บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับบาร์บาร่าในครั้งนี้ก็คือ เธอยกมือขึ้นคล้ายจะปฏิเสธในคําพูดของมารดาคู่หมั้น แต่จะด้วยอะไรก็ตาม มือนั้นได้ปัดไปถูกแก้วใส่น้ำเย็นที่ตั้งอยู่ใกล้ น้ำหกรดลงบนผ้าปูโต๊ะลินินสีขาว และหยดลงบนตักของเธอซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ได้ปลุกบาร์บาร่าให้ตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความคิดทันที

“อุ๊ย...คุณพระช่วย” เธอร้องออกมาอย่างตกใจ แต่ลิเลียนได้จับแก้วขึ้นตั้งบนโต๊ะไว้ได้ทันก่อนที่มันจะตกกระแทกลงกับพื้นห้อง และทอดด์ก็รีบใช้ผ้าเช็ดปากลินินผืนของเขา ซับน้ำที่กําลังหยาดหยดอยู่ “ขอประทานโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่น้ำหกเท่านั้น” ลิเลียนปลอบใจ “เป็นเพราะว่าฉันพูดอะไรที่ทําให้เธอรู้สึกตกอกตกใจขึ้นมาหรือเปล่านี่”

“เปล่าหรอกค่ะ” บาร์บาร่าลอบชําเลืองมองไปทางจ๊อคนั่นเขามีสีหน้าที่เผือดซีดลงจริง ๆ หรือว่าเธอนึกไปเองนะ “คือว่าครั้งหนึ่งเคยมีใครคนหนึ่งใช้คําพูดประโยคนี้กับฉันมาแล้ว...เท่านั้นเองล่ะค่ะ ต้องขอประทานโทษด้วยที่ฉันบังเอิญปัดมือไปถูกแก้ว เลยทําให้น้ำหก”

“ไม่เป็นไรหรอก อีกประเดี๋ยวมันก็แห้ง” สตรีผู้สูงวัยกว่าบอก

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ...อากาศที่ค่อนข้างร้อนอย่างนี้” ทอดด์เอ่ยขึ้นอีก และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเป็นเรื่องของดินฟ้าอากาศแทน

บาร์บาร่าต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะผ่านอาหารค่ำมื้อนั้นไปให้ได้ รวมทั้งการดื่มกาแฟในห้องนั่งเล่นภายหลังจากนั้น จนกระทั่ง สี่ทุ่มตรง เธอจึงหาทางเลี่ยงกลับขึ้นห้องนอนส่วนตัวได้โดยไม่เป็นที่แปลกใจของใคร เธอเพียงแต่ยอมให้ทอดด์ซึ่งเดินตามมาส่งถึงห้องโถงภายนอกจุมพิตเบา ๆ เป็นการอําลา ก่อนจะขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนส่วนตัวเท่านั้น

ความเจ็บช้ำ..เธอพร้อมแล้วที่จะยอมรับความหมายของมันที่มีต่อสภาพของหัวใจระหว่างที่นั่งรถมาที่นี่ หลังจากได้พบจ๊อคอีกครั้งหนึ่ง บาร์บาร่าก็มีความรู้สึกว่า ความหมายของคํานั้นดูจะเพียงพอเสียแล้ว ทั้งนี้เพราะ เขาได้เหยียบย่ำลงไปบนหัวใจของเธอ กระทืบหัวใจที่แหลกสลายนั้นลงจนจมดิน ความเจ็บช้ำจากการกระทําของเขาในครั้งกระนั้นยังคงอยู่ และเป็นความเจ็บช้ำทรมานอย่างแท้จริง

มันก็มีอยู่บ้างในบางครั้งก่อนหน้าที่เธอจะพบกับจ๊อคที่บาร์บาร่าคิดฝันไปเองว่าเธอกําลังมีความรัก ครั้งแรกนั้น เป็นเรื่องเพ้อฝันกับเพื่อนชายคนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน แต่ตอนนั้น เธอยังไม่เจริญวัยมากพอที่จะรู้ว่า ความหมายอันแท้จริงของความรักนั้นคืออะไร ต่อมาหลังจากที่เข้าทํางานเป็นแอร์โฮสเตสอยู่ได้ไม่นาน เธอก็เกิดหลงรักในนักบินคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่มีภรรยาแล้ว ตอนนั้น เธอหลงละเมอไปกับความชิดใกล้ และความสนใจที่เขามอบให้ในขณะที่กําลังเหงา แต่แล้วเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาก็จบลงอย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ เมื่อเธอถูกย้ายลงมาประจำภาคพื้นดิน ถ้าจะว่าไปแล้ว ตอนนั้น เธอรู้สึกว่าสิ่งที่สูญเสียไปคือ ศักดิ์ศรี ไม่ใช่หัวใจ ทั้งนี้เพราะ เธอไม่ได้ปล่อยใจให้จริงจังกับเขาเท่าไรนัก

และต่อมาก็ยังมีนักฟุตบอลอีกคนหนึ่ง ที่เธอเกือบจะหลงรักเขาเข้าอย่างเต็มหัวใจ แต่แล้วก็ให้บังเอิญรู้มาว่า เขายังมีคู่หมายอีกคนหนึ่งในขณะเดียวกับที่ติดต่ออยู่กับเธอ ทั้งที่เขาพร่ำพูดอยู่ตลอดเวลาว่า เขามีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นในหัวใจ

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของความผิดหวังทั้งสิ้น เธออาจจะเจ็บช้ำ แต่ก็ไม่ถึงกับหัวใจสลาย ทั้งนี้เพราะ คนที่จะหัวใจสลายได้จะต้องทุ่มเทหัวใจของตนเองลงไปพันผูกไว้ในความรักอย่างแน่นแฟ้นเท่านั้น และสิ่งนั้นคือสิ่งที่จ๊อคได้ก่อให้เกิดขึ้น และสิ่งนี้เองที่ทําให้บาร์บาร่าบังเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างจับใจ เธอไม่ต้องการที่จะกลับไปผูกพันกับความรักเช่นนั้นอีก ต้องการแต่เพียงความรู้สึกที่ปลอดภัย ด้วยเท้าทั้งสองข้างที่ยืนอย่างมั่นคงอยู่บนพื้นดิน ความกลัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก กําลังติดตามมารบกวนเธออย่างไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้

บาร์บาร่ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เดินไปปิดไฟให้ความมืดช่วยห่อหุ้มตัวเองไว้ เตียงนอนอันกว้างขวางช่วยโอบอุ้มให้เธอได้นอนหลับอย่างเป็นสุข เพียงแต่ว่า...เธอจะหลับตาลงได้หรือไม่เท่านั้น

เธอกําลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ผ้าห่มส่วนหนึ่งถูกเตะไปอยู่ปลายเท้า ตอนที่มีมือเอื้อมมาแตะแผ่นหลังปลุกให้ตื่นขึ้น บาร์บาร่าทําเสียงอืออาอยู่ในลําคออย่างทักท้วงเธอกําลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันอันแสนหวาน และยังไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้น

แต่ทว่า ฝ่ามือกับสัมผัสอันเคยคุ้นดูจะไม่ยอมให้เธอทําตามใจปรารถนาอีกต่อไป ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงห้าว ๆ เอ่ยตามขึ้นด้วยว่า

“ตื่นได้แล้วยายคนขี้เซา ถ้าผมปล่อยให้นอนคุณเป็นหลับถึงเที่ยงแน่ ๆ”

บาร์บาร่าพลิกกายขึ้นนอนตะแคง ขดตัวไว้แน่น แต่ก็ปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุนเต็มที รอยยิ้มอ่อน ๆ แตะอยู่บนเรียวปาก คล้ายกับว่า บัดนี้ สิ่งที่อยู่ในความฝันเมื่อครู่ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อปรากฏภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่กําลังนั่งอยู่ตรงขอบเตียง

“อือม์...จ๊อค” เธอไล้ฝ่ามือตามแขนเสื้อขึ้นไปจนถึงช่วงไหล่ “ทําไม คุณถึงรีบแต่งตัวนักล่ะคะ ฉันคิดว่าเราน่าจะนอนต่อกันอีกสักหน่อย...หรือว่าไม่ต้องตื่นก็ยังได้นะคะ”

อุ้งมือเล็ก ๆ นั้นรวบรัดลงตรงช่วงลําคอรั้งใบหน้าของเขาให้ก้มต่ำลง ความง่วงงุนที่ครอบงําอยู่ทําให้เธอมองไม่เห็นประกายในดวงตาที่สว่างวาบขึ้น แต่อาจจะเป็นเพราะริมฝีปากคู่นั้นที่ดูดซับเอาความสนใจต่อสิ่งทั้งหลายในโลกไปเสียหมดก็ได้ ความปราโมทย์บังเกิดขึ้นในหัวใจของบาร์บาร่า ราวกับถูกอาบไล้ด้วยแสงสีทองแห่งดวงตะวัน จ๊อคดันร่างเธอเบา ๆ จนศีรษะและช่วงไหล่ขึ้นมาวางอยู่บนหมอน

บัดนี้ แขนทั้งสองข้างกอดรัดร่างเขาไว้ ฝ่ามือก็ลูบไล้ไปบนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยความเคร่งครัดของกล้ามเนื้อ เพลิงพิศวาสอันแรงร้อน กําลังแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ปลุกปลายประสาททุกส่วนให้ตื่นตัวขึ้นสนองรับต่อความชิดใกล้ของเขา เมื่อเขาถอนริมฝีปากออกจากเธอนั้น มือทั้งสองของบาร์บาร่าก็ยันอยู่กับแผงอกนั้น

และแล้ว...เปลือกตาคู่นั้นก็เผยอขึ้นช้า ๆ ขณะที่ครางชื่อของเขาออกมาด้วยความโหยหาอาวรณ์

“จ๊อค...”

“นั่นมันเป็นเรื่องเมื่อหกเดือนที่ผ่านมาแล้วนะคนสวย” น้ำเสียงของเขาบอกความหยันเยาะในเธออยู่ “เช้าวันนี้คุณมีกําหนดการที่จะต้องออกทัวร์ไร่ส้มกับคู่หมั้นของคุณ นายทอดด์นั่นไง หรือว่าลืมเขาไปเสียแล้ว”

ความฝันอันแสนสวยแตกสลายลง ราวกับฟองสบู่สีรุ้งที่แตกสลายด้วยแรงลม ฝ่ามือที่ทาบทับกับแผงอกสัมผัสแรงเต้นของหัวใจด้วยความยินดีอยู่ กลับกลายเป็นสิ่งที่ยันกายเขาไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ บาร์บาร่าอุทานออกมาเบา ๆ ด้วยความไม่พอใจในความผิดพลาดของตนเอง

“คุณเข้ามาที่นี่ทําไม” เธอร้องออกมาด้วยเสียงแตกพร่า

“แล้วนี่ทอดด์ไปไหน”

“ไปรอคุณอยู่ที่ไร่แล้วดูเขาเกรดดิน” จ๊อคมองอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปด้วยสีหน้าแววตาที่บอกถึงความขบขัน สีหน้าที่เปี่ยมด้วยความเสน่หาเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นโกรธเคือง

“ผมรู้ว่าคุณจะต้องถือโอกาสนอนตื่นสายอยู่แล้ว ก็เลยสัญญากับเขาว่าจะช่วยพาคุณไปส่งให้ถึงมือก่อนเที่ยง”

“ออกไปให้พ้นจากห้องนี้นะ” เธอร้องออกมาอย่างกราดเกรี้ยว “ถ้าแม่ของคุณเกิดเดินเข้ามาในห้องนี้จะว่ายังไง”

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า แม่ไม่อยู่หรอก” มุมปากของเขากดลึกลงเป็นรอยยิ้มที่หยันเยาะอยู่ สายตาก็กวาดไปทั่วเรือนกายท่อนบนที่ค่อนข้างเปิดเผยอย่างถือสิทธิ์ “เออ... ผมไม่ยักรู้นะ ว่าไอ้กางเกงนอนบาง ๆ นี่มันเย้ายวนกวนอารมณ์ได้ดีชะมัดเลย”

ส่วนบนของเสื้อนอนชุดนั้นประกอบด้วยลูกไม้สีชมพู มีโบเล็ก ๆ ผูกอยู่ระหว่างทรวงอก ส่วนท่อนล่างนั้นเป็นผ้าเนื้อนุ่มที่แซมด้วยลูกไม้โปร่ง มองเห็นเนื้อเนียนละไมอยู่ราง ๆ แต่ทว่า สายตาของจ๊อคดูเหมือนจะจดจ้องอยู่แต่เฉพาะตรงโบสองอันเหนือเนินทรวงมากกว่า ปลายริบบิ้นของโบอันหนึ่งเกี่ยวอยู่กับปลายนิ้วของเขา และข้อนิ้วก็ถูไถอยู่กับเนินทรวงนั้น

“คุณชอบการร่วมรักในตอนเช้าไม่ใช่หรือ” เขาดึงโบอันนั้นให้หลุดออก โดยไม่ต้องใช้ความพยายามแต่ประการใดเลย

“อย่านะ” บาร์บาร่าร้องออกมาด้วยความตกใจ

“เอ...แต่เมื่อครู่นี้คุณไม่ได้พูดอะไรอย่างนี้เลยนี่” โบอันที่สองหลุดติดมือเขาออกมา

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ จ๊อค” การต้านทานต่ออิทธิพลของเขานั้นดูจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เกิดหวงตัวขึ้นมาเท่านั้น

“ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะทําอะไรล่ะ...คุณคนสวย” เมื่อทรวงอกของเธอปราศจากสิ่งที่เป็นอุปสรรคกีดกั้นไว้ เขาก็สอดฝ่ามือเข้าไปโลมไล้นวลเนื้อที่อ่อนไหวต่อการสัมผัสอยู่ ขณะเดียวกัน ลมหายใจอุ่น ๆ ก็จะรวยอยู่กับเรียวปากของเธอ “คุณจะกระซิบขอความช่วยเหลือจากใครอย่างนั้นหรือ” วาจาที่กล่าวออกมานั้นแฝงแววหัวเราะเยาะอยู่อย่างเต็มที่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel