2.ความอดทนมันไร้ประโยชน์
"..เลดี้ทั้งสองยังไม่มีใครมานั่งด้วยอย่างนั้นหรือครับ?"
ในขณะที่มิลลากำลังเหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่างของบาร์แห่งนี้ เซอร์ไฮน์ก็เดินเข้ามาทักทายเธอและพี่ลิเลียน เขายกมือขึ้นมาเพื่อเรียกเพื่อนอีกสองคนมานั่งลงโดยไม่ถามเธอเลยสักคำ
บุรุษที่หล่อเหลา..เหตุใดมันถึงได้ไม่มีใครที่จะนิสัยตรงตามความต้องการของเธอเลยนะ
"ข้าคิดว่าข้าจะกลับแล้ว ไปก่อนนะพี่ลิเลียน"
ลิเลียนหัวเราะพร้อมกับโบกมือลามิลลา
"ไม่ตามไปอย่างนั้นหรือคะท่านเซอร์ มิลน่ะนางเป็นเด็กขี้อายและ..หากว่าท่านเซอร์มิกล่าวออกมาให้ชัดเจนมิลก็คงจะไม่เข้าใจเจตนาของท่านหรอกค่ะ"
เซอร์ไฮน์ส่งยิ้มให้ลิเลียนก่อนที่เขาจะเดินตามมิลลาออกไป
"แล้วกับเลดี้ลิเลียนล่ะครับ..ต้องกล่าวเช่นไรท่านถึงจะล่วงรู้ถึงความต้องการของข้า"
ลิเลียนปรายตามองสหายของเซอร์ไฮน์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างคาดหวัง
"ข้ามิใช่เลดี้หรอกค่ะท่านเซอร์ ข้าเป็นเพียงแม่ชีเท่านั้น.."
"อ่า เช่นนั้นก็นับว่าข้าโชคดีเพราะยังมีอีกหลายบทสวดที่ข้ายังไม่อาจทำความเข้าใจได้ มิทราบว่าท่านลิเลียนจะช่วยชี้แนะข้าสักหน่อยได้ไหมครับ"
ลิเลียนยกยิ้ม
"เรื่องนั้น..ข้าจะชี้แนะท่านเซอร์เองค่ะ แน่นอนว่าหากท่านพอมีเวลาจนถึงรุ่งสาง"
เขาจับมือของเธอขึ้นมาก่อนจะจุมพิตที่หลังฝ่ามือ
"เวลาคืนนี้ของข้า เป็นของท่านนะครับได้โปรดใช้มันให้คุ้มค่าทุกนาทีด้วยครับท่านแม่ชีลิเลียน..."
.......
มิลลาขมวดคิ้วเมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตามมาและพอหันไปมองเธอก็พบกับใบหน้าที่เหนื่อยล้าของท่านเซอร์ไฮน์
"ให้ข้าไปส่งนะครับ เลดี้เดินคนเดียวในยามวิกาลเช่นนี้ดูจะน่าเป็นห่วงอยู่บ้าง"
ถนนเส้นนี้เธอเดินด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่เด็กแล้ว แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรให้ต้องหวาดกลัวอย่างที่เขาพูดเลย
"ข้าคิดว่าข้าสะดวกมากกว่าหากว่าข้าจะเดินกลับคนเดียว ท่านเซอร์กลับไปที่บาร์เถอะค่ะ"
เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ความงดงามในแบบที่ไม่สามารถหาได้จากสตรีทั่วไป ถึงแม้ว่านางจะพึ่งหย่ากับท่านเคาน์แต่เขาก็มิได้นึกรังเกียจเลย
"เลดี้เชื่อเรื่องรักแรกพบรึเปล่าครับ"
ไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะไอ้คำว่ารักแรกพบนี่แหละทำให้เธอต้องซวยถึงห้าปีเต็ม หากว่าแอสลาสไม่รักเธอตั้งแต่แรกเห็น อินคาก็คงไม่ต้องมาบังคับเธอให้ไปแต่งงานกับเขา
"ข้าคือสตรีที่อายุยี่สิบสาม ข้ามิใช่ดรุณีน้อยที่จะหวั่นไหวกับมุกจีบสาวแบบนั้นหรอกนะคะ"
ชั่ววินาทีนั้นไฮน์รู้สึกได้เลยว่าเขากำลังทำหน้าไม่ถูก
"ข้า..ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นคนรักของเลดี้อย่างนั้นหรือครับ ข้ารับรองได้เลยว่าข้ายังไม่มีภรรยา และหน้าที่การงานของข้าก็มั่นคงมากๆ.."
มิลลามองหน้าของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"ค่ะ หน้าที่การงานและหน้าตาของท่านนั้นนับว่าตรงตามความต้องการของข้าทุกอย่าง แต่..ข้าไม่ชื่นชอบที่ส่วนนั้นของท่านมันใหญ่โตจนเกินไป"
น้ำเสียงที่ชัดเจนพร้อมกับใบหน้าจริงจังของมิลลามันทำให้เขา..ไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกเช่นไรกับการถูกปฏิเสธครั้งนี้ดี
"ขะ..ข้าไม่คิดว่านั่นมันจะเป็นปัญหาเพราะสตรีทุกนางต่างก็ไม่มีใครตกใจกับขนาดของมันและ..พวกนางต่างก็ชื่นชอบ.."
เขายกมือขึ้นมาปิดปากเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองได้หลุดพูดถึงเรื่องราวที่ไม่น่าพูดออกไปเสียแล้ว
"เห็นไหมคะ ท่านเซอร์ยังไม่พร้อมจะมีคนรักหรอกค่ะ เพราะท่านยังสนุกอยู่กับการได้กวัดแกว่งเจ้านั่นอยู่ ในสายตาของท่านข้าก็แค่แปลกใหม่เท่านั้น เราอย่ามาเสียเวลาเลยนะคะเพราะข้าไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่จบลงบนเตียง"
หลังจากที่กล่าวจบมิลลาก็เดินจากไป ส่วนไฮน์เขายกมือขึ้นมากุมหัวใจพร้อมกับใบหน้าที่แดงซ่าน สตรีอะไรกัน! เท่ชะมัดเลย!!
ในคราแรกเขาอาจจะแค่ชื่นชมแต่ว่าตอนนี้เขาตกหลุมรักนางในแบบที่ปีนขึ้นมาจากปากหลุมไม่ได้อีกแล้ว!
มิลลาเดินมาหยุดที่ด้านหน้าสวนดอกไม้ก่อนถึงบ้านของเธอ เธอทอดสายตามองไปยังทางที่พึ่งเดินจากมาก่อนจะกำมือแน่น
"ข้าคิดว่าข้ากล่าวชัดเจนในตอนหย่าแล้ว ว่าข้าต้องการให้เราจบความสัมพันธ์กันตรงนั้น จะละเมิดข้อตกลงหรืออย่างไรอินคา"
เขาหัวเราะพร้อมกับเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้ อินคามิได้มีสีหน้าแปลกใจกับการระแวดระวังที่เกินพอดีของอดีตภรรยาเลย
"หย่ากันไม่กี่วันก็มีบุรุษเดินตามมาส่ง แถมเป็นเซอร์ที่อนาคตไกล..."
"โอ้ท่านเคาน์ เจ้าคงว่างมากถึงขนาดใช้เวลาอันล้ำค่าของเจ้ามาตามดูหญิงม่ายเช่นข้าอย่างนั้นหรือ ข้าจะมีชีวิตเช่นไรต่อจากนี้มันเป็นเรื่องของข้าเพราะว่าข้ามิได้มีสามีอีกแล้ว แน่นอนหากท่านเซอร์จะเดินเข้าไปส่งข้าถึงในห้องนอนก็คงจะไม่มีใครกล่าวขานว่ามันไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน"
สีหน้าและแววตาของอินคาค่อยเปลี่ยนไป
"มิลลาข้าพยายามอย่างยิ่งที่จะใจเย็นกับเจ้า แต่เจ้ากำลังทำให้ข้าคิดว่าที่ข้าใจดีกับเจ้ามันคือเรื่องที่ผิด เช่นนั้นต่อจากนี้ไป..ข้าจะไม่ใจดีกับเจ้าอีกแล้ว"
ใครร้องขอกัน? ใจดีอย่างนั้นหรือ?
เหอะ! อยากจะขำจริงๆ
"สิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าอีก เราต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างเดินเถอะ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับข้าเลยล่ะ"
ตอนที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์มอแอธ เธอเคยคิดว่าเธอจะสามารถรักเขาได้ด้วยความไร้เดียงสาของเธอ คิดว่าต่อให้เขาจะเป็นเช่นไรเราก็สาบานต่อหน้าพระเจ้าถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ในครั้งนี้แล้ว ทั้งที่เธอเชื่อมั่นขนาดนั้นอินคาก็สามารถทำลายความเชื่อมั่นของเธอลงอย่างย่อยยับด้วยการพาองค์หญิงเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ด้วย
ทั้งสองคนคือชู้รัก..
ใช่ชู้รักของเขาคือองค์หญิงที่แสนงดงามและมีอำนาจมากกว่าเธอที่เป็นภรรยาของเขา เธอกัดฟันทนอยู่สองปีในที่สุดเขาก็เลิกรากับองค์หญิงและพานางบำเรอเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ในจำนวนที่นับไม่ถ้วน
ที่ใดที่มีสตรีมากปัญหามันย่อมตามมา และหนึ่งในนางบำเรอของเขาท้อง นั่นถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากเพราะเด็กที่เกิดมาจะเป็นลูกนอกสมรส อินคาไม่ยินยอมให้ชีวิตของเขามีปัญหาเขาจึงให้เงินสตรีผู้นั้นก้อนหนึ่งเพื่อให้นางไปจากที่นี่และกำจัดเด็กในท้องเสีย แต่แล้วก่อนที่เธอจะหย่าสตรีผู้นั้นก็ปรากฏตัวในงานเลี้ยงของพระราชวังพร้อมกับลูกชายวัยสองขวบที่ใบหน้าของเขาถอดแบบอินคามาทุกอย่าง
ชื่อเสียงของเธอที่เป็นเคาน์เตสตกต่ำลงพอๆกับชื่อเสียงของมอแอธที่ได้รับผลกระทบ นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอคิดว่าความอดทนมันไร้ประโยชน์ จนเธอตัดสินใจหย่ากับเขา