4.หนังสือนิยาย
"ท่านแม่อธิการจะต้องเห็นค่ะ ตอนที่ผมของเขาเต็มไปด้วยเค้ก มันน่าขำสุดๆจนคนทั้งงานเปล่งเสียงหัวเราะออกมาแบบพร้อมเพรียงกัน"
คุณแม่อธิการยกมือขึ้นมาตีที่แขนของมิลลาเบาๆ
"เจ้าทั้งสองคนกำลังก่อเรื่องใหญ่โต ยังจะมีหน้ามาหัวเราะกันอีก!"
"อ่า..ท่านแม่คนอย่างเขาสมควรโดนแล้ว เขากล้ากล่าวเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร กล้ากล่าวว่าจะให้รางวัลบุรุษที่สามารถทำให้มิลเสียครั้งแรกให้ นี่มันเท่ากับเส้นทางความรักของมิลลาจบลงโดยสมบูรณ์แบบเพราะจะไม่มีใครเข้าหานางเลย คนที่จริงใจก็หวาดกลัวต่อคำครหาว่าเขาเข้าหามิลลาเพราะเงินรางวัลที่ไอ้เวรนั่นประกาศออกมา ส่งคนที่เข้าหานางนับจากนี้พวกเขาจะเป็นเศษสวะที่ต้องการเพียงแค่ทองร้อยหีบเท่านั้น แล้วท่านจะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไรกัน!"
สายลมพัดผ่านเราไปพร้อมกับผมคลุมผมสีขาวที่ปลิวสยายไปตามสายลมของคุณแม่อธิการ หญิงชรายกมือขึ้นมาลูบผมสีเงินของมิลลาเบาๆ
"ไม่เป็นไรหรอกนะมิล เพราะความรักของเจ้ามันจะต้องเดินทางเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน"
"แต่มิลยี่สิบสามแล้วท่านแม่ นางแก่เกินกว่าจะแต่งงานอีกครั้งแล้วด้วยซ้ำ!"
คุณแม่อธิการตีที่หลังลิเลียนอย่างแรง
"หากว่านางแก่เช่นนั้นเจ้าที่อายุยี่สิบห้าแล้วไม่มีความคิดที่จะแต่งงานมันคืออะไรกันล่ะ? ความรักที่เจ้าเพ้อฝันหน้าตามันเป็นเช่นไรกันลิเลียน?"
ลิเลียนเม้มปากแน่น เรื่องนี้เธอจะไม่พูดถึงอีกก็แล้วกัน
มิลลาช่วยคุณแม่อธิการทำความสะอาดห้องหนังสือภายในโบสถ์ อันที่จริงงานนี้จะต้องทำกับท่านพี่ลิเลียนสองคนแต่ท่านพี่ลิเลียนกลับไป...กับคนเลี้ยงม้าพร้อมกับฝากฝังให้เธอทำงานแทน
เรื่องการทำงานมิลลามิได้คิดว่ามันคือเรื่องยุ่งยากอะไร ดีเสียอีกเพราะว่าเธอจะได้มีอะไรทำ ชีวิตที่ว่างงานนี้มันชวนให้เธอต้องกลับไปคิดถึงเรื่องราวเก่าๆตอนที่อยู่ในคฤหาสน์มอแอธ เธอยังไม่เคยนอนหลับสนิทสักคืนเลย..
เพราะในคราที่อยู่ที่นั่นเธอจะต้องคอยหวาดระแวงว่าจะมีใครเข้ามาในห้องนอนของเธอไหม บุรุษที่อินคาจ้างมาพวกเขาจะเข้ามาทำอะไรที่น่าขยะแขยงกับเธอรึเปล่า?
ต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดจนเธอเองก็เป็นโรคนอนไม่หลับและมันไม่ดีขึ้นเลยแม้ว่าเธอจะกลับมาอยู่ที่บ้านตัวเอง ความหวาดกลัวยังคงกัดกินหัวใจของเธอไปเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
ในมือของมิลลาคือผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดฝุ่น เธอหยิบหนังสือออกมาจากชั้นเพื่อไล่ทำความสะอาดทีละเล่ม..
"ความรักของจอมมาร"
พึ่งจะรู้ว่าในห้องหนังสือของโบสถ์มีหนังสือนิยายด้วย ภาพหน้าปกคือดอกสแตติสสีม่วงที่บานสะพรั่งพร้อมกับข้อความด้านล่างที่เชิญชวนให้เธอเปิดอ่าน "ความรู้สึกของฉันจะคงอยู่ตลอดไป"
ความหมายของดอกสแตติสคือความรักอันเป็นนิรันดร์ มือของเธอพลันเปิดอ่านเรื่องราวด้านในพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่ถูกดึงดูดเข้าไป..
"มิล..นี่ก็เย็นมาแล้ววันนี้กลับก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่"
เสียงที่แสนอ่อนโยนของคุณแม่อธิการดึงให้สติของเธอกลับมา มิลลามองหนังสือในมือก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาแล้ววางหนังสือนั้นกองรวมกันเอาไว้ที่พื้นเพื่อรอทำความสะอาด พรุ่งนี้เธอก็จะมาที่นี่เพื่ออ่านมันอีกครั้ง
ข่าวลือเรื่องการเลือกสตรีชนชั้นสูงไปให้จอมมารโด่งดังขึ้นมาราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้บนทุ่งหญ้าแห้งแล้ง เธอมายืนหยุดดูประกาศบนกระดานข่าวหน้าโบสถ์ แน่นอนว่าสตรีชนชั้นสูงที่ยังมิได้แต่งงานกำลังเป็นกังวลกันอย่างมากจนมีประกาศการหาคู่ออกมาอย่างรวดเร็วเพราะไม่มีใครต้องการเป็นตัวแทนเพื่อเดินทางไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยปีศาจหรอก แต่การอยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างกันเพราะว่าทุกคนที่เธอเห็นต่างชั่วร้ายไม่แพ้ปีศาจพวกนั้นเลย
มิลลาเดินเข้าไปด้านในโดยมิได้คิดสนใจกับข่าวที่ประกาศบนกระดาน เพราะว่าเธอคือหญิงม่ายอีกทั้งตระกูลนิมเป็นแค่ตระกูลบารอนจนๆที่ห่างไกลคำว่าชนชั้นสูงมาก นี่หากว่าเธอไม่ได้เอาเงินที่ได้จากการเป็นเคาน์เตส ไปซื้อเหมืองเพชรเล็กๆแล้วละก็ป่านนี้เธอและท่านพ่อท่านแม่คงจะไปขุดมันอยู่ที่ไร่อย่างแน่นอน
"มาเร็วเกินไปแล้ว พึ่งรู้ว่าเจ้าชื่นชอบการใช้แรงงานแบบที่ไม่ได้ค่าตอบแทน"
ลิเลียนกล่าวทักมิลลาในขณะที่นางพึ่งเดินออกมาจากห้องนอนด้านหลังของโบสถ์
"ข้าต้องการความเงียบสงบและที่นี่ก็สามารถมอบมันให้ข้าได้ ข้าสามารถทำคนเดียวได้นะคะงานในห้องหนังสือ หากว่าท่านพี่มีนัดที่ไหนก็ไปได้เลยแบบไม่ต้องรู้สึกผิดกับข้า"
ลิเลียนหัวเราะเบาๆ
"ข้าไม่เคยรู้สึกผิดสักครั้งเลยเวลาที่ใช้เจ้าทำงานแทนข้าน่ะ เจ้าโชคร้ายเองนะที่มาพบเจอพี่สาวที่แสนขี้เกียจแบบข้า"
ริมฝีปากของมิลลายกยิ้มขึ้นมา เธอเดินเข้าไปด้านในห้องสมุดก่อนจะเริ่มทำความสะอาดอีกครั้ง มีหนังสือแปลกประหลาดมากมายอยู่ที่นี่ เรื่องราวความเป็นมาของสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจ ความขัดแย้งที่ยาวนานหลายร้อยปีและเหตุผลของการส่งมอบหญิงพรหมจรรย์ไปให้ท่านจอมมาร
เหตุผลหลักนั่นก็คือการแต่งงาน สตรีผู้นั้นจะต้องแต่งงานกับท่านจอมมารและส่งมอบครั้งแรกเพื่อเพิ่มพลังปีศาจในร่างกายของจอมมารให้มากขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมจะต้องเป็นสตรีที่ถือครองพรหมจรรย์..
ไม่เคยมีสตรีใดกลับมา ไม่มีใครล่วงรู้ว่าในดินแดนปีศาจเป็นเช่นไรเพราะไม่เคยมีใครได้ออกมาเพื่อเล่าถึงเรื่องราวในนั้นให้ฟังเลย ในครั้งหนึ่งเมื่อร้อยปีก่อนไม่มีสตรีใดอาสาเข้าไปในเมืองปีศาจจนองค์จักรพรรดิมีรับสั่งอย่างลับๆว่าให้นักเขียน เขียนเรื่องราวความรักของสตรีกับท่านจอมมารออกมาเพื่อลวงหลอกสตรีให้เกิดอาการเพ้อฝันถึงความรักแสนโรแมนติกที่คล้ายกับนิทานก่อนนอน
มิลลานิ่วหน้า เธอวางหนังสือเล่มนี้ลงก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือนิยายที่เจอเมื่อวานขึ้นมาดู มันถูกเขียนขึ้นเมื่อแปดสิบปีที่แล้ว..ช่วงเวลาที่องค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เขียนนิยายขึ้นมาล่อลวงสตรี
ให้ตายเถอะ! นี่คือเรื่องราวชวนเพ้อฝันอย่างนั้นเรอะ!
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมิลลาก็ตั้งใจว่าเธอจะอ่านมันให้จบ เพราะเธอชื่นชอบสำนวนในการเขียนของนักเขียนผู้นั้น เธอเดินเอาหนังสือนิยายเล่มนั้นไปวางเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะมาเริ่มลงมือทำความสะอาดกองหนังสือเบื้องหน้าอีกครั้ง..
และในขณะที่เธอเช็ดหนังสืออยู่นั้นก็มีแสงสีขาวจ้าเกิดขึ้นมาเบื้องหน้าพร้อมกับหนังสือนิยายเล่มหนึ่งที่เรืองแสงออกมาพร้อมกับความทรงจำมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาจนมึนหัวไปหมด
เรื่องราวในนิยาย..หมายถึงว่าที่นี่คือเรื่องราวในนิยายอย่างนั้นหรือ?