2 ร่ำรวยบุญกุศล
สตรีชราสูงศักดิ์คุกเข่าสวดมนต์ภาวนาอยู่ด้านบนของลานอุทิศบุญ นอกจากเหล่าผีแล้ว ยังมีชาวบ้านอีกหลายร้อยมารับสิ่งของบริจาค
ดูท่านางคงเป็นผู้ที่ร่ำรวยมากจริง ๆ ตู้หลิงอดทึ่งกับความร่ำรวยของสตรีชราผู้นั้นไม่ได้
“ท่านลุง นางเป็นใครเหรอ” ตู้หลิงกระซิบถาม
“นางคือพระพันปีแห่งแคว้นเฉา เป็นผู้ใจบุญใจกุศลทุก ๆ สามเดือนนางจะออกจากวังเช่นนี้หนึ่งครั้ง เพื่อมาอุทิศบุญให้กับบรรพชนผู้ล่วงลับ แล้วก็คอยแจกจ่ายสิ่งของให้กับประชาชนของแคว้น เป็นที่รักของทั้งผีทั้งคน” สายตาของลุงผีมองนางด้วยความชื่นชม
“อ้าว!! นางมาทุกสามเดือนเหตุใดข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ตู้หลิงไม่เข้าใจ ทำไมนางถึงไม่รู้
“ก็เจ้ามันฉลาดน้อย มัวแต่เที่ยวเล่นไปทั่วใช้บุญใช้กุศลที่ติดตัวมาแบบล้างผลาญ ไม่เคยสนใจของแจกพวกนี้ด้วยซ้ำ” ลุงผีดุ
“โธ่ ก็ข้าไม่รู้นี่ ใครบอกข้าเที่ยวเล่นกันเล่า...” ก็จริงอย่างที่ลุงผีกล่าวมาทั้งหมด วัน ๆ นางเอาแต่ล้างผลาญบุญกุศลที่มีอยู่น้อยนิดโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง มัวแต่เที่ยวหาสิ่งที่ตัวนางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไรอย่างเปล่าประโยชน์
โดนลุงผีบ่นอยู่ครู่ใหญ่ สตรีชราสูงศักดิ์ก็เริ่มแจกจ่ายอาหารการกินให้กับประชาชนที่มารอ บ้างเป็นข้าวสาร บ้างเป็นข้าวต้มที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์
“ท่านลุง แล้วผีอย่างเราจะไปรับของพวกนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ” ถึงจะอยู่มาสองปี แต่นางก็ไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมที่ผีเขาทำกัน
“ก็ต้องต่อแถวสิ”
“....” ใบหน้าของตู้หลิงมีแต่คำถาม กระทั่งท่านลุงปฏิบัติให้ดู
“วิธีการก็คือ เจ้าก็แค่จับมือของพวกชาวบ้านแบบนี้ พอเขาตักอาหารเจ้าก็จะได้ถ้วยข้าวมาแบบนี้”
มันเป็นเรื่องที่นางเองก็รู้สึกว่ามหัศจรรย์ หากตอนยังเป็นมนุษย์นางก็คงไม่เข้าใจในเรื่องอะไรแบบนี้
หลังจากกินข้าวต้มเนื้อร้อน ๆ จนพุงกางเรี่ยวแรงวิญญาณของตู้หลิงถึงได้ฟื้นกำลังขึ้นมาบ้าง พลันสายตาก็หันไปเห็นอีกด้าน
“ทางนั้นคืออะไรเหรอเจ้าคะ” ตู้หลิงเห็นผีสตรีสองสามคนกำลังทะเลาะตบตีแย่งชิงอะไรบางอย่าง
“อ้อ ทางนั้นเป็นลานเผาบุญ ถ้าเจ้าอยากได้เสื้อผ้าชุดใหม่ก็แค่ไปรอให้มนุษย์เผาให้ ถ้าตอนเผาระบุชื่อ ของพวกนั้นก็เป็นของเจ้า แต่ถ้าไม่ได้ระบุ....” ลุงผียักไหล่
“ก็จะต้องไปแย่งชิงแบบพวกนางสินะเจ้าคะ” ตู้หลิงเสริม
“ถูกต้อง...” ลุงผีหรี่ตาดูชุดของนาง “เจ้าไม่แย่งชุดจากพวกนางบ้างเหรอ”
ตู้หลิงกอดอก ชุดที่นางใส่อยู่ในตอนนี้คือแบรนด์ดังระดับโลก เจ้าสาวเป็นร้อยคนต้องรอคอยเป็นปี ๆ เผื่อที่จะได้สวมใส่มันสักครั้งเชียวนะ เรื่องอะไรนางจะต้องไปแย่งชิงชุดกระดาษพวกนั้นกันด้วยเล่า
เห็นท่าทีของนางเช่นนั้นลุงผีเองก็เหนื่อยใจ นอกจากเป็นคนต่างถิ่นแล้วนางยังเป็นบ้าด้วยสินะ
หลังจากได้รับอานิสงส์จากลานบุญเรียบร้อยทั้งผีลุง ผีสาวต่างก็แยกย้ายกันไปเที่ยวเล่นตามวิถีผี
ตู้หลิงใส่ชุดสีขาวฟูฟ่องลอยไปลอยมาอยู่เรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็มีบุรุษผู้หนึ่งลอยมาขวางทางนางเอาไว้ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
"สาวน้อย” ผีหนุ่มรูปหล่อเดินเข้ามาขวาง
“ใครเป็นสาวน้อยกัน” ตู้หลิงมองเหยียด นางอายุ 24 แล้วนะมาเรียกสาวนงสาวน้อย
“ก็เจ้ายังไงล่ะคนสวย” หลัวซู่เฟิงมองตู้หลิงด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
เขาได้ยินว่ามีผีสาวที่หน้าตางดงาม เร่ร่อนอยู่เมืองเฉา จึงได้ออกจากหุบเขาผีมาตามหานางโดยเฉพาะ เมื่อเฝ้ามองนางอยู่หลายวันถึงได้พบว่านางเป็นผีที่งดงามจริง ๆ ถึงจะอยู่ในชุดที่แปลกประหลาดไปหน่อยก็เถอะ
“อย่ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้นนะ มันน่าขนลุก” ตู้หลิงทำท่ารังเกียจสุดชีวิต
“โธ่ อย่ารังเกียจว่าที่สามีเจ้าเช่นนั้นสิ” หลัวซู่เฟิงลอยเข้าไปใกล้นางมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ใครเป็นสามีข้ากัน” ตู้หลิงแว้ดใส่เสียงดังลั่น
“ก็ข้า....จ้าวหุบเขาผี หลัวซู่เฟิงรูปหล่อผู้นี้ยังไงเล่า”
“หุบเขาผีอะไร ข้าไม่รู้จักและข้าก็ไม่ต้องการจะไปเป็นภรรยาของใครทั้งสิ้น ไอ้จ้าวผีชีกอ” พูดจบ ตู้หลิงก็ทะลุหายเข้าไปหลังกำแพงทันที
จ้าวหุบเขาผีบ้าบออะไรกัน ไอ้หล่อมันก็หล่อดี แต่นางไม่ชอบบุรุษที่มักจะทำตัวเสียมารยาท ถึงตอนนี้นางจะอยู่ในโลกของวิญญาณ ใหญ่โตมาจากไหนก็บังคับนางไม่ได้หรอกนะ
ตู้หลิงหงุดหงิดได้แต่ลอยไปลอยมาในตลาด อย่างเบื่อหน่าย
สายตาของหลัวซู่เฟิงเต็มไปด้วยความชิงชังโกรธเคือง ไม่เคยมีผีคนไหนปฏิเสธความหวังดีของเขา นางเป็นผีที่มาจากโลกอื่น คงยังไม่รู้จักเขาดีพอสินะ
เมื่อเห็นนางอีกครั้งหลัวซู่เฟิงจึงลอยเข้าไปขวางทาง
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าตอบคำถามข้าดี ๆ นะเด็กดี” หลัวซู่เฟิงขวางทางนางอีกครั้ง
ได้เผชิญหน้ากับจ้าวแห่งผีที่ดูเอาแต่ใจอีกครั้ง หัวใจของตู้หลิงกลับรู้สึกหวาดหวั่นอย่างแปลกประหลาด
ครั้งนี้เขาไม่ได้ยิ้มอ่อนโยนเหมือนกับเมื่อครู่
“.....” ตู้หลิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามหาช่องทางในการเอาตัวรอดจากที่แห่งนี้ไปให้ได้
“เจ้าจะยินยอมเป็นเจ้าสาวของข้าหรือไม่” หลัวซู่เฟิงถามนางอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยแววแห่งการข่มขู่
“ไม่!!!” ตู้หลิงยังคงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเด็ดเดี่ยว
“ทำไมล่ะ ข้าไม่หล่อหรืออย่างไร ข้าบุญเยอะนะ แบ่งบุญให้เจ้าได้” หลัวซู่เฟิงเริ่มต่อรอง ใคร ๆ ก็ชอบคนหน้าตาดีทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่หน้าตาดีและรวยบุญกุศลใครจะไม่ชอบกัน
คนที่หล่อกว่าเขานางก็เคยเห็นมาแล้ว นางเบื่อคนหล่อ นางเอือมคนหล่อ เพราะไอ้พวกคนหล่อที่ทำให้นางต้องมาล่องลอยเป็นปีเร่ร่อนอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ