1 ผีเร่ร่อน
ความรู้สึกเสียวกระสันโผล่พุ่งขึ้นมาทันทีที่ตู้หลิงรู้สึกตัว ทั่วทั้งร่างของนางกำลังรู้สึกร้อนรุ่มอย่างแปลกประหลาด เมื่อลืมตาขึ้นมองให้ชัดพบว่าตนเองกำลังถูกบุรุษผู้หนึ่งทาบทับบดเบียดร่างกายนางอย่างบ้าคลั่ง
นางจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ในสายตานางตอนนี้ก็พอจะคุ้นเคยอยู่บ้าง คล้ายกับเคยเห็นที่ไหน
“ท่าน.......” ตู้หลิงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเสียวซ่านจนยากจะบรรยาย ยิ่งเวลาที่บุรุษที่นางไม่รู้จักชื่อสอดความแข็งแกร่งขยับเข้าออกช่องทางรักของนางด้วย ยิ่งแล้วกันไปใหญ่
“อา....” ตู้หลิงครวญครางเพราะความเสียว คนตัวเล็กที่นอนอยู่ใต้ล่างกำลังถึงจุดสูงสุดแห่งความปรารถนา “ฉันเสียว..ฉันจะไม่ไหวแล้ว” นางครวญครางบิดเร่า
ยิ่งเห็นว่านางส่งเสียงครวญครางมากขึ้นเท่าไหร่ มู่อันเฉิงยิ่งเร่งจังเร็วขึ้นเท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดว่านางคือสตรีเย็นชา ผู้ไม่เคยยิ้มกระทั่งเขาและนางได้แต่งงานกัน
ตอนที่นางพูดออกไปเช่นนั้น นางเห็นชัดเจนว่าสายตาของบุรุษหล่อเหลาผู้นั้นมองนางด้วยแววแห่งความประหลาดใจ
“โอ๊ยยยย....” ตู้หลิงครางกระสันยิ่งกว่าเดิม
มือไม้ของนางทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะจับไปวางไว้ที่ใด ทำได้เพียงบีบขย้ำกับผ้าปูที่นอนเท่านั้น นางเสร็จสมไปครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาเร่งจังหวะอีกสองสามครั้งกระทั่งเสร็จสมใส่กายนาง
หลังจากนั้นบุรุษที่นางไม่รู้แม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำก็ลุกขึ้นสะบัดกาย เดินออกจากห้องนอนไปในทันที ทิ้งให้นางนอนหลับอยู่เช่นนั้น แม้กระทั่งผ้าห่มสักผืนนางยังไม่คิดจะห่มให้นางเลยสักนิด
พูดตามตรงนางไม่ใช่สตรีของโลกนี้ ก่อนหน้านางคือวิญญาณเร่ร่อนที่ลอยวนเวียนอยู่ในโลกนี้มาแล้วราวสองปีครึ่งจะได้
เมื่อตายแล้วก็ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต ตู้หลิงลอยไปลอยมาวนเวียนอยู่ในโลกยุคดิจิตอลอยู่ไม่กี่เดือน ก็ได้รับคำพิพากษา
ยังไม่ทันจะได้อ่านข้อความพิพากษาให้ละเอียด ก็ถูกดูดเข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นางไม่เคยเห็นทุกอย่างรอบ ๆ ตัว คล้ายกับเมืองโบราณเหิงเตี่ยนที่กองถ่ายละครชอบไปถ่ายกัน
พูดแล้วก็น่าน้อยใจ ไม่รู้ว่าไปทำบาปทำกรรมอะไรไว้ถึงได้ทะลุมิติถึงมาอยู่ในโลกโบราณเช่นนี้ได้ พอเข้ามาอยู่แล้วก็กลายเป็นผีเร่ร่อนใช้ชีวิตอย่างน่าเวทนา บุญกุศลไม่มี ความดีไม่ปรากฏ ล่องลอยไปเรื่อย ๆ บ้านนั้นที บ้านนี้ที อย่างน่าสงสาร
ในคราแรกที่มาถึงนางสำรวจเมืองแห่งนี้โดยรอบ คาดหวังว่าจะได้พบกับเบาะแสอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ อะไรก็แล้วแต่ ที่ให้นางได้รู้สาเหตุที่ถูกดูดเข้ามาในโลกนี้
ซึ่งตัวตู้หลิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังค้นหาสิ่งใด มันจะเป็นแบบในนิยายออนไลน์แนวระบบทะลุมิติหรือเปล่าที่จู่ ๆ ก็มีกระดานข้อความโผล่ขึ้นมาบอกข่าว บอกชื่อไอเทม บอกชื่อสิ่งของ หรือสร้างตัวเลือก ไม่ก็มีสัตว์วิเศษโผล่เข้ามาแนะแนวทางกับนาง
กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยเปื่อยนางก็ยังหาเรื่องราวพวกนั้นไม่พบ
ถนนในเมืองถูกปูด้วยหินทรายแบบโบราณ อาคารบ้านเรือนล้วนแล้วแต่เป็นของในยุคเก่าทั้งสิ้น ประชาชนที่นี่แต่งกายด้วยชุดโบราณแตกต่างจากที่ที่นางอาศัยอยู่
ช่วงหลังดูเหมือนว่าบุญกุศลที่นางเคยได้ทำเอาไว้ก่อนตายเริ่มร่อยหรอ ร่างวิญญาณของนางทั้งหิวทั้งกระหายต้องไปต่อสู้แย่งชิงกับบรรดาผีไม่มีญาติ รอส่วนบุญส่วนกุศลของผู้ใจบุญที่นาน ๆ จะแผ่มาถึงนักสักที
“นังหนู เหตุใดเจ้าจึงแต่งตัวเช่นนี้” ผีชราผอมโซถาม
ตู้หลิงยืนบิดตัวไปมาเพื่อดูสภาพชุดเดรสเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องของตัวเอง
“เอ่อ.....” นางไม่รู้จะตอบว่าอะไร ได้แต่ยิ้มเจื่อนให้แก่ผีรุ่นพี่ ที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก โชคดีที่เป็นผีจะไม่มีความรู้สึกร้อนรู้หนาว ไม่เช่นนั้น นางคงได้หนาวตายอีกรอบเป็นแน่
“น่าสงสารจริง ๆ” ผีลุงชราส่ายหน้า รู้สึกสงสารพี่สาวรุ่นน้องอย่างจับใจ นี่คงจะเป็นคนต่างเมืองมาตายที่เมืองเฉาโดยไม่รู้ตัว “มาเถอะ ไปที่วัดกันไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผีลุงชราลอยนำหน้าโดยมีตู้หลิงลอยตามหลัง
หลังจากอยู่ที่นี่ได้ราวสองปี นางก็เริ่มปรับตัวได้ ผีที่ยังมีครอบครัวคอยทำบุญให้จะมีได้อานิสงส์จากการทำบุญของญาติพี่น้อง
ซึ่งแน่นอนว่าผีจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเช่นนาง ใครกันจะนึกถึง ตอนมีชีวิตก็ใช้ชีวิตแบบไม่มีพี่ไม่มีน้อง เรียกได้ว่าตัวคนเดียวอย่างแท้จริง ถึงจะมีแฟนคลับเยอะแยะแค่ไหนก็ตาม
ตู้หลิงลอยตามผีลุงรุ่นพี่ไปอย่างเอื่อยเชื่อย จนผู้ชราที่ลอยนำหน้าทำหน้าอ่อนใจ
“นี่มาเร็ว ๆ ถ้าช้ากว่านี้โดนผีบ้านอื่นแย่งบุญกุศลแย่งอาหารไปหมดนะ” ลุงผีว่า
“คร่า...ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
ตู้หลิงกลอกตา ทำไมนางต้องคอยมาแย่งบุญแย่งกุศลของเหลือจากผู้อื่นด้วยเล่า
ในเมื่อตอนมีชีวิตอยู่ ถึงจะเป็นเด็กกำพร้าก็จริง แต่นางไม่เคยลำบาก เรียกได้ว่าความสวยของนางไม่เคยทำให้นางต้องทุกข์ยาก
ผีสาวแสนสวยถอนหายใจดัง ๆ อยู่สองสามที ก่อนจะบังคับให้ตัวเองลอยไปยังลานอุทิศบุญตามผีรุ่นพี่
เมื่อมาถึงพบกับเหล่าบรรดาผีไร้ญาติมารวมตัวกันอยู่เต็มลาน ส่วนด้านบนมีสตรีชราสูงศักดิ์ใจดีผู้หนึ่งกำลังนั่งอุทิศบุญแผ่ส่วนกุศล
รอบ ๆ กายของนางเต็มไปด้วยแสงสีทองเปล่งประกายสวยงาม ดูจากผู้อารักขาและผู้ติดตาม สตรีชราผู้นั้นคงจะเป็นพวกภรรยาขุนนางหรือไม่ก็พวกเชื้อพระวงศ์