3 จ้าวผี
แต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่ก่อนตายจนกระทั่งตาย หลัวซู่เฟิงไม่เคยถูกใครปฏิเสธ นางเป็นใครกัน เห็นสวยหน่อยก็คิดจะเล่นตัวงั้นหรือ ผีหนุ่มร่ำรวยบุญกุศลอย่างเขามีแต่ผีสาวจะวิ่งเข้าหา ขอแบ่งส่วนบุญ
แล้วนางเล่าเป็นสตรีประเภทไหนกัน ถึงไม่ยินยอม หรือว่าเขาหล่อไม่พอ
กรี๊ดดดดดดดดด!!!! ท่านจ้าวผี
ตอนที่จะเดินเข้าไปหานางอีกครั้ง บรรดาผีสาวอีกหลายตนเมื่อพบเห็นเขากลับรีบกรูกันเข้ามาหา หลายนางส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ต่างก็เสกชุดใหม่ใส่เพื่อเอาอกเอาใจจ้าวหุบเขาผีเช่นเขา
ผิดกับสตรีผู้นั้น ที่มองเหยียด เบ้ปาก ส่ายหัวและเดินจากไปทิ้งให้เขาวุ่นวายอยู่ในดงผีสาว
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร” หลัวซู่เฟิงถาม “หากใครตอบคำถามที่เป็นประโยชน์ได้ ข้าจะแบ่งกุศลให้พวกเจ้า
“ข้ารู้ๆ ๆ” บรรดาผีสาวต่างก็ยกมือกันจ้าละหวั่น ส่วนบุญจากหลัวซู่เฟิงใครจะไม่อยากได้กัน
“ไหนเจ้าลองกล่าวมาให้ข้าได้ฟังหน่อยสิ” ผีหนุ่มผายมือไปทางผีสาวชุดเหลืองที่ยืนบิดเขินอายอยู่ทางซ้ายมือ
“นาง...ข้าพบนางครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนเจ้าค่ะ ไม่มีใครรู้ว่านางมาจากไหน แถมยังแต่งกายประหลาด” ผีสาวชุดเหลืองตอบเท่าที่นางรู้
แม้จะไม่ค่อยมีประโยชน์แต่หลัวซู่เฟิงก็แบ่งกุศลให้นางหนึ่งตำลึง
“ข้าเจ้าค่ะ ข้าๆๆๆ” ผีสาวชุดม่วงเป็นฝ่ายยกมือบ้าง ครั้นเห็นหลัวซู่เฟิงส่งสัญญาณให้นางกล่าว นางก็เริ่มเล่าให้ฟัง “ดูเหมือนว่านางจะกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่เจ้าค่ะ ได้ยินนางพูดกับลุงผีที่ท้ายตลาด นางกำลังหาบางสิ่ง บางสิ่งที่จะทำให้นางปะติดปะต่อเรื่องราวได้”
หลัวซู่เฟิงหลิ่วตา ข้อมูลที่ผีสาวชุดม่วงกล่าวค่อนข้างมีประโยชน์กับเขา
“ดีมาก เจ้าเอาไปสามตำลึง” ผีหนุ่มโปรยเสน่ห์
ข้อมูลที่เขาได้นั้นมีมากเกินพอ หากอยากได้นางมาครอบครองเขาก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่นางกำลังหา คือสิ่งใด แต่ถ้าไม่รู้ว่าคือสิ่งใด เขาก็กุเรื่องขึ้นมาได้ ถึงเวลานั้น นางก็ได้แต่งงานสาบานเป็นภรรยาเขาไปแล้ว
ถึงตอนนั้นนางก็หนีเขาไม่รอดอยู่ หลัวซู่เฟิงได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่อง
ข่าวลือของผีสาวประหลาด ในชุดสีขาวฟู่ฟ่องถูกร่ำลือไปทั่ว ว่านางคือว่าที่เจ้าสาวของหลัวซู่เฟิงจ้าวหุบเขาผีผู้ร่ำรวยบุญกุศล บรรดาผีสาวตนอื่นจึงเพ่งเล็งนางมากเป็นพิเศษ
“ท่านลุง ทำไมพวกนางจึงมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น ดูพวกนางสิ ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความโกรธแค้นอยู่รอบ ๆ ตัวเต็มไปหมด”
“นี่นังหนู เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ?” ลุงผีถามกลับ
“ไม่รู้เจ้าค่ะ ข้าไม่รู้อะไรทั้งสิ้น” ตู้หลิงตอบตามความจริง นางไม่รู้อะไรเลย
วัน ๆ นางได้แต่ร่อนเร่หาเบาะแสของเรื่องราวนี้ไปทั่วทั้งแคว้นจะไปรู้อะไรได้
ป๊อก!!! ลุงผีดีดกะโหลกนางหนึ่งที
“โอ๊ย!!!” ตู้หลิงรู้สึกเจ็บนาง ไม่ได้เจ็บเช่นนี้มาสักพักแล้ว “ท่านลุงดีดหัวข้าทำไมเนี่ย”
“นังหนู เจ้าฟังข้าให้ดี ๆ ข้าน่ะอายุหลายร้อยปีแล้วนะ รู้จักผีมาก็เยอะ และแน่นอนว่าข้าย่อมรู้จักผีในข่าวลือของเจ้า”
“หรือว่าจะเป็นไอ้ชีกอคนนั้น” ตู้หลิงเริ่มเห็นเค้าลางความเป็นไปได้
ลุงผีพยักหน้า
“อืม ผู้นั้นนั่นแหละ หลัวซู่เฟิงจ้าวหุบเขาผีผู้มีอำนาจบารมีและบุญกุศลล้นเหลือ” ลุงผีตอบ
“คนหลงตัวเองเช่นนั้นเหตุใดถึงมีบุญกุศลมากมาย” ตู้หลิงบ่น
“เจ้านั่นอยากได้เจ้าเป็นภรรยา สร้างข่าวลือในหมู่ผี ว่าเจ้าคือเจ้าสาวของเขาในอนาคต” ลุงผีเล่าข่าวที่ลือกันในหมู่ผี “ตอนที่ไอ้เด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่ อยากได้ใครก็ต้องได้ พอตายมากลายเป็นผี ก็คงไม่ละทิ้งนิสัยเดิม เจ้าต้องระวังเขาให้มาก ๆ”
“ข้าไม่ได้อยากแต่งกับเขานี่เจ้าคะ ท่านมีวิธีที่จะทำให้ข้าหนีพ้นไปจากเขาหรือไม่” ตู้หลิงเริ่มเครียด นางไม่ได้อยากแต่งงานกับไอ้ผีพรรค์นั้นเสียหน่อย
“ข้าไม่รู้วิธีหนีให้พ้นหรอก แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าจะบอกให้เจ้าต้องระวังเอาไว้ หากแต่งงานกันในโลกวิญญาณจะไม่มีทางแยกจากคู่แต่งงานที่ได้แต่งกันไปได้ จนกว่าจะมีอีกฝ่ายหมดวาระและได้เดินทางเข้าสู่โลกใหม่” ลุงผีบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“เจ้าค่ะ ข้าจะ....” ยังไม่ทันที่ตู้หลิงจะพูดจบ ร่างวิญญาณขอนางก็คล้ายโดนใครสักคนดูดเข้าไปหา
กรี๊ดดดด!!!
“ท่านลุงช่วยข้าด้วย” ตู้หลิงหวีดร้องสุดเสียง
“น้องหญิงเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก” หลัวซู่เฟิงดูดร่างวิญญาณของตู้หลิงเข้าสู่อ้อมอกของตนเอง และกอดนางเอาไว้แนบแน่น
“ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้า อย่าพูดซี้ซั้วเช่นนี้” นางทั้งดิ้นทั้งผลัก แต่พลังบุญของนางน้อยนิดมีหรือจะสู้แรงของหลัวซู่เฟิงได้
“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังตามหาสิ่งใด” นิ้วมือของผีหนุ่มเริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างกายนุ่มนิ่มขาวผ่องของว่าที่เจ้าสาว
ตู้หลิงได้ยินสิ่งที่เขาพูด นางถึงกับหยุดชะงักไม่ต่อสู้ดิ้นรน
“เจ้ารู้เรื่องของข้างั้นหรือ” ผีสาวแสนสวยทำตาโต
“น้องหญิงของข้าน่ารักจริง ๆ แต่งงานกับข้าสิแล้วข้าจะพาเจ้าไปพบกับสิ่งที่เจ้าตามหา”
ตู้หลิงพิจารณาในสิ่งที่หลัวซู่เฟิงกล่าว พร้อมกับพยายามปกป้องร่างกายของตัวเองจากบุรุษเจ้าชู้ที่ซุกซนหยอกล้อร่างวิญญาณของนางไม่หยุด
“ท่านรู้เหรอว่าสิ่งที่ข้ากำลังหาอยู่ คืออะไร” ตู้หลิงพูดอย่างจับโกหก
แววตาของหลัวซู่เฟิงสั่นไหวเล็กน้อย แน่นอนว่าตู้หลิงจับโกหกได้ทันที
“ข้าย่อมรู้”
“ท่านไม่รู้สินะ”
“ถูกจับได้แล้วสินะ แต่ข้ายังมีอีกหลายวิธีที่จะให้เจ้ามาเป็นภรรยาข้า”
พูดจบหลัวซู่เฟิงก็จุมพิตผีสาวตัวน้อย ๆ ที่อยู่ในอ้อมกอดในทันที
ตู้หลิงรีบตั้งสติ ผีสาวตัวเล็กกัดลิ้นหลัวซู่เฟิงอย่างแรงและไม่ปล่อย
“โอ้ยย.....อ่อยอ้านะ” หลัวซู่เฟิงโอดโอย
ตู้หลิงเบ้ปาก นางค่อย ๆ ขยับตัวถอยหนีไปเรื่อย ๆ ลิ้นของหลัวซู่เฟิงยาวยืดออกไปตามการก้าวขาของนาง
“อั๋นอาอ่อนอ่าอะเอิกอุ้งอับอ้า” ตู้หลิงสร้างข้อเสนอ
“ไอ้ๆๆๆๆ อ้าอะเอิกอุ้งอับเอ้อ” หลัวซู่เฟิงยอมสัญญา
ดี!!! ตู้หลิงคายลิ้นของผีหนุ่มทิ้งและไม่ลืมจะเหยียบซ้ำสักทีสองที