บทที่ 16
“หมายความว่าเจ้าคิดหย่าขาดจากตวนอ๋อง แทนการร่วมเตียงกับข้าตามคำสั่งของเขาเช่นนั้นหรือ” เสียงของเฉินฟาหยางแหบพร่าเพราะความต้องการ ลืมไปแล้วว่าปรารถนาให้เสวียนซือชิงลงนามในหนังสือหย่า แล้วค่อยใช้เสน่ห์ล่อลวงนางในภายหลัง
“หากเลือกได้ข้าคงลงนามในหนังสือหย่า แต่ท่านพ่อสั่งไว้ว่าจงทำให้ท่านอ๋องพึงพอใจ หากไม่อับจนหนทาง ห้ามหย่าโดยเด็ดขาด คุณชายเจ้าคะ ข้าขอเวลาทำใจสักครู่จึงจะให้ในสิ่งที่ท่านต้องการได้ ส่วนหนังสือหย่าฉบับนี้...”
เสวียนซือชิงฉีกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปราศจากความลังเลใจโดยสิ้นเชิง
“เพื่อตอบแทนบุญคุณท่านพ่อและท่านอ๋องแล้ว ซือชิงยินดีดูแลคุณชายเจ้าค่ะ” นางกล่าวเท่านั้นก็ขอตัวไปสงบสติอารมณ์ ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนทำหน้ามิเข้าใจสถานการณ์อยู่เพียงลำพัง
เฉินฟาหยางไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนจึงยินดีที่นางยอมร่วมเตียงแทนการลงนามในหนังสือหย่า เขาควรต้องกังวลว่าแผนจะมิสำเร็จมิใช่หรือ
เหตุใดจึงยังสบายใจอยู่ได้อีกเล่า ?
ในเมื่อนางกล่าวออกมาแล้วว่ายินดีดูแลกัน เขาก็มิควรเร่งรัดให้เสียบรรยากาศ ใช้เวลานอนเอกเขนกตรึกตรองดูว่าจะทำอย่างไรให้นางยอมลงนามในหนังสือฉบับสำรองที่แอบซ่อนเอาไว้ดี
การทำตัวชั่วช้าเพื่อกดดันนางให้ยอมหย่าขาด นั่นก็ใช่ว่าจะได้ผล หากเสวียนซือชิงมีนิสัยคล้ายบิดาอย่างที่เขาคาดไว้จริง นางคงไม่ยอมแพ้ต่อความลำบากเป็นแน่
ย่อมต้องหาหนทางอื่นเพื่อให้เสวียนซือชิงเปลี่ยนใจ
หลังจัดการมื้อเย็นเรียบร้อย เฉินฟาหยางได้ออกคำสั่งต่อสาวใช้ทั้งสองที่ตักน้ำอุ่นจนเต็มถังไม้แล้ว ให้ตามตัวเสวียนซือชิงมาดูแลแทน ทั้งยังเอ่ยไล่พวกนางให้กลับบ้านสกุลหลี่เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาเพียงต้องการบรรเทาความพลุ่งพล่าน ที่อดกลั้นมาตั้งแต่ได้เห็นดวงหน้าหวานยามมีน้ำตาคลออีกครั้งแล้ว
“คุณชายเรียกข้าหรือเจ้าคะ” เสียงของนางสั่นเครือ แต่ฟังดูแล้วแทนที่จะสงสาร เฉินฟาหยางกลับต้องการได้ยินนางทำเสียงเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ
“มาอาบน้ำให้ข้าหน่อยมิได้หรือ อีกไม่นานเราก็ต้องร่วมเตียงกันแล้ว หากมิทำความคุ้นเคยกันยามนี้แล้วจะรอไปถึงเมื่อใด”
เขายกยิ้มมุมปากหยักเพียงน้อยนิด สีหน้ายังคงเย็นชาไม่แปรเปลี่ยน ทว่าก็ปรับให้ดูดีขึ้นมาสักหน่อยหลังออกจากฉากกั้น เผยมัดกล้ามแข็งแรงท่ามกลางแสงตะเกียงที่สาวใช้จุดทิ้งไว้ เบื้องล่างยังคงมีกางเกงตัวในสวมอยู่ เพื่อไม่ให้นางรู้สึกกระดากอายมากจนเกินไปนัก
“ข้าไม่เคยอาบน้ำให้ผู้ใดมาก่อน เกรงว่าจะทำได้ไม่ดีเจ้าค่ะ”
“เรื่องง่ายดายเช่นนั้น ข้าย่อมสอนให้เจ้าได้ แต่หากเจ้าไม่เต็มใจ ข้าสามารถส่งจดหมายขอหนังสือ...” ทว่าเขายังมิทันได้เอ่ยให้จบประโยค นางก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เต็มใจเจ้าค่ะ”
“เห็นแก่ที่เจ้าไม่เคยดูแลปรนนิบัติชายใดมาก่อน ข้าจะไม่เร่งรัดให้ทำในสิ่งที่มากจนเกินสมควร ในเมื่ออาบน้ำขัดถูไม่ได้ ก็จงนวดแขนบีบไหล่ไปเถิด”
“เจ้าค่ะ คุณชาย”
“ห้ามเรียกว่าคุณชาย เจ้าคือภรรยาของข้าแล้ว ควรเรียกว่าอย่างไร แทนตัวเองว่าอย่างไร เรื่องง่ายดายเช่นนี้คงมิต้องให้สอนกระมัง”
“เจ้าค่ะ ท่านพี่”
เสวียนซือชิงเดิมทีก็มิใช่คนชอบเอ่ยถ้อยความอันใดมากมาย ยิ่งถูกกดดันให้ทำในสิ่งที่ขัดต่อความต้องการ นางก็ยิ่งเอ่ยอันใดไม่ออก ยิ่งเขาทำเสียงครางประหลาด นางก็ยิ่งหวาดหวั่น แต่กลับทำอันใดไม่ได้นอกจากหลับตานวดไปตามคำแนะนำ หลีกเลี่ยงไม่มองเรือนร่างของอีกฝ่าย ลงมือนวดเฟ้นในขณะที่เขาทำความสะอาดร่างกายของตน
คุณชายเฉินหยางจับมือของนางขยับไปนวดตรงนั้น สัมผัสกับตรงนี้เพื่อคลายความปวดเมื่อย เลื่อนต่ำจากบริเวณหัวไหล่ ต้นแขน และสุดท้ายคือข้อมือแข็งแรง ทว่าอุ่นร้อนจนน่าประหลาดใจ
“ตรงนั้นข้าปวดมาก ซือชิง เจ้าลูบมันเบา ๆ ก็พอแล้ว”
เสียงของคุณชายเฉินหยางแหบพร่า คล้ายทรมาน คล้ายมีความสุข ซ้ำร้ายแขนของเขายังพองขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนเสวียนซือชิงอดกังวลมิได้ จึงรีบเปิดเปลือกตาสำรวจดู
เสวียนซือชิงกรีดร้องเสียงเบา รีบชักมือออกจาก ‘ความอุ่นร้อน’ ทันที!
