บทย่อ
ถ้าหากเปลี่ยนท่าบางทีอาจจะทำให้เรารู้สึกถึงกันมากกว่านี้ ไหนลองคุกเข่าหน่อยสิมิลลา..
1.เรื่องราวที่งดงามของความรัก
"สักวันเจ้าเองก็จะได้เห็นมิล ความรักน่ะมันเป็นเรื่องราวที่งดงามของหนุ่มสาว เรามองสบตากันหลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือเข้ามาโอบกอดข้าเอาไว้..ริมฝีปากของเขาพร่ำบอกรักข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับเปลวเทียนที่ดับลง"
มิลลากัดขนมปังหนึ่งคำก่อนจะมองหน้าของท่านพี่ลิเลียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไหนแต่ไรท่านพี่ลิเลียนนั้นกล่าวเพ้อฝันถึงเรื่องราวความรักอยู่เสมอจนเธอรู้สึกเบื่อหน่ายแทนที่จะรู้สึกอยากเห็นพวกมันแล้ว
"หลังจากนั้นในรุ่งสาง หมอนั่นก็ทิ้งพี่ไปเหมือนกับชายหนุ่มคนที่แล้วใช่หรือไม่?"
ลิเลียนหัวเราะร่า
"ผิดแล้ว เขามิได้ทอดทิ้งพี่ แต่สัญญาของเรามันมีอยู่แค่นั้นมิล พบเจอ มองตา สัมผัสหลังจากนั้นก็แยกย้ายก็ไป"
"นี่พี่เรียกอะไรแบบนั้นว่าความรักอย่างนั้นหรือ?"
ลิเลียนลูบผมมิลลาเบาๆ
"พี่เหนื่อยล้ากับการผูกติดกับใครสักคน ในชีวิตนี้เรามีวัยที่งดงามสะพรั่งไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำมิล การจะส่งมอบช่วงวัยที่ล้ำค่าเช่นนั้นให้บุรุษเพียงผู้เดียวพี่มองว่ามันน่าเสียดายมากเกินไป นอกเสียจากเขาจะเป็นท่านเคาน์มอแอธ"
มิลลานิ่วหน้า เธอวางขนมปังลงเพราะไม่มีความรู้สึกว่าอยากจะกินต่อเมื่อได้ยินชื่อนั้นเอ่ยออกมาจากริมฝีปากของท่านพี่ลิเลียน เธอคือบุตรีของบารอนนิม ท่านพ่อและท่านแม่คือขุนนางในระดับล่างสุดที่ไม่มีใครมามองเห็นหัวของเราเลยด้วยซ้ำ งานเลี้ยงพิธีบรรลุนิติภาวะของเธอก็ได้ท่านแม่อธิการนอร่าห์เป็นผู้จัดให้ที่โบสถ์ เพราะว่าบ้านของเธอน่ะไม่มีเงินมากพอจะใช้จ่ายไปกับงานเลี้ยงที่ฟุ่มเฟือยพวกนั้นหรอก
เธอใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ที่โบสถ์ และเพื่อนของมิลลามีเพียงแค่ลิเลียนที่แก่กว่าสองปีเท่านั้น ลิเลียนเป็นสตรีที่ไม่ถึงกับว่างดงามจับตา แต่นางมีวิธีการเข้าหาบุรุษในแบบที่ไม่มีใครมีความสามารถเรื่องนี้เท่ากับลิเลียนอย่างแน่นอน และลิเลียนคือบุตรีของท่านแม่อธิการ..
"ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางเลือกเพราะข้อเสนอที่ท่านเคาน์มอบให้มันคือเงินในจำนวนมหาศาล..แต่มิลนี่มันราวกับชีวิตของเจ้าหญิงในเทพนิยายเลยไม่ใช่เหรอ? ท่านเคาน์ผู้สูงศักดิ์กับโฉมงามที่จนๆน่ะ ทุกเรื่องเป็นเช่นนี้..ข้าหมายถึงฐานะของนางเอก.."
เคาน์อินคาเขาเป็นใครเรื่องนั้นเธอไม่เคยรู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่มิลลารู้มาว่าเขาแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลมาจากแอสลาสพี่ชายของเขา และแอสลาสเขาคือเพื่อนของเธอ ในใจของมิลลามันเลยรู้สึกได้ถึงเจตนาที่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจของท่านเคาน์ เขาไม่ได้รักเธอแต่ที่เขามาขอเธอแต่งงานเป็นเพราะว่าเขาต้องการแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างของพี่ชายต่างหาก
เจ้าหญิงในเทพนิยายอย่างนั้นหรือ? เชื่อได้เลยว่าการเดินเข้าไปในตระกูลมอแอธมันจะต้องเป็นหนทางสู่นรกอย่างแน่นอน! แต่แล้วเธอมีทางเลือกที่ไหนกันล่ะ
ท่านพ่อและท่านแม่จะสบายหากได้เงินที่ทางท่านเคาน์ส่งมอบให้ เธอก็แค่ต้องเสียสละเพื่อคนในครอบครัวบ้าง ต้องอดทนเพื่อครอบครัวให้มากที่สุด ไม่ว่าอินคาจะเป็นคนเช่นไรเธอจะทำดีกับเขาให้สาสมกับที่เขามอบชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในครอบครัวของเธอ
"ได้เวลาประทับตราลงไปแล้วครับท่านเคาน์ เพียงแค่ท่านประทับตราของมอแอธลงไป หนังสือการหย่านี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์"
อินคาหัวเราะเบาๆ เขาแสยะยิ้มก่อนจะประทับตราประจำตระกูลลงไปโดยที่สายตาของเขาจ้องที่ใบหน้างดงามของมิลลาอย่างอาฆาต
"คิดว่าเจ้าจะสามารถเดินเข้าไปในวงสังคมได้อีกอย่างนั้นหรือ?"
"คิดอย่างไรนั่นมันเรื่องของข้า ข้าจะเดินไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ รีบๆเขียนชื่อลงไปซะที"
สตรีผู้นี้ มิลลา นิม!! เขาส่งมอบทรัพย์สินมากมายให้กับตระกูลบารอนกระจอกๆนั่น แถมนางอยู่ที่นี่ก็ได้สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง เครื่องประดับที่หายาก ได้ทานอาหารดีๆแล้วทำไมถึงได้..โง่งมขนาดนั้น
"ข้าไม่มีทางยินยอมให้เรื่องนี้มันจบลงโดยง่ายหรอกนะ ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าได้ใช้ชีวิตสบายๆนับจากนี้เป็นต้นไป ข้าจะ..ทำลายเจ้า"
มิลลาถอนหายใจ
"อินคา ข้าเคยคิดเสมอว่าเจ้าน่ะ มันคือคนเฮงซวยที่สุดในราชอาณาจักรนี้แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเพราะว่าเจ้ามันคือคนสารเลวที่สุดในราชอาณาจักรนี้ต่างหาก!!"
เธอคว้าม้วนกระดาษใบหย่าที่ประทับตราของตระกูลมอแอธและตระกูลนิมมาถือเอาไว้ก่อนจะรีบเดินออกมา ขอบตาพลันรู้สึกร้อนผ่าวราวกับน้ำตาจะไหลออกมา
ลิเลียนกล่าวว่าสตรีจะมีช่วงเวลางดงามสะพรั่งไม่ถึงสิบปี แต่เธอเสียเวลาอยู่ที่นี่ห้าปีแล้ว! อยู่กับชายที่เป็นบ้า! อินคาไม่ปกติเอามากๆ ทั้งที่เธอคิดว่าเธอจะสามารถรักเขาได้หากว่าเราอยู่ด้วยกัน เคยคิดว่าชีวิตที่นั่งอยู่บนกองเงินกองทองมันจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน เธอคือเคาน์เตสมอแอธนะ เป็นสตรีที่ได้งบใช้จ่ายส่วนตัวมากขนาดที่ซื้อคฤหาสน์เดือนละหลังได้เลย..
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเพราะว่าอินคาเขา..อยากทำลายเธอ เรื่องสตรี เรื่องนั้นเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติในชนชั้นสูง เขาจะต้องมีนางบำเรอหรือว่าสตรีอื่นอยู่แล้ว เรื่องนั้นเธอจะไม่เป็นไรเพราะเธอเข้าใจเรื่องของชนชั้นสูงดี
แต่เขา..ส่งมอบบุรุษมาให้เธอทุกสัปดาห์ แล้วประกาศจะยกทองสิบหีบให้กับชายหนุ่มที่นอนกับเธอได้
เธอไม่รู้ว่ามันเป็นปมในใจหรือว่าอะไรของเขากันแน่ เพราะว่าในคืนร่วมหอเขาไม่สามารถสัมผัสร่างกายของเธอได้เลย หลังจากนั้นเขาก็พยายามอีกครั้งแต่มันก็ไม่สำเร็ว เขาถามเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเธอนอนกับแอสลาสรึยัง? หลังจากนั้นก็มองเธอด้วยสายตารังเกียจถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธก็ตาม
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามิลลารู้ได้เลยว่าเธอและเขา เราไม่สามารถรักกันได้หรอก..อุปสรรคในใจของเขามันยิ่งใหญ่เกินไป เขาอิจฉาพี่ชายของเขามากถึงขนาดยินยอมแต่งงานกับเธอเพราะรู้ว่าแอสลาสชอบเธอ
และเหตุผลที่เขายินยอมหย่ากับเธอก็เพราะว่าแอสลาสแต่งงานแล้ว และ..เธอข่มขู่เขาเรื่องโรคประจำตัวของเขา อินคาเป็นโรคนอนไม่หลับและเขาต้องการสตรีมาคอยปลอบประโลมเขาในยามนอน มันไม่ใช่การทำเรื่องอย่างว่าแต่อินคาแค่ต้องการเนินอกเพื่อหนุนนอน ราวกับเด็กน้อยที่ต้องการอ้อมกอดของมารดา
"ไม่เห็นต้องไปใส่ใจ ตอนนี้เจ้ากลับมาเป็นมิลลาคนเดิมแล้วนี่ เชื่อพี่เถอะมิลมีชายหนุ่มมากมายที่ต้องการมีค่ำคืนที่เร่าร้อนกับเจ้า ใช้ทรัพย์สินที่ได้จากการหย่าให้คุ้มสิ เจ้าก็แค่ต้องการบุรุษสักคนเพื่อปลอบโยนความเจ็บปวด"
"ข้าต้องการอยู่เงียบๆต่างหาก พี่ลิเลียนเรื่องการจะร่วมหลับนอนกับใครสักคน สำหรับข้ามันจะต้องมีเรื่องของความรักเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย"
ลิเลียนขมวดคิ้ว
"ความรักบ้าอะไร เจ้าก็แค่ชอบคนที่หน้าตาต่างหาก! อย่ามามัวพูดสวยหรูอยู่เลย ดูทางนั้นสิท่านเซอร์ไฮน์เขาหล่อเหลาและ..ขนาดส่วนนั้นของเขาใหญ่กว่าข้อมืออีก เขาน่าจะเป็นชายหนุ่มที่เจ้าอยากจะมีค่ำคืนที่งดงามด้วย"
มิลลาหัวเราะเบาๆ เรื่องการหลงใหลชายหนุ่มที่ใบหน้าเรื่องนั้นมันคือนิสัยมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะว่าท่านแม่ของเธอมิได้งดงามแต่ว่าท่านพ่อนั้นหล่อเหลาสุดๆไปเลย และต้องขอบคุณท่านพ่อที่ทำให้เธอเกิดมางดงามเช่นนี้ เพราะฉะนั้นเธออยากจะมีลูกสาวหรือว่าลูกชายที่หน้าตาน่ารัก ชายหนุ่มที่จะร่วมเตียงกับเธอก็ขอ..ดูที่หน้าตาสักหน่อยก็แล้วกัน
"เรื่องใบหน้าของเขาจัดว่าพอดูได้ แต่เรื่องส่วนนั้นที่ขนาดเท่าแขน..ข้าคิดว่าข้าไม่เสี่ยงนอนกับเขาจะดีกว่า.."
"โอ้เด็กน้อย เจ้าไม่รู้หรอกว่ายิ่งขนาดของส่วนนั้นเขามันใหญ่โตมากแค่ไหน เขาก็จะยิ่งส่งมอบความสุขให้เจ้าได้มากเท่านั้น"
"...."
จะบ้ารึไง ใครมันจะไปชื่นชอบอะไรแบบนั้นกัน แล้วพี่ลิเลียนพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเธอที่ยังเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ได้ยังไง!! แถมแผลในใจเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าของเธอมันก็ฝังลึกจนเกินไป..
บางทีเธอต้องการเวลาสักพักใหญ่ๆในการที่จะมองหาบุรุษสักคนมาเป็นคนรักหรือว่า..คู่นอน