บทที่ 5
ลู่ผิงถิงนิ่งตะลึงไปจนแทบลืมหายใจ นางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษเท่านี้มาก่อน ทำให้ทำตัวไม่ถูก ลืมที่จะปกป้องตัวเองไปชั่วขณะ
ซ้ำร้ายเขายังซุกหน้าไว้ที่ซอกคอของนาง หายใจเป่ารดแผ่วเบาจนขนลุกตั้งชันไปทั้งตัว สติล่องลอยอยู่เนิ่นนาน จวบจนตั้งสติได้ลู่ผิงถิงก็พยายามผลักคนด้านบนออก
“อืมม เหยาเอ๋อร์อย่าดิ้น” คนเมาที่นอนนิ่งเมื่อครู่เริ่มขยับ “เจ้าหอมมากข้าจะอดกลั้นไม่ไหว”
อดกลั้นอะไรกันนี่เขาหมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าสิ่งที่ทิ่มตำหน้าขานางอยู่คือ...
คนไร้ยางอาย
ก่อนออกเรือนพี่เสี่ยวซีให้ตำราเอาใจสามีไว้ และนั่นทำให้ลู่ผิงถิงรู้ว่า บุรุษผู้นี้กำลังอยากร่วมรักกับนาง
หยิงสาวหยุดชะงักไปอีกครั้ง เริ่มหาวิธีเพื่อเอาตัวรอด “ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ใช่เหยาเอ๋อร์ของท่าน มองดูดี ๆ สิเพคะ ท่านรีบลุกขึ้นได้แล้วหม่อมฉันหายใจไม่ออก”
“อุ่นจัง”
ลู่ผิงถิงกลอกตามองบนนี่เขาฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือ พูดอย่างตอบอีกอย่าง
อย่าถือสาคนเมา อย่าถือสาคนเมา ลู่ผิงถิงท่องไว้ในใจแล้วลองพูดหว่านล้อมอีกครั้ง “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่....”
จู่ ๆ อ๋องหนุ่มก็จู่โจมปิดเสียงของนาง ด้วยริมฝีปากของเขา ลู่ผิงถิงตาโตราวไข่ห่าน ริมฝีปากนุ่มคละเคล้ากลิ่นสุราทำให้นางรู้สึกเมามายไปกับเขาอยู่ครู่ใหญ่
แม้จะรู้ว่าตอนนี้เป็นสตรีของเขาแล้ว มีฐานะเป็นถึงพระชายา เรื่องร่วมหอกับสามีหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่านางไม่เต็มใจ ไม่อยากร่วมใช้สามีกับสตรีอื่นอีกมากมาย
“ปากเจ้าหวานมาก” คนเมาใช้นิ้วลูบไล้บริเวณริมฝีปากนุ่มที่แดงปานลูกอิงเถาของคนใต้ร่าง
ลู่ผิงถิงเม้มริมฝีปาก นางไม่กล้ามองดวงตาดอกท้อคู่นั้น ที่รับกับใบหน้าหล่อเหลาพาให้ใจสั่น จึงเอียงหน้าออกมาอีกฝั่ง
นี่เป็นจูบแรกของนางเชียวนะ แต่ดันถูกขโมยจากจอมเสเพลที่เมามายไร้สติ อีกทั้งเขายังคิดว่านางเป็นสตรีอุ่นเตียงคนหนึ่งของเขาอีกด้วย
ลู่ผิงถิงเกร็งจนตัวแข็งทื่อ นางไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร รู้สึกได้ว่าจมูกซุกซนของอีกฝ่ายเข้าใกล้ซอกคอเข้าทุกที
เป็นไงเป็นกัน หญิงสาวหลับตาปี๋ หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว ถึงอย่างไรนางก็แต่งงานกับเขาแล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถิด
นางได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่าย จึงลืมตาหนึ่งข้างขึ้นมาดู ไม่รู้ว่าหูแว่วไปเองหรือเปล่า เพราะอีกฝ่ายไม่ได้มีรอยยิ้มแต่กำลังมองนางนิ่ง ๆ ไม่มีทีท่าจะเคลื่อนไหว
จู่ ๆ ท่านอ๋องหนุ่มก็พลิกตัวนอนหงายไปบนเตียง
ลู่ผิงถิงพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง เป็นอิสระเสียทีเกือบไปแล้ว หันมองบุรุษบนเตียงที่หายใจสม่ำเสมอ ก็ถอนหายใจออกมา
หลังจากนี้นางต้องหาวิธีอยู่ให้ห่างจากชินอ๋องผู้นี้เสียหน่อย จะได้ไม่ถูกมองเป็นสตรีอุ่นเตียงของเขาอีก แต่ว่า....
คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นและลงจากเตียงมานั่งที่ตั่งด้านข้างอย่างรวดเร็ว
กำลังใช้ความคิด ลองเสี่ยงกับเหตุการณ์บางอย่างเพื่อให้ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ และสามารถหยิบยืมคนจากเขามาใช้ประโยชน์ได้
ร่างอรชรลุกขึ้นไปจุดกำยานสงบใจแล้วกลับมานั่งเท้าคางหลับที่ตั่งดังเดิม
ก่อนฟ้าสางลู่ผิงถิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน จึงรีบวิ่งขึ้นไปที่เตียงนุ่ม ดึงอาภรณ์ตนเองให้หลุดลุ่ย ยีผมให้ดูยุ่งเหยิง มือขาวผ่องสั่นเล็กน้อยตอนที่ถอดสายคาดเอวของชินอ๋อง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน แล้วจัดเสื้อผ้าของเขาให้ดูยับ
ลู่ผิงถิงใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งปิดตาตัวเอง แต่กางนิ้วแอบมอง แล้วใช้มืออีกข้างเปิดชายเสื้อของบุรุษบนเตียง ใบหน้าเห่อร้อน ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่เพื่อความกระจ่างเรื่องของพี่ชาย นางยอมทำทุกอย่าง
คนตัวเล็กนอนลงข้างกายคนตัวใหญ่อย่างจิตใจไม่สงบ
สามีนางยังคงไม่ได้สติ เพราะเมื่อคืนนางจุดกำยานสงบใจ และแอบใส่ยาที่ทำให้หลับลึกลงไปด้วย
ส่วนตัวนางเองเพื่อป้องกันไม่ให้หลับลึก ได้กินยาแก้ไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อคืนเขาคิดว่านางเป็นสตรีอุ่นเตียงของเขา เลยใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้มาหาข้อเท็จจริงให้พี่ชาย
หลังจากทุกอย่างบรรลุเป้าหมายค่อยหาวิธีออกห่างจากเขาแล้วกัน
ไม่นานชินอ๋องหนุ่มก็ขยับตัวตะแคงหันหน้าเข้าหานาง ท่อนแขนแข็งแรงตวัดโอบเอวคอดกิ่วไว้ ทว่ายังไม่ตื่นลืมตาขึ้นมามอง
ลู่ผิงถิงตัวแข็งทื่อเมื่อ อยู่ในอ้อมกอดของอีกคน นี่นางกำลังวางแผนฝังตัวเองอยู่หรือ ภาวนาขอให้ยาหลับลึกหมดฤทธิ์ลงเสียที
ลองขยับตัวออกจากอ้อมแขนอุ่น เขายิ่งกอดแน่นกว่าเดิม ให้ตายเถอะ! กว่าเขาจะตื่นร่างกายนางคงแข็งทื่อจนขยับไม่ได้
ผ่อนคลายหน่อย ผ่อนคลายหน่อย!! ลู่ผิงถิงบอกตัวเองซ้ำ ๆ นางนอนนิ่งรอจนกระทั่งชินอ๋องหนุ่มตื่น
อ๋องหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ทว่าเขากลับไม่มองนางที่นอนแน่นิ่งอยู่สักตา เพราะนอนในท่าเดิมเป็นเวลานาน จึงทำให้ทั้งร่างชาไปหมด
มู่เซียวเซ่อลุกจากเตียงแล้วเดินไปล้างหน้า เปลี่ยนอาภรณ์
ลู่ผิงถิงนอนอยู่ที่เดิมไม่เอ่ยสิ่งใด รอให้ท่านอ๋องหนุ่มมองเห็นนางเอง พอเห็นว่าไม่ใช่สตรีที่ชื่อเหยาเอ๋อร์อะไรนั่น อยากรู้นักเขาจะมีสีหน้าอย่างไร
