวตนเข้าไปในร่องคับแคบ เขาคิดว่ามันพอจะเข้าได้แล้ว แต่ก็ไม่ มันยังเข้ายากทุกครั้ง แต่เขาไม่มีทางเอาออก
ไคล์ไม่สวมถุงยาง เขาสวมมันแค่ครั้งแรก ครั้งต่อไปเขาก็ไม่สวมอีกเลย ตอนแรกเธออยากจะแย้ง แต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร เพราะวันต่อมาไคล์ก็พาเธอไปฉีดยาคุ้มกำเนิด ฉีดแบบสองปีไปเลย เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมทำตามเขาเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นเหมือนกัน
นิ้วเรียวกรีดไปตามกลีบนุ่มลื่น บดขยี้ติ่งเล็กๆ เพื่อกระตุ้นความต้องการของร่างบาง
“อ๊า อือ” พราวฟ้าซุกหน้าลงกับบ่ากว้าง กลั้นเสียงครางน่าอายเอาไว้
“เงยหน้าขึ้นมาแล้วคราง” ไคล์สั่งเสียงห้วน เขาชอบฟังเสียงของพราวฟ้า บอกแล้วไง ว่าถ้าอยากเห็นสีหน้าของผู้หญิงคนนี้คือตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น ถึงภายนอกเธอเหมือนจะซื่อ เชื่อฟัง พูดน้อย แต่เวลาอยู่บนเตียงเธอก็ตอบสนองเขาได้เป็นอย่างดี
ซึ่งเขามองว่ามันเป็นมารยาหญิงที่เรียกร้องความสนใจ ร่านอยู่บนเตียงได้ทำไมต้องทำเป็นคนใสซื่อด้วย มารยาชัดๆ
พราวฟ้าจำใจต้องเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งของไคล์ ส่ายสะโพกเบาๆ เธออยากหลบหลีกความเสียวซ่านนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ น้ำสีขาวหนืดถูกปล่อยออกมาเคลือบท่อนลำ ทำให้ง่ายต่อการขยับเข้าออก
ไคล์กดร่างบางให้ครอบครองตัวตนของเขาจนหมด เงยหน้าขึ้นพ่นลมหายใจออกจากปากแรงๆ มือใหญ่ขย้ำอยู่ที่ก้นงอนงาม
“ขยับ ขอเร็วๆ อย่าอืดอาดเหมือนหน้าตา” พราวฟ้านิ่งงัน จะมีสักครั้งไหมที่เขาพูดดีๆ กับเธอ
ไม่มี พราวฟ้ากลืนก้อนสะอื้นเข้าไปในอก
ร่างบางขยับโยกขึ้นลงตามความต้องการของเขา เขาสอนให้เธอทำ เธอก็ต้องทำ เพื่อสนองความต้องการของเขา ซึ่งลึกๆ เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าชอบมัน เธอเป็นผู้หญิงร่านอย่างที่เขาบอกจริงๆ ต้องการเขาทุกครั้งที่เขาเตะต้อง
“อ๊า พราว ซี๊ด สุดๆ” ไคล์ครางออกมาด้วยความพอใจ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอสามวันเหมือนเขาเก็บกด ระบายกับใครก็ไม่เหมือนพราวฟ้า เขาต้องกลับมาที่ห้องเพื่อปลดปล่อยให้มันจบๆ ไปทุกครั้ง
“อ๊ะ” พราวฟ้าสะดุด เมื่อเขากระแทกขึ้นมา
“คราง” ไคล์ตะคอก ปากบางเม้มเข้าหากัน เมื่อเห็นเธอทำอย่างนั้นเขาก็ยิ่งท้าทาย
ตาจ้องมองคนที่แทบหลอมละลายไปกับรสสวาท ยังจะดื้อ มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก ขย้ำเต้าอวบอิ่มผ่านบราสีสวย
“อย่าดื้อให้มาก ไม่งั้นจะเจอดี” พูดจบเขาก็ก้มลงไปจัดการกับความอวบอิ่มของเธอ ดูดดึงขบกัดเพื่อสร้างรอย รอยเก่ายังไม่หายดี เขาก็เพิ่มรอยใหม่ให้
“อ๊า อ๊ะ เจ็บ” พราวฟ้ายอมเปิดปากครางอย่างที่เขาต้องการ เธอเป็นคนนะมีเลือดเนื้อมีความรู้สึก
“เจ็บก็คราง” ไคล์เหมือนเสพติดเสียงครางหวานๆ ของหญิงสาวไปแล้ว เขาอยากได้ยินเสียงเธอ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่บ้ามาก
“อ๊า อ๊ะ อ๊ะ”
“เรียกชื่อฉัน” มือใหญ่ช่วยบังคับการเคลื่อนไหวเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มแผ่วลง
“ไคล์ อ๊ะ อ๊า” พราวฟ้าสติพร่าเบลอ ขยับโยกร่างกายเป็นจังหวะบวกกับไคล์ที่เด้งเข้าใส่ ทำให้ทั้งสองคนเห็นแสงสว่างอยู่ตรงหน้า
“อ๊า”
“กรี๊ดดด”
ไคล์ดึงแก่นกายออกมาด้านนอก มือใหญ่จับรูดรัวเร็ว คำรามเหมือนสัตว์ป่า น้ำสีขาวขุ่นพ้นออกมา พราวฟ้าทิ้งตัวลงบนตักเขาเมื่อทุกอย่างสงบ หอบหายใจสะท้าน
“ลงไป หนัก” คนตัวใหญ่ดันไหล่คนตัวเล็กให้ออกห่างจากตัวทั้งที่เธอยังปรับลมหายใจไม่ได้ แต่เธอก็ต้องทำตามที่เขาสั่ง พราวฟ้าเม้มปากแน่น ค่อยๆ ลุกจากตักเขา มองหากางเกงในที่เขาถอดออกไป พอเจอก็หยิบขึ้นมา แล้วเดินหันหลังเข้าห้อง
“หิว ออกมาทำอะไรให้กินด้วย” ร่างบางชะงักนิดหน่อย แต่ก็เดินต่อ
ไคล์ขยี้หัวตัวเองแรงๆ จัดการตัวเองบ้าง
“ตุ๊กตายางจริงๆ” เขาพึมพำแล้วกระตุกยิ้ม
หลังจากจัดการตัวเองเสร็จพราวฟ้าก็ออกมาจากห้อง เพื่อทำอาหารให้เขา เธอเห็นไคล์นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก ขมวดคิ้วเข้าหากัน วันนี้เขาไม่ออกไปไหนใช่ไหม
ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่นับครั้งได้ที่เขาจะมานั่งกินข้าวกับเธอ และกินอาหารฝีมือเธอ นี่เป็นครั้งที่สอง
พราวฟ้าเดินเข้าห้องครัวเพื่อทำกับข้าว ก่อนที่เธอจะมาอยู่ที่นี่คุณแม่ของเขาได้บอกเธอหมดทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องของลูกชาย ว่าชอบอะไรและไม่ชอบอะไร รวมถึงอาหารที่ชอบด้วย ไคล์เป็นคนที่ไม่กินเผ็ดเรียกได้ว่ากินเผ็ดไม่ได้เลย แต่ถึงท่านไม่บอกเธอก็พอรู้อยู่บ้าง
พราวฟ้าเลยเลือกที่จะทำทอดไข่กับต้มจืดง่ายๆ แค่สองอย่าง
“เสร็จแล้วค่ะ” พอเสร็จก็เดินออกมาเรียกเขา จัดโต๊ะเรียบร้อย
ไคล์เดินไปที่โต๊ะอาหาร มองอาหารสองอย่างแล้วเหลือบตามองคนทำ พราวฟ้าเม้มปาก ก้มหัวให้เขาแล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องไป เธอไม่หิว และเขาคงไม่อยากให้เธอร่วมโต๊ะด้วย
ไคล์มองคนที่เดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย เลื่อนเก้าอี้นั่งลงตักข้าวเข้าปาก พยักหน้าเบาๆ
รสชาติใช้ได้ สมกับเป็นเด็กที่คุณหญิงปั้นมา แต่เธอมันก็ทำได้แค่นี้ ผู้หญิงแบบพราวฟ้าเหมาะแค่ทำงานบ้านและงานบนเตียงเท่านั้นแหละ เธอคงทำตัวให้แม่เขาสงสารและคิดจะจับเขา ตัวเองจะได้ไม่ได้ออกไปอยู่ที่อื่น มุกตื้นๆ ของผู้หญิงอยากสบาย
พราวฟ้าเข้ามาอ่านหนังสือในห้องเงียบๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ประตูไม่รู้ว่าไคล์ออกไปจากห้องรึยัง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เธอหยิบขึ้นมาดู
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
(ทำอะไรอยู่จ๊ะลูก) น้ำเสียงใจดีส่งผ่านมาตามสาย
“อ่านหนังสือค่ะ”
(เป็นยังไงบ้างสบายดีไหมลูก ลูกชายของแม่ทำร้ายหนูรึเปล่า) คุณทิพย์อาภาถามด้วยความเป็นห่วง ถึงเธอจะสงสารพราวฟ้าแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากได้คนอื่นเป็นลูกสะใภ้ ผู้หญิงดีๆ ทุกวันนี้หายาก
“เปล่า...เปล่าค่ะ”
(ดีแล้วจ้ะ ถ้าไคล์ทำร้ายหนูบอกแม่ทันทีเลยนะ แล้วนี่เจ้าไคล์ไปไหนล่ะอยู่ด้วยกันรึเปล่าจ๊ะ)
“เขาทานข้าวอยู่ข้างนอกค่ะ พราวเข้ามาอ่านหนังสือในห้องค่ะ”
(แล้วหนูไม่ทานกับพี่เขาล่ะ)
“พราวอิ่มแล้วค่ะ”
(อ่อ งั้นแม่ขอคุณกับพี่เขาได้ไหมจ๊ะ)พราวฟ้าชั่งใจคิดก่อนจะตอบออกไป
“ได้ค่ะ” พราวฟ้าเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะเอาโทรศัพท์ให้เขา ไคล์ที่กำลังจะออกจากห้องเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากห้องก็ไม่ได้สนใจ
“คุณแม่อยากคุยด้วยค่ะ” พราวฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้เขา ไคล์เลิกคิ้วมองแต่ก็ยอมรับโทรศัพท์มา
“ครับ”
“แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบอะไรแบบนี้ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกันครับ”
“สะเออะไปฟ้องอะไรแม่ฉันอีกล่ะ” ไคล์มองผู้หญิงขี้ฟ้องด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ
“ฉันไม่ได้ฟ้อง” พราวฟ้าพูดเสียงเรียบ
“หึ ไม่ได้ฟ้องแล้วแม่จะด่าฉันทำไม เอาไป แล้วอย่าสะเออะมายุ่งเรื่องของฉันอีก ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อ” ไคล์ยัดโทรศัพท์ใส่มือของหญิงสาว ชี้หน้าคาดโทษ แล้วเดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย
ไม่ว่าครั้งไหนเธอก็ทำให้เขาโดยแม่ด่า