บทที่ 1 - โลกคู่ขนานที่มีอยู่จริง 3
หลังจากที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้และจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ หยางเว่ยหลงก็จัดการบรรดาขุนนางเรืองอำนาจทั้งหลาย ที่ตั้งตนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับอดีตฮองเฮาจนหมดสิ้น จะเรียกว่าล้มล้างขั้วอำนาจเก่าทั้งหมดทิ้งไปก็เห็นจะไม่เกินจริง
หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงคัดสรรหาคนมาดำรงในตำแหน่งต่างๆ ใหม่ ถือเป็นการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ทั้งหมด ไม่ให้เหลือพวกขุนนางคนเก่าในอดีตอยู่อีก
หลักเกณฑ์ใดๆ ล้วนถูกชายหนุ่มปรับเปลี่ยนใหม่ให้เหมาะสม รวมไปถึงการคัดเลือกสนมชายาของเขาเองด้วย
หยางเว่ยหลงไม่เลือกสรรสตรีที่มาจากตระกูลมีหรือเคยมีอำนาจ แต่กลับเลือกสรรสตรีที่เขาคิดว่าปลอดภัยสำหรับเขามาอยู่ข้างกาย
หวังเฟยจูเป็นคนแรกที่ชายหนุ่มให้มาดำรงตำแหน่งฮองเฮา ด้วยเพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นน้องสาวของหย่งอ๋อง เจ้าผู้ครองแคว้นอ้ายหย่งที่อยู่ติดกับแคว้นตงเทียน เหตุผลเพราะไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายมีชาติกำเนิดที่สูงส่งคู่ควร แต่เป็นเพราะว่าหวังเฟยจูไม่มีใจชมชอบในบุรุษเช่นเขาต่างหาก
ส่วนสนมชายาคนอื่นๆ ก็มาจากตระกูลบัณฑิตเล็กๆ หรือไม่ก็ตระกูลค้าขาย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มาจากตระกูลนาง นั่นก็คือหลี่กุ้ยเฟย...หลี่ชิงเยว่
สิบปีก่อนหยางเว่ยหลงพาตัวนางมาชุบเลี้ยงในหวัง ห้าปีให้หลังจึงได้มอบตำแหน่งกุ้ยเฟยให้ ด้วยเพราะต้องการตอบแทนน้ำใจของคนตระกูลหลี่ที่เคยช่วยเหลือเขาไว้ในอดีต โดยเฉพาะหลี่จิ้นพี่ชายของนาง
ทว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น หลี่ชิงเยว่เกิดพลัดตกลงไปในทะเลสาบ ในระหว่างที่กำลังนั่งเรือชมความงามและเงียบสงบของอุทยานที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองหลวง
หลี่ชิงเยว่ตกน้ำไปนานหลายเค่อกว่าที่จะมีคนลงไปช่วยขึ้นมาได้ หลังจากนั้นนางก็หมดสติไปนานร่วมเดือน ก่อนจะรู้สึกตัวและฟื้นขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้
แต่หลังจากที่ฟื้นคืนสติ หลี่ชิงเยว่ก็คล้ายจะแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน...
ก่อนหน้านี้หลี่ชิงเยว่นับว่าเป็นสตรีเรียบร้อย พูดน้อย อ่อนหวานผู้หนึ่ง กิริยามารยาทล้วนถูกต้องตามแบบของสตรีที่เติบโตมาในวังหลวงทุกกระเบียดนิ้ว
ทว่าหลังจากที่ฟื้นคืนสติขึ้นมา หลี่ชิงเยว่ก็ทำตัวราวกับว่าได้สูญเสียความทรงจำทุกอย่างไป นางจำสาวใช้คนสนิทของตัวเองไม่ได้ กระทั่งชื่อของตัวเองก็จำไม่ได้ อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจักรพรรดิหยางเว่ยหลงเป็นผู้ใด
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้...นางยังเคยบอกรักจักรพรรดิหยางเว่ยหลงผู้นี้อยู่เลย...
คิดมาถึงตรงนี้ หยางเว่ยหลงก็รู้สึกวุ่นวายในอก เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง แต่การที่เขาจะปล่อยให้นางจดจำเขาไม่ได้ไปตลอดกาลนั้น เป็นสิ่งที่ลึกๆ แล้วจักรพรรดิเช่นเขาไม่พึงปรารถนา
แม้ว่าเขาจะตอบรับไมตรีที่นางมีให้ไม่ได้ แต่เขาก็จะไม่ยอมให้นางลืมเลือนเขาเป็นอันขาด!
“ซิ่นเฉิง! เตรียมเกี้ยว เราจะไปตำหนักรุ่ยเซียง!”
แล้วจักรพรรดิหยางเว่ยหลงก็ทรงเสด็จไปที่ตำหนักของหลี่กุ้ยเฟยกลางดึก ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่ได้เสด็จไปที่วังหลังในเวลากลางคืนมานานหลายเดือนแล้ว
ซิ่นเฉิงทั้งตกใจและแปลกใจ ทว่าขันทีชราก็เร่งสั่งการให้คนไปเตรียมเกี้ยว ก่อนที่องค์จักรพรรดิจะทรงเปลี่ยนพระทัย
“ไปจัดเตรียมขบวนให้พร้อม ส่งคนไปแจ้งที่ตำหนักรุ่ยเซียงด้วยว่าฝ่าบาทจะเสด็จ เร็ว!”
“ขอรับกงกง”
ขันทีชั้นผู้น้อยโน้มกายรับคำสั่งแล้ววิ่งหายไปในความมืดด้วยความรวดเร็ว