บท
ตั้งค่า

บทที่ 19

น้อยคนนักจะทราบว่าภายใต้หน้ากากเย็นชาของตวนอ๋องเฉินฟาหยางนั้นมีบุรุษมากรักซ่อนอยู่ ความหนาวเหน็บดุจน้ำแข็งไม่มีวันละลายนั้นได้มาจากมารดา ทว่าความเจ้าคารมวาจาคมคายเพื่อให้ได้ในที่สิ่งที่ต้องการ เขาได้มาจากพระบิดาอย่างมิต้องสงสัย

แต่กระนั้นถ้อยคำหวานหูที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมา ล้วนแต่หวังผลประโยชน์ตอบแทน หาได้มีความจริงใจแต่อย่างใดไม่ ยามเอ่ยต่อผู้ให้กำเนิดก็เพราะต้องการความรักและความเอาใจใส่ แม้มิได้ผลอะไรมากนัก แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้รู้จักการเอาอกเอาใจผู้อื่น โดยเฉพาะเหล่าสาวงามที่เขาต้องการร่วมเตียง หากจะมีครั้งใดที่ทำถึงขั้นนี้แล้วมิได้ผลตามที่ปรารถนา ครั้งแรกก็คงเป็นเมื่อคืนที่ผ่านมานี่เอง

เสวียนซือชิงมิได้ขัดขืน ทั้งยังพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ เล้าโลมบุรุษเพศอย่างไร้เดียงสา ทำให้เขาปั่นป่วนจนแทบควบคุมตนเองมิได้ แม้ร่างกายต้องการมากเพียงใด แต่หากลงมือในขณะที่หัวใจของนางยังมิพร้อม อาจทำให้แผนลวงรักเพื่อหลอกให้นางยอมหย่า เป็นไปได้ยากเสียยิ่งกว่าเดิม

“ตื่นแล้วหรือ” นางคงทราบจากสาวใช้ว่าเขาพักผ่อนอยู่ในสวน จึงรีบตามมาพบตั้งแต่เช้า

“เจ้าค่ะ คุณชาย” เจ้าของริมฝีปากน่าจูบฝืนยิ้มเล็กน้อย รอบดวงตาบวมหนัก มองดูแล้วน่าสงสาร เฉินฟาหยางถึงกับทนนั่งเฉยต่อไปมิได้

“พวกเจ้าไปนำน้ำสะอาดมาให้ข้า ไม่ต้องใช้น้ำอุ่น ยิ่งเย็นยิ่งดี อย่าลืมผ้าอีกสองผืน” น้ำเสียงของเฉินฟาหยางเย็นชาจนพวกนางมิกล้าเอ่ยอันใด ทว่าพอลับสายตาสองสาวใช้ของหลี่จินหมิง เขาก็กลับมาอ่อนโยนต่อสาวงามที่หมายใจว่าจะต้องได้ร่วมเตียงดังเดิม

“มานั่งใกล้ ๆ ข้าสิซือชิง ข้าไม่ทำอันใดต่อเจ้าหรอก”

“เจ้าค่ะ คุณชาย”

เฉินฟาหยางเห็นว่านางกลัวจนตัวสั่น พูดตอบน้อยคำนักก็แทบทนมิได้ ด้วยสตรีที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาล้วนหลงใหลในรูปโฉมและตำแหน่งตวนอ๋อง พากันฉอเลาะหวังครองตำแหน่งพระชายา แต่ไม่ว่าบิดาของพวกนางจะมีตำแหน่งสูงมากเพียงใด สุดท้ายก็เป็นได้แค่เพียงอนุภรรยาของตวนอ๋องเท่านั้น

ทว่าเสวียนซือชิงกลับต่างออกไป แม้นางไม่รู้สถานะที่แท้จริงของเขา แต่ความงามสมชายของ ‘คุณชายเฉินหยาง’ และคำหวานที่พร่ำพรรณนา ก็น่าจะทำให้นางผ่อนคลายมากกว่านี้มิใช่หรือ

“ดูท่าเจ้าจะยังมิหายตกใจกับเรื่องเมื่อวาน ข้าขอโทษที่สำนึกได้ช้าไป ว่าเจ้ามิได้เต็มใจ...”

“ซือชิงเต็มใจเจ้าค่ะ” นางขัดขึ้นมาทันที

“มอบกาย แต่ไม่มอบใจ ข้าไม่นิยม เอาเถิด เรายังมีเวลาอยู่ด้วยอีกนาน วันนี้เจ้าไม่ชอบข้า ไม่อยากนอนกับข้าก็มิเป็นไร เอาไว้วันใดใจเราตรงกันค่อยพูดเรื่องนี้ใหม่ก็ยังมิสาย แต่ในระหว่างนี้เจ้าต้องคอยดูแลข้า เว้นแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้นที่มิต้องฝืนใจทำ เช่นนี้จึงดีต่อทั้งสองฝ่าย”

“ลำบากคุณชายแล้ว”

“ซือชิง ข้าชอบเจ้ามาก เรื่องเพียงเท่านี้ย่อมทำได้ไม่ลำบากใจ และยิ่งไม่ต้องการให้เจ้าลำบากใจเพราะการปรากฏตัวของข้า หากเจ้าต้องการตอบแทนที่ข้ายอมทนลำบากทางกาย ยังมีเรื่องหนึ่งที่สามารถทำได้”

“คุณชายต้องการให้ข้าทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ” เสวียนซือชิงยังคงมีทีท่ากังวลไม่แปรเปลี่ยน

“เป็นตัวของเจ้าเองตามธรรมชาติ ข้าขอเท่านี้ มากไปหรือไม่”

นึกไม่ถึงว่าคำขอเรียบง่ายจะทำให้รอยยิ้มงดงาม หาสตรีใดเทียบได้ยาก ปรากฏอยู่บนดวงหน้าหวานของเสวียนซือชิง คนมองจำต้องเกร็งเบื้องล่างให้สงบเป็นการใหญ่ เพราะกลัวว่าจะเผลอใจทำเรื่องไม่งามก่อนเวลาอันสมควร

หากนางมีใจ ไม่ว่าสถานที่ใดเขาก็จะไม่ชักช้าให้เสียเวลา

“ยิ้มหวานเช่นนี้ค่อยหน้ามอง เห็นเจ้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ใจข้าเจ็บไปหมด รู้สึกแย่ยิ่งนัก”

“ซือชิงผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ยังตกใจอยู่มาก คิดเพียงว่าถ้าไม่ดูแลคุณชายให้ดี อาจทำให้ท่านอ๋องเสียหน้า คุณชายคงทราบดีว่าข้าไร้ที่พึ่งพา อาจถูกส่งเข้าหอนางโลมตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนหากมิได้เขาช่วยไว้”

“เรื่องนี้ย่อมได้ยินมาบ้าง”

“แม้อยากตอบแทนบุญคุณ หัวใจกลับรู้สึกว่านั่นมิใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ในเมื่อคุณชายยืนยันว่าไม่จำเป็นดูแลทุกเรื่อง ซือชิงจึงสบายใจขึ้นมากเจ้าค่ะ”

“หากต้องการตอบแทนตวนอ๋อง เจ้าก็จงยิ้มให้ข้ามองบ่อย ๆ ไม่ดื้อเงียบ ถามคำหนึ่งตอบครึ่งคำ เข้าใจหรือไม่”

“เจ้าค่ะ คุณชาย”

“ซือชิง เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ”

“เจ้าค่ะ ท่านพี่” เสวียนซือชิงเห็นว่าอีกฝ่ายไม่แสดงท่าทางคุกคามด้วยการหว่านเสน่ห์จนเกินควรเช่นเมื่อวาน นางจึงกล้าพูดออกไปเสียหลายคำ

“น่ารักเช่นนี้ค่อยมีกำลังใจทะนุถนอมเจ้า ซือชิง ข้าให้คนนำป้ายตำหนักเยว่ฉีไปเก็บ ทั้งยังให้จินหมิงป่าวประกาศไปว่าญาติห่าง ๆ ของตวนอ๋องได้รับมอบทุกอย่างในตำหนัก หลังจากปล่อยทิ้งร้างมานาน เพราะไม่ต้องการให้เหล่าขุนนางมาวุ่นวายเพราะคิดว่าตวนอ๋องย้ายมาพำนักที่นี่ ส่วนเรื่องสถานะของเจ้า เท่าที่สืบมายังไม่มีใครทราบว่าเจ้าคือพระชายา หาไม่แล้วสตรีกว้างขวางเช่นเถ้าแก่เนี้ยเจียงคงไม่ทำตัวทุเรศกับเจ้าเช่นนั้น”

ความจริงเฉินฟาหยางสั่งให้เอาป้ายลงเพราะมิอยากนึกถึงเรื่องราวในอดีตต่างหากเล่า เขาไม่ชอบที่นี่ อย่างน้อยมิเห็นป้ายตำหนักเยว่ฉีก็อาจจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

“ซือชิงแทบไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยเจ้าค่ะ เมื่อครั้งย้ายมาอยู่ที่นี่ ท่านป้าสุ่ยจัดการทุกอย่างให้ จนกระทั่งนางจากไป ข้าจึงจำต้องออกไปข้างนอก ปักผ้าหาเงินเลี้ยงตัวเอง ใช้ความสามารถให้เกิดประโยชน์”

“ข้าพอทราบมาบ้างว่าตวนอ๋องไม่ได้ให้สินสมรสแก่เจ้า แต่สินที่ติดตัวมาแต่เดิมไม่มีเลยหรือ”

“พอมีบ้างเจ้าค่ะ แต่สองปีก่อนท่านป้าสุ่ยไม่สบาย เงินเก็บจึงลดลงเป็นธรรมดา” เสวียนซือชิงทำหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงแม่นมสุ่ยที่จากไป เฉินฟาหยางเห็นดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel