ตอนที่ 3 สมรภูมิรักเร่าร้อน
แม้ว่าจะเจ็บเพราะความรัดแน่นที่แข็งแกร่งของมังกรของท่านอ๋องแต่ฟู่ซิ่วอิงก็ยังแอ่นกายรับเขา สัมผัสนี้ทำเอารุ่ยหยางถึงกับครางเสียงหลงออกมาและดึงนางมาจูบอย่างกระหาย พวกเขาต่างถูกไฟปรารถนาที่เร่าร้อนเข้าครอบงำจนมิอาจทนได้เมื่อเริ่มขยับกายและเร่งจังหวะขึ้น
“อาาา….ซิ่วอิง!!”
“ท่านอ๋อง….อ๊าาา ปละ…เปลี่ยนท่าเถิดเพคะ”
“ได้สิ เจ้าอยากลองท่าใด”
ซิ่วอิงทำราวกับมิใช่ตัวนางเองแต่ในเมื่อสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดบอกให้นางต้องทำ นางลุกขึ้นหันหลังและแอ่นบั้นท้ายงามให้เขาอย่างจงใจและตบไปที่บั้นท้ายกลมกลึงนั้นเบา ๆ เพื่อยั่วยวนเขา ท่านอ๋องทนแทบไม่ไหวที่จะสอดมังกรเข้าไปทันทีเมื่อถูกนางเชื้อเชิญ
“อาา….ท่านี้….เจ้าเจ็บหรือไม่”
“ไม่เจ็บแล้วเพคะขยับเข้ามาอีก พระองค์เร่งเข้าเพคะ หม่อมฉันจะทนไม่ไหวแล้ว”
คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันพ้นข้ามคืนแต่งงานท่านอ๋องก็จะตกอยู่ภายใต้คำสั่งของพระชายาอย่างง่ายดายเช่นนี้ แม้ว่านี่อาจจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบระหว่างเขากับนางแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นางเติมเต็มเขาได้อย่างเหลือล้นจริง ๆ
“ท่านอ๋องเพคะ เร่งอีกเพคะ ใกล้แล้ว อ๊าา!!!”
นางรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลผ่านเข้ามาด้านในกายจนเผลอตอดรัดเขาแน่นก่อนจะยอมปล่อย ร่างบางนอนหอบอยู่ด้านล่างโดยมีพระสวามีที่ยังมิได้ถอดแก่นกายมังกรออกจากตัวนางอีกทั้งยังก้มลงมากระซิบนางอย่างแผ่วเบา
“เจ้าบอกเองนะว่าไหว เช่นนั้นข้าก็จะยังไม่หยุด ต่อให้เจ้าร้องขอก็อย่าได้คิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป”
“อ๊าา อ๊าา อื้อ….”
แก่นกายที่กระแทกเข้ามาไม่ยั้งในรอบที่สองทำเอาฟู่ซิ่วอิงแทบจะคลั่งตายเพราะนางพึ่งจะได้พักหายใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพระสวามีของนางเร่าร้อนจนนางมิอาจยอมเขาได้เช่นกัน
นางเปลี่ยนมานั่งคร่อมและส่งปทุมสีสวยให้เขาจัดการเองกับมือ ท่านอ๋องผู้ที่เหมือนกับถูกสั่งมีหรือจะยอมให้นางสั่งเพียงผู้เดียว เขาทั้งดูดดึงและขบเม้มจนนางครางเสียงสั่นพร้อมกับขยับเอวอยู่บนร่างแกร่งหนาของเขา ผมของเขาถูกนางดึงจนยุ่งเหยิงและเริ่มหลุดออกจากกวานที่ผูกเอาไว้
“อ๊าา เร่งอีกนิดเพคะ อึ๊ยย!!!”
ท่านอ๋องไม่ยอมแพ้ที่จะให้นางเป็นผู้คุมศึกในครั้งนี้นาน เขาดันตัวนางลงและเริ่มเป็นผู้กุมบังเหียนแทน นิ้วมือหนาถูนางดึงไปดูดเอาไว้และขบเม้มเบา ๆ ตามจังหวะที่เขากระแทกไปพร้อมกับมืออีกข้างที่บีบหน้าอกนางจนเนื้อล้นปูดออกมาตามร่องนิ้ว ช่างเป็นคืนส่งตัวที่เร่าร้อนอย่างที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนจริง ๆ
วันถัดมา
ม่านบนเตียงยังคงถูกปิดเอาไว้เมื่อทั้งสองพระองค์ที่ยังหลับสนิทด้วยกายที่เปลือยเปล่าจากศึกรักที่กระหน่ำเกือบรุ่งสางได้หยุดลงพร้อมกับสายลูกปัดทองบางส่วนที่ถูกดึงจนขาด
ท่านอ๋องที่นอนกกกอดพระชายาเอาไว้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนที่นางจะตื่น เขาหันไปมองคนในอ้อมกอดอย่างช้า ๆ
“คิดไม่ถึงว่าจะรับมือข้าได้นานถึงเพียงนี้ พระชายา”
“อืมม…อย่าดิ้นสิเพคะท่านพี่”
“ท่านพี่งั้นหรือ….หึ คำเรียกนี้ก็ไม่แย่นัก”
คนข้าง ๆ เริ่มรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาพร้อมกับสบตาเขา ท่านอ๋องที่พึ่งเห็นว่าพระชายาของตนเองตาโตเพียงใดก็ยามที่นางตื่นนอนในตอนนี้เอง ตากลมโตดุจลูกกวางนี้ตราตรึงใจเขายิ่งจนมิอาจละสายตาไปได้
“เจ้า…ตื่นแล้วหรือ”
“พะ เพคะ หม่อมฉัน….โอ๊ะ!!”
นางรู้สึกราวกับเอวเริ่มเคล็ดไปอีกครั้ง ก็แน่ล่ะสิเมื่อคืนนี้นางกับเขาแทบจะมิได้พักเลยราวกับก่อสมรภูมิศึกที่ไม่มีผู้ใดยอมใครเลยจนเฮือกสุดท้ายที่นางเผลอหลับไปก่อนนั่นแหละ เมื่อเริ่มรู้ตัวก็ค่อย ๆ หดตัวกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง
“ทำไมกัน เจ้าพึ่งจะมาอายงั้นหรือ”
“ไม่นะเพคะ พระองค์…ไม่รีบออกไปทรงงานหรือเพคะ”
“หลังคืนส่งตัวไม่ควรออกจากห้องหอแต่เช้าเจ้าก็คงรู้ธรรมเนียมนี้ดีนี่”
“ทราบเพคะ หมัวมัวบอกก่อนที่จะมาที่นี่แล้วเพคะ”
“อืม เช่นนั้นก็…”
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีเรื่องด่วนจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่าเข้ามายามนี้ นี่ยังไม่ถึงเวลา”
“แต่ว่า…ท่านอ๋องเคยรับสั่งเอาไว้หากเป็นเรื่องของจวนท่านราชครูเมิ่งไม่ว่าเวลาใดก็ให้มาทูลได้ทันที”
ฟู่ซิ่วอิงหันมามองพระพักตร์ที่หันกลับมามองนางด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ซิ่วอิงหันไปมองประตูก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงทั้ง ๆ ที่เปลือยเปล่าต่อหน้าเขา
“ซิ่วอิงนั่นเจ้าจะไปที่ใด”
ท่านอ๋องกระซิบถามเมื่อเห็นนางกำลังจะลุกจากเตียง เสียงถกเถียงขององครักษ์ของเขากับสาวใช้ของนางด้านหน้าประตูยังคงดังอยู่
ซิ่วอิงเปิดผ้าห่มและเดินลงจากเตียงด้วยร่างที่เปลือยเปล่าซึ่งดึงสายตาของท่านอ๋องเอาไว้ได้ทันที พระองค์มิได้สนพระทัยกับเสียงหน้าประตูอีกแล้วเมื่อเห็นรูปร่างของพระชายาที่ยั่วยวนตรงหน้าพระพักตร์นี้
“หม่อมฉันจะไปอาบน้ำ….ล้างตัวเพคะ หากได้แช่น้ำอุ่น ๆ ที่ห้องอาบน้ำคงสบายมากขึ้น” / ฟู่ซิ่วอิง
“ท่านอ๋องจะทรงกริ้วหากว่าข้ามิได้มาแจ้ง” / เสี่ยวหมิง
“แต่ว่ายามนี้เป็นเวลาที่ส่งตัว ตามธรรมเนียมไม่ควรจะมาเรียกเช่นนี้” / จินฝู
“แต่ว่าคุณหนูเมิ่งเองก็รอไม่ได้เช่นกันเจ้าไม่เข้าใจว่าคุณหนูเมิ่งกับท่านอ๋อง....” / เสี่ยวหมิง
“แต่ในเวลานี้คุณหนูของข้าคือพระชายาท่านอ๋อง ว๊าย!!…..” / จินฝู
พวกเขาถกเถียงกันจนดันประตูห้องส่งตัวเข้าไปด้านใน แต่นอกจากห้องที่ราวกับสมรภูมิรบของเมื่อคืนด้านในนี้ก็ไม่พบทั้งท่านอ๋องหรือพระชายา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า!! มีการลอบสังหารอีกแล้ว!!”
“ไม่ใช่เสียหน่อยเจ้าโง่!! มองดูสิ ทั้งสองพระองค์ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำด้านในต่างหากออกมาได้แล้วอย่าเข้าไป”
“เช่นนั้น…แล้วคุณหนูเมิ่งข้าควรทำเช่นไรดี”
“ก็ไปบอกนางตามตรง ที่จริงแล้วนางควรจะทราบกาลเทศะ วันนี้เป็นวันอะไรหากมีมารยาทก็ไม่ควรมาเข้าเฝ้าในเวลาเช่นนี้”
“แต่ว่า…”
“ท่านจะไปบอกเองหรือว่าจะให้ข้าไปบอกให้ ข้าไม่รับประกันนะเพราะปากของข้ามิได้ถูกออกแบบมาให้พูดจาดีนักกับคนที่ไร้มารยาทเช่นนี้”
“ก็ได้ ๆ ข้าไปเองเจ้าไม่ต้องไปหรอก”
ทั้งสองเดินออกมาและรีบปิดประตูห้องส่งตัวนั้นไว้ดังเดิมและรีบเดินออกมาจากที่นั่นทันที ก่อนหน้านั้นเสียงพวกเขาที่ดังอยู่หน้าประตูเรียกความสนพระทัยท่านอ๋องได้เพียงชั่วครู่ แต่เมื่อเห็นพระชายาตรงหน้าในร่างเปลือยเปล่าก็พลันเปลี่ยนความสนพระทัยมาที่นางทันที
“พระองค์ไม่รีบไปพบนางหรือเพคะ”
“เจ้าจงใจสินะ”
“จงใจเรื่องใดเพคะ”
“หึ ฟู่ซิ่วอิงดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้เจ้าจะไม่อิ่มสินะ”
“พระองค์ทรงทราบด้วยหรือเพคะ หากมิใช่พระองค์ทรงเหนื่อยเสียก่อน อ๊ะ!!”
ท่านอ๋องที่เดินตัวเปลือยตามซิ่วอิงลงมาจากเตียงลงมาคว้าร่างพระชายาที่กล้าท้าทายเขาแต่เช้าตรู่เช่นนี้ขึ้นมาและหันมารับคำท้าของนางกลับ
“ข้าน่ะหรือจะเหนื่อย มาลองดูกันอีกทีสิว่าศึกนี้ผู้ใดกันแน่…ที่จะกำชัยชนะเอาไว้ได้กันแน่”
“แน่ใจหรือเพคะว่าจะไม่ออกไปบอกองครักษ์ของพระองค์ก่อน”
เสียงกระซิบที่ยั่วยวนอารมณ์เขาที่ข้างหูและเริ่มเบียดหน้าอกเข้ามาจนชิดทำเอาท่านอ๋องกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก
“เจ้าคิดว่ากำลังท้าทายผู้ใดอยู่กันแน่พระชายา เมื่อคืนนี้ดูท่าแล้วข้าคงป้อนเจ้าคงจะไม่อิ่มจริง ๆ สินะ”
ท่านอ๋องอุ้มพระชายาในร่างเปลือยเปล่าเดินไปด้านหลังซึ่งเป็นห้องอาบน้ำส่วนตัวโดยไม่ใส่ใจองครักษ์และสาวใช้ที่ถกเถียงกันอยู่ด้านนอกอีก
ห้องโถงรับแขก
“อะไรนะ พระองค์…มิให้เข้าเฝ้าหรือ”
“คุณหนูเมิ่ง คือว่าท่านอ๋องทรงประทับอยู่ในห้องส่งตัวตามธรรมเนียมอภิเษกกับ…”
“พอที!! ข้ารู้แล้ว ข้าเองก็เลือกเวลามาดีแล้วแต่เหตุใดจนป่านนี้ยัง….”
“ต้องขออภัยด้วยขอรับแต่ว่าตามธรรมเนียมแล้วคู่อภิเษกจะไม่รับแขกหลังจากคืนส่งตัวไปอีกสามวัน อย่างไรแล้วรบกวนคุณหนูเมิ่งมาขอเข้าเฝ้าวันหลังเถิดขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อน”
เมิ่งลี่ถิงเดินกลับออกมาจากตำหนักท่านอ๋องพร้อมกับความโกรธที่มิได้พบท่านอ๋องอย่างที่ตั้งใจ
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งท่านอ๋องจากข้า เหตุใดเจ้าไม่ตายไปเสียดี ๆ กันนะนังแพศยาฟู่ซิ่วอิง!!”