ตอนที่ 4 ศึกรักใต้น้ำ
เมิ่งลี่ถิงจำใจต้องเดินออกมาจากตำหนักท่านอ๋องด้วยมือเปล่า เดิมทีคิดว่าจะมาเพื่อสร้างรอยร้าวให้กับคนทั้งคู่เพราะถึงอย่างไรนางก็มั่นใจว่าท่านอ๋องต้องมีเยื่อใยและเป็นห่วงความรู้สึกนางอยู่บ้าง
“อ๊าา ท่านอ๋อง อย่าพึ่งล้วงเข้ามาสิเพคะพระองค์ขี้โกงนี่ อร๊ายย….”
“เจ้าท้าทายข้าก่อนนะพระชายา มือเจ้าก็ไม่ยอมปล่อยข้าเช่นกัน ฮึ๊ยย!! ซิ่วอิง!!”
สงครามใต้น้ำในอ่างเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด เมื่อพูดจบแล้วท่านอ๋องก็ปิดปากนางด้วยจูบที่เร่าร้อน นิ้วมือที่กระดิกอยู่ในร่องกลีบด้านล่างก็ไม่ลดละเช่นกัน พอ ๆ กับอีกฝ่ายที่ใช้มือเรียวของนางรูดมังกรยักษ์กระตุ้นอยู่ใต้น้ำ
“มาได้เสียทีข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”
“อันใดกันเพคะ เพียงเท่านี้ก็ทน…อ๊าา ท่านอ๋องอย่าพึ่งเลียสิเพคะ อ๊าา ก็ได้ ๆ ยอมแล้วเพคะ”
ลิ้นหนาดูดดึงยอดอกจนช้ำเมื่อนางไม่ยอมสวมประสานกายเสียทีเอาแต่รูดมังกรของเขาจนเริ่มทนไม่ไหวดังนั้นเขาจึงต้องรีบกระตุ้นนางซึ่งก็ได้ผล
ร่างบางเอนแอ่นตามความคับแน่นใต้น้ำเมื่อร่องบุปผาของนางดูดกลืนมังกรของเขาเข้าไปและเริ่มขยับเอวเข้าหา เสียงน้ำที่ซัดกระเซ็นออกจากสระยิ่งทำให้อารมณ์ปรารถนาของทั้งคู่แตกกระเจิง
“ข้าไม่มีทางเชื่อว่าท่านอ๋องจะหลงกลอุบายของบุตรีแม่ทัพต่ำต้อยเช่นฟู่ซิ่วอิง ข้าเมิ่งลี่ถิงยังคงเป็นสตรีที่เพียบพร้อมเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋อง ข้าติดตามท่านอ๋องมาจากเมืองหลวงเพราะตำแหน่งนี้ ไม่มีทางยอมเสียมันไปเพราะนังจิ้งจอกบ้านนอกนั่น!!”
“คุณหนูเจ้าคะ แต่ว่ามาเข้าเฝ้าหลังพิธีอภิเษกเช่นนี้…”
“หุบปาก!! ท่านอ๋องที่ข้าเคยรู้จักไม่ได้แตกต่างกับเหล่าองค์ชายในวังหลวง ต่อให้พระองค์กำลังเข้าเฝ้าฝ่าบาทอยู่ หากข้าต้องการพบ พระองค์ก็ไม่เกี่ยงที่จะออกมาพบข้า”
“แต่วันนี้….ท่านอ๋อง…”
“คงเพราะนังแพศยานั่นแน่ ๆ เอาไว้ข้าจะจัดการนางทีหลัง”
ห้องอาบน้ำ
“อ๊าา ท่านอ๋องเพคะ อ๊าาา ปวดหลังไปหมดแล้ว”
“อีกนิด อีกนิดเดียวข้าจวนแล้ว ซิ่วอิง!! อย่ารัดแบบนี้มิเช่นนั้นเจ้าจะเจ็บมากกว่าเดิม”
“อ๊าา พระองค์จะยอมแพ้หรือเพคะ”
“ไม่…มีทาง…เจ้าท้าข้าอีกแล้วงั้นหรือ”
“อ๊าาา!!! พระองค์ช่างดุดันเหลือเกิน อ๊าา”
“เจ้าลองพูดสิว่ายอมแล้ว บางทีข้าอาจจะ….อ่อนโยนลง”
นางไม่มีทางยอมแพ้แน่ เขาหลอกล่อนางสารพัดวิธีเพื่อให้นางพูดคำว่า “ยอมแล้ว” และตัวเองจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะ แต่ต่อให้แช่น้ำจนเปื่อยนางก็ไม่มีทางพูดแน่เพราะนางกำลังถือไพ่เหนือกว่าเขา
“อาา!! พระชายา เจ้ามัน…ร้ายกาจนัก”
“เพียงแค่พระองค์ตรัส…ว่า…ยอมแล้ว หม่อมฉันก็จะยอมปล่อยเพคะ อ๊าา”
“เช่นนั้นคงต้องประลองกันอีกทีแล้ว อาาา!!!”
“อ๊าาา….”
“ซิ่วอิง…..ซิ่วอิง….จะเอาชนะข้าเจ้าคงต้องไปฝึกมามากกว่านี้หน่อยนะพระชายา เฮ้อ…”
สุดท้ายฟู่ซิ่วอิงก็หมดสติไปหลังจากที่ท่านอ๋องฝากรักเอาไว้ครั้งสุดท้าย เขาต้องอุ้มร่างที่หมดสติของพระชายาพร้อมกับสวมชุดคลุมกลับมาวางที่เตียงในห้องส่งตัวอีกครั้งและห่มผ้าให้นางก่อนที่ตัวเขาจะออกมานอกห้องเพื่อจะปล่อยให้ฟู่ซิ่วอิงนอนพักผ่อนให้เต็มที่
ห้องทรงงาน
“นางมาด้วยเรื่องอันใด”
“นางมิได้แจ้งพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่ากระหม่อมก็แจ้งไปแล้วว่า….”
“ช่างเถอะ หากเป็นเรื่องสำคัญท่านราชครูคงมาด้วยตนเองแล้วเจ้ารีบส่งจดหมายนี้ไปให้เสด็จพ่อที”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องว่าแต่พระชายา…เอ่อ…”
“ทำไม เจ้าสงสัยสิ่งใดงั้นหรือ”
“พระนางเมื่อคืนนี้ทรงปลิดชีพตนเองแต่ว่า..”
“จริงด้วยสิข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย เจ้าให้คนของเราสืบคนเข้าออกให้ละเอียด เรื่องเมื่อคืนนี้เป็นแผนการลอบสังหาร นางถูกวางยาสลบและนำร่างไปผูกไว้บนคานทำให้เหมือนว่าจะฆ่าตัวตาย เรื่องนี้….ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างกับเหตุการณ์ในคืนนั้น”
“คืนนั้น…หรือว่า!!”
“อืม อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ ตามสืบมาให้ได้ ข้าเองก็อยากรู้ว่าผู้ที่ทำมีจุดประสงค์อันใดกันแน่ ให้ข้าตกกระไดพลอยโจนรับนางเป็นพระชายาแล้วเหตุใดต้องตามฆ่านางในคืนวันส่งตัวเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าคนร้ายครั้งนี้อาจจะมีมากกว่าสองพวก”
“พระองค์จะตรัสว่าเรื่องนี้ มีทั้งผู้ที่ประสงค์จับให้พระชายาเข้าตำหนักอ๋อง และอีกส่วนหนึ่งก็ลอบสังหารหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ายังไม่มั่นใจ แต่ที่รู้แน่ ๆ ….คือตอนนี้ข้าแต่งงานกับนางและนางก็เป็นพระชายาไปแล้วดังนั้นสตรีอื่นข้าจะต้องข้องเกี่ยวให้น้อยลง เรื่องของคนสกุลเมิ่งจากนี้ข้าจะพบแค่ท่านราชครูเพียงผู้เดียว ส่วนผู้อื่น…”
“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม เจ้ารีบไปเถอะ”
ท่านอ๋องเอื้อมพระหัตถ์ไปจับที่ต้นคอซึ่งเมื่อคืนนี้เขาถูกนางฝากรอยเอาไว้และนึกถึงสมรภูมิรักกับนางบนเตียงในคืนส่งตัว ไม่ว่าก่อนหน้านี้ระหว่างเขาและนางจะเริ่มต้นเช่นไรแต่ในตอนนี้นางก็กลายมาเป็นพระชายาของเขาแล้ว
นับจากนี้คงต้องให้ความสำคัญกับนางในฐานะพระชายา อีกนัยยะหนึ่งสกุลฟู่เป็นสกุลใหญ่ในหลิงโจว ฝึกขุนพลนักรบและเป็นแม่ทัพมาสี่ชั่วคนหากเขาจะต้องปกครองและกุมอำนาจให้มั่นคง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้อำนาจของสกุลฟู่ร่วมด้วย
“ตัวเล็กแต่พลังเจ้าไม่เล็กเลยฟู่ซิ่วอิง”
ห้องส่งตัว
ฟู่ซิ่วอิงค่อย ๆ ขยับตัวและตื่นมาในตอนเกือบเที่ยงของวันเดียวกัน นางค่อย ๆ หันไปมองร่างของสาวใช้ที่กำลังเก็บกวาดภายในห้องส่งตัวของนางอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะหันมาพบว่านางตื่นแล้ว
“คุณหนู…เอ่อ พระชายา ตื่นแล้วหรือเพคะ”
“ดูเจ้าสิ เปลี่ยนคำเรียกเปลี่ยนคำพูดทำเอาข้าขนลุกไปหมด รีบเรียกและคุยกับข้าเหมือนเดิมเลยนะมิเช่นนั้นข้าจะตีเจ้า”
“เจ้าค่ะ ๆ ก็ได้เจ้าค่ะคุณหนูเจ้าคะ เมื่อคืนนี้ท่านกับท่านอ๋อง….”
“ข้าทำไมหรือ”
สาวใช้อมยิ้มหน้าแดงแทนผู้เป็นนายของตน จะให้กล่าวเช่นไรอีกเพราะนางเก็บกวาดในห้องนี้มาครึ่งชั่วยามแล้วแต่ก็ยังไม่เสร็จสิ้นเสียที อีกทั้งในห้องอาบน้ำที่เลอะไปด้วยน้ำที่กระเซ็นออกจากอ่างก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”
“ข้าหิวยิ่งนัก มีอะไรให้กินบ้างหรือไม่”
“มีสิเจ้าคะ ท่านอ๋องสั่งห้องเครื่องเตรียมอาหารที่คุณหนูชอบเอาไว้ให้ทั้งนั้นเลย ข้าเป็นผู้จดให้พวกเขาทำเจ้าค่ะ ดูท่าแล้วท่านอ๋องทรงใส่พระทัยพระชายายิ่งนักนะเจ้าคะ”
“พูดเหลวไหลเขาก็แค่รู้สึก…จริงด้วย!! เจ้าหยิบผ้าแพรนั่นมาให้ข้าที”
“คุณหนู!! สิ่งนี้คือผ้าที่เมื่อคืนนี้…”
“เอามา ๆ เร็ว ๆ เข้าเรามีเรื่องจะต้องจัดการ เจ้าตามมาดูนี่สิ”
นางคว้าผ้าแพรมาเก็บเอาไว้และชี้ให้สาวใช้ของตัวเองดู ทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างรู้ความหมายอีกทั้งซิ่วอิงยังพาจินฝูไปดูร่องรอยที่คนร้ายพ่นยาสลบเข้ามาในห้องอีกด้วย
“ข้าจะรีบส่งผ้าแพรนี้ไปที่สกุลฟู่ ให้นายท่านกับฮูหยินลองสืบดูเจ้าค่ะ”
“อย่าลืมว่าอย่าให้ผู้ใดรู้เห็นเป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่”
“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าทราบแล้วคุณหนูรีบเปลี่ยนชุดก่อนเถอะเจ้าค่ะข้าจะได้ไปยกสำรับมาให้ท่าน”
“แล้ว…เขาล่ะ อยู่ที่ใด”
“เขา…ตายจริงคุณหนูแม้ว่าท่านจะให้บ่าวไม่เรียกท่านว่าพระชายาแต่จะเรียกแทนพระองค์ท่านอ๋องเช่นนั้นหาได้ไม่นะเจ้าคะ”
“ข้ารู้แล้วน่าก็แค่เรียกกับเจ้าเท่านั้น ท่านอ๋องอยู่ที่ใดงั้นหรือ”
“ดูเหมือนว่าพระชายาของข้าจะคิดถึงข้ามากสินะ พอตื่นขึ้นมาก็เรียกหาเลย ไหน ๆ เจ้าก็ตื่นแล้วเช่นนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกันที่ห้องเสวยเถอะ”