แค่เตือน
สายตากดดันส่งไปให้หญิงสาวกดรับมัน มิลินที่ไม่มีทางเลือกจึงเอื้อมมือไปหยิบมากดรับ
ติ๊ด!
“ฮะ ฮัลโหล”
(ทำอะไรอยู่เหรอ)
“เอ่อ..” เธอเงยหน้าขึ้นไปมองยังคนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
(เธอเป็นอะไรหรือเปล่า) แล้วคนที่โทรเข้ามาก็คือสกายเพื่อนใหม่ของเธอเอง ทั้งสองเรียนด้วยกันแต่ตอนนี้สกายอยู่อีกที่ สกายกลับไปอยู่ไทยหลังจากที่เรียนจบแล้วแต่เขายังคงติดต่อกับเธออยู่ตลอดเพราะมิลินคือเพื่อนสนิทที่เขารักมาก ระหว่างที่เรียนทั้งสองมักช่วยเหลือกันจนทำให้สนิทกันมากขึ้น แม้จะอยู่ไกลกันมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับสกายเลย
“ปะ เปล่าน่ะ”
(เธอดูไม่ปกตินะ เปิดกล้องได้ไหม)
“เอาสิ” ใบหน้าดูดีโน้มลงไปกระซิบให้เธอได้ยินคนเดียว เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะมีท่าทียังไงในขณะที่คุยกับผู้ชายคนอื่นโดยมีเขายืนฟังอยู่ตรงนี้
"ระ..เราไม่ค่อยสะดวก แค่นี้ก่อนนะสกาย" ติ๊ด! หญิงสาวร้อนรนกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี เธอเงยหน้ามองคนที่ยืนกระตุกยิ้มมองเธออยู่เช่นเดียวกัน หญิงสาวหลบสายตาก่อนจะพยายามก้าวขาลงจากเตียงเพื่อไปทำอาหารให้กับเขา
"เธอดูร้อนรนนะ หรือว่ามันคือผัวอีกคนของเธอ"
"มะ ไม่ใช่ค่ะ ลินแค่กลัวคุณนำทัพรอนาน"
"ฉันรอได้" คำพูดที่เหมือนจะไม่มีอะไร ทว่ามันแฝงไปด้วยความน่ากลัวและดุดัน ถ้าจะให้เธอคุยกับสกายต่อหน้าเขาเธอเลือกตัดสายอีกคนทิ้งดีกว่า อย่างน้อย ๆ เธอยังไปอธิบายกับเพื่อนทีหลังได้ แต่ถ้าขืนคุยต่อเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับตัวเองบ้าง
"ลินขอตัวนะคะ"
"...." เขาไม่หลบ หญิงสาวเห็นอย่างนั้นจึงเป็นคนขยับตัวแล้วเดินไปอีกทาง เพราะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หลุดไปจากตรงนี้ได้เธอจะไม่มีวันกลับมาให้เขาเหยียบย่ำเธออีกเด็ดขาด
"ถ้าคิดจะหนีไปจากฉัน หยุดความคิดนั้นซะ" เท้าที่กำลังก้าวหยุดชะงักไปทันที เหมือนว่าเขาอ่านความคิดเธอออก มิลินทำเพียงยืนนิ่งหันหลังให้กับอีกคน เธอไม่ทันเห็นว่าสายตาที่เขากำลังมองเธออยู่นั้นมันมีบางอย่างซ่อนไว้อยู่
"ลินขอตัวนะคะ"
แล้วจากนั้นเธอก็พาตัวเองออกไปจากห้องทันที แม้ว่าทุกย่างก้าวมันจะระบมเจ็บแสบบริเวณตรงนั้นมากแค่ไหนเธอก็ต้องไปทำหน้าที่ตัวเองให้ได้ ดีกว่าถูกเขาทำโทษ
ทางด้านนำทัพยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาเลื่อนสายตามองไปยังเตียงนอนที่อีกคนเพิ่งลุกไป เขามองมันอยู่นิ่ง ๆ ก่อนจะตัดสินใจตามอีกคนลงไป
สองวันต่อมา
@กาสิโน
"มิลินไปไหน" วันนี้เขาเข้ามาทำงานที่กาสิโนและได้พาหญิงสาวมาด้วย หลังจากที่เข้าไปคุยงานออกมาก็ไม่เจอหญิงสาวที่ควรจะอยู่รอเขาที่ห้องทำงาน นำทัพเอ่ยถามลูกน้องที่ยืนอยู่ละแวกนั้นว่ามีใครพบเห็นเธอหรือเปล่า
"คุณมิลินเขาออกไปเดินเล่นครับ" เป็นไบค์ลูกน้องมือขวาที่รายงานเจ้านาย ก่อนหน้านั้นมิลินก็รอเขาอยู่ที่ห้องทำงานนั่นแหละ แต่เพราะว่ามันนานเกินไปเธอรู้สึกเบื่อเลยขอออกมาเดินเล่นข้างล่าง แม้ว่าคำตอบของลูกน้องจะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ลึก ๆ แต่เขาก็เข้าใจเธอดี ร่างสูงเดินไปยังโซนที่มีผู้คนเข้ามาเล่นการพนันที่กาสิโนของเขา สายตาเฉียบคมขยับมองไปเรื่อย ๆ เพื่อมองหาหญิงสาวที่มากับตน ซึ่งในขณะนั้นเอง..
"คุณมาเล่นที่นี่บ่อยเหรอครับ" ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ข้างกาย ขณะที่มิลินกำลังเดินเล่นอยู่คนเดียว เขาเห็นเธอก็รีบเข้าไปทักพร้อมกับลากหญิงสาวตัวเล็กมายังกลุ่มเพื่อนตัวเองโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจสักเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธอีกคนได้เพราะเธอกลัว
"ไม่ค่ะ" หญิงสาวก้มหน้างุดตอบเสียงเบา เธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
"แล้วทำไมถึงมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ล่ะครับ ดูคุณไม่เหมาะกับที่แบบนี้เลย" ทั้งการแต่งตัวและรูปลักษณ์นิสัยที่ขี้อาย เธอไม่น่าจะมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้นะเขาว่า หรือมากับญาติงั้นเหรอ ชายหนุ่มไล่มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางยิ้มอยู่ในใจ ไม่คิดว่าการมาเล่นพนันครั้งนี้จะเจอกับเหยื่อที่น่าถูกใจและน่าขย้ำให้แหลกคามือขนาดนี้ โชคดีของเขาจริง ๆ
"ตามหาตั้งนาน" ร่างสูงของใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคนพร้อมกับเลื่อนมือโอบกอดหญิงสาวเอาไว้ การกระทำของเขาได้ตกอยู่ในสายตาหลายสิบคู่ที่กำลังจ้องมองมาด้วยความสนใจ เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
"อ้าวคุณนำทัพ ไม่เจอกันนานนะครับ"
"ครับคุณคริส มีอะไรกับคนของผมหรือเปล่าครับ" เขามองหน้าถามอีกฝ่ายน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความดุดัน
"นี่คนของคุณเหรอครับ ผมนึกว่าเป็นลูกค้าคุณซะอีก"
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ"
"ผมชอบคนของคุณนะ" เขาบอกไปตามตรง เพราะเขารู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้มาก เธอตรงสเปคเขาทุกอย่าง ไม่รู้สิ.. เขาแค่อยากได้เธอมาครอบครอง
"ตรงดี ผมชอบ..หึหึ"
"ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอไลน์คุณหน่อยได้ไหมครับ" โทรศัพท์เครื่องหรูถูกยื่นไปตรงหน้ามิลินพร้อมกับรอยยิ้มที่อีกคนส่งให้เธอ หญิงสาวนิ่งไม่กล้าขยับตัว แม้แต่จะยกมือขึ้นไปรับโทรศัพท์เธอยังไม่กล้าเลย
"คงไม่สะดวก" นำทัพใช้มือตัวเองดันโทรศัพท์อีกคนให้ออกห่าง
"คนนี้ดูคุณนำทัพจะหวงมากเลยนะครับ"
"ไม่มีอะไรที่ผมต้องหวงผู้หญิงคนนี้ ผมแค่ยังไม่เบื่อของเล่นชิ้นนี้เท่านั้นเอง หวังว่าคุณจะเข้าใจ"
"อ๋อ แบบนี้นี่เอง" เขาพยักหน้าเข้าใจและไม่เซ้าซี้อะไรต่อ
"ขอตัวนะครับ" เขาไม่รอคำตอบจากอีกฝ่าย นำทัพพาหญิงสาวกลับขึ้นไปบนห้องทำงานตัวเอง ทันทีที่เข้ามาในห้องเขาก็จัดการผลักตัวเธอในนอนลงบนโซฟาอย่างแรงพร้อมกับตัวเองที่ขึ้นไปคร่อมหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงนิ่งขรึม
"อยากไปไหม" เขาเลิกคิ้วถาม
"อะ อะไรนะคะ"
"ตอบสิ อยากไปไหมมิลิน"
"มะ มิลินไม่เข้าใจ คุณนำทัพกำลังพูดถึงอะไรอยู่ อึก!"
"เธอก็รู้ว่าฉันเป็นพวกหวงของ ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องของของฉัน แต่มัน ได้โอบกอดเธอ ซึ่งเธอก็ดูจะเต็มใจให้มันทำ เธอใจร้ายกับฉันมากเลยมิลิน~ ตรงนี้ใช่ไหมที่มันจับ" พร้อมกับเลื่อนมือลงไปจับที่เอวคอดแล้วออกแรงบีบอย่างแรงจนหญิงสาวนิ้วหน้าเจ็บ
"คะ คุณนำทัพ ฮึก!" เธอพยายามดึงมืออีกคนออกเมื่อรู้สึกเจ็บ เหมือนตรงนั้น จะแหลกคามือเขาไป ทว่าอีกคนกลับไม่คิดหยุด ยิ่งเธอห้ามเขายิ่งเพิ่มแรง
"เจ็บเหรอ ฉันไม่เห็นเจ็บเลย"
"ละ ลินขอร้องนะคะ อย่าทำลินเลย ลินกลัวแล้ว"
"เธออยู่กับฉันมาตั้งปีกว่าแล้วนะมิลิน คนที่เธอควรกลัวคือพวกมันไม่ใช่ฉัน"
"ลินเจ็บ ฮึก~"
"จำใส่หัวเอาไว้ อะไรที่ฉันไม่สั่งอย่าทำ เท่าที่จำได้ฉันสั่งให้เธอรออยู่ในห้องไม่ได้บอกให้ออกไปข้างนอก ตรงนี้มีแค่ฉันคนเดียวมันไม่พอใช่ไหม" เขาใช้มืออีกข้าง เลื่อนไปสัมผัสที่ส่วนลับจนขาเรียวหุบเข้าหากันอัตโนมัติ
"ลินจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ ฮึก!" เธอบอกกับเขาน้ำเสียงสั่นเครือพลางหลบสายตาคู่นั้นที่กำลังมองอยู่
"ดี เป็นเด็กดีแบบนี้ฉันชอบมากเลยมิลิน"
"....." เงียบ มีเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ เท่านั้น
"ใครอยู่ข้างนอก" เสียงทุ้มตะโกนเรียกลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกให้เข้ามา เพราะเขามีบางอย่างต้องออกไปจัดการสักหน่อย
"ครับนาย"
"เฝ้าเธอไว้อย่าให้ออกไปข้างนอก จนกว่ากูจะกลับมา" ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นพร้อมกับขยับเสื้อตัวเองให้เข้าที่ เขาสบตากับหญิงสาวที่นอนร้องไห้อยู่โซฟา กระตุกยิ้มให้เธอ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป
ตึก
ตึก
"อ้าวคุณนำทัพ มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าเปลี่ยนใจจะยกเธอให้ผมแล้ว เบื่อเร็วเหมือนกันนะครับคุณเนี่ย"
"มือข้างไหนที่มันใช้แตะต้องเธอ" เขาถามลูกน้องที่ตามมาด้วย
"ซ้ายครับ" เพราะเป็นข้างที่ชายหนุ่มใช้โอบเอวหญิงสาว
"ซ้ายงั้นเหรอ" ดวงตาคงขยับมองมือซ้ายที่อีกคนใช้ล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองอยู่ ชายหนุ่มอีกคนมองท่าทางของนำทัพอย่างไม่เข้าใจ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ" เขายกมือซ้ายขึ้นดูพลางถามคนตรงหน้าสีหน้ามึนงงเล็กน้อย
"เจ็บหน่อยนะ แต่แค่แป๊บเดียว"
ปัง!
"อ๊ากกก" เสียงร้องโหยหวนของชายหนุ่มดังไปทั่วบริเวณทำผู้คนที่ยืนอยู่ต่างก็หันมองด้วยความตกใจ ทั้งเสียงปืนและเสียงร้องอันแสนเจ็บปวดของเขา กระสุนปืนเจาะเข้าที่มือข้างซ้ายจนเลือดสีสดไหลออกมาไม่หยุด และเจ้าของปืนนั้นก็ไม่ใช่ใครเป็นนำทัพนั่นเองที่ลั่นไกใส่อย่างไม่คิดลังเล บอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของตัวเอง แต่ถ้าใครมันกล้าท้าทายเขาก็ไม่ลังเลที่จะฝังกระสุนไว้ในร่างกายพวกมัน เขาจะถือว่านี่แค่เตือน แต่ถ้าอีกคนยังไม่หยุดก็เตรียมตัวไปเฝ้ายมบาลได้เลย