บทที่ 9 ตกลงใครมารักษา
ฉู่เนี่ยนซีหัวเราะเยาะออกมาเสียงหนึ่ง"จากที่ข้าเห็นนะ คนนี้น่าจะพักเข้ามาในจวนเฉิงเซี่ยง หรือไม่ก็พักรออยู่โรงเตี๊ยมรอบข้างมานานแล้วนะ"
หว่านเอ๋อร์อึ้งเล็กน้อย มีความกังวลพาดผ่านในดวงตา เพิ่งจะอธิบาย ก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาของฉู่เนี่ยนซีส่งมาอีกครั้งหนึ่ง"ไม่ต้องรีบปฏิเสธ เพราะเรื่องแบบนี้สามารถตรวจสอบได้ แต่ข้าไม่รู้ว่าพอข้าจะรักษาให้พี่ชาย เจ้าก็พาคนมาเลย เพื่อพี่ชายจริงหรือ?"
พอพูดแบบนี้แล้วถึงแม้เป็นคนที่โง่ขนาดไหน ก็ควรฟังออก
แม้กระทั่งหมอเทวดาเฮ่อหลันข้างๆก็สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของเรื่อง แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงว่าสายตาที่มองไปทางฉู่หว่านเอ๋อร์ก็มีการเปลี่ยนแปลงหน่อยนึง
"ถึงแม้หว่านเอ๋อร์พูดเก่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถอธิบายความบังเอิญแบบนี้ได้ แต่ข้าได้ให้คนช่วยติดต่อหมอเทวดาเฮ่อหลันตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนจริงๆเจ้าค่ะ"
หว่านเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมาอย่างแรง ลักษณะที่น้ำตาคลอนั้นทำให้คนสงสารจริงๆ"พระชายาโปรดตรวจสอบให้ชัดเจนเพคะ เป็นความบังเอิญจริงๆเพคะ!"
ฉู่เนี่ยนซีเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ สิ่งที่ควรพูดล้วนพูดไปแล้ว คนที่อยู่ก็ล้วนฟังอย่างชัดเจน จะมองยังไงหรือคิดยังไงก็เป็นเรื่องของพวกเขาเองแล้ว
สรุปคือ ฉู่หว่านเอ๋อร์คนนี้จ้องตัวเองอยู่ตลอดเวลาขนาดนี้ เป้าหมายน่าจะคือจะขจัดตัวเองในฐานะที่เป็นลูกสาวที่เป็นที่โปรดปรานของจวนเฉิงเซี่ยง แล้วแทนที่
ในเมื่อคนนี้สามารถอยู่ได้ในจวนเฉิงเซี่ยง แน่นอนต้องมีความเล่ห์เหลี่ยม แต่วิธีการยังอ่อนไปหน่อย
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีใส่ใจคือขาของพี่ชาย ส่วนผู้หญิงคนนี้ เดี๋ยวค่อยจัดการก็แล้วกัน
"ท่านเจ้าคะ ฝีมือทางการแพทย์ของท่านดีเลิศจริง แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน แม้การฝังเข็มจะอันตราย แต่ถ้าใช้เข็มปิดหัวใจของพี่ชายไว้ในขณะที่ถอนพิษ ก็จะไม่เป็นอะไรมาก"
เดิมทีฉู่เนี่ยนซีไม่อยากพูดเยอะขนาดนี้ แต่คนนี้ก็ไม่ได้คิดร้ายอะไร ถือว่าเป็นคนที่มีใจเมตตา และก็เพื่อจะให้คนอื่นๆวางใจลง นางถึงมีการอธิบาย
"ข้าเป็นหมอมาตลอดชีวิต วิธีที่เจ้าพูดนั้นเป็นไปได้ในทางทฤษฎีเท่านั้น ตามความเป็นจริงแล้วไม่สามารถหยุดพิษไม่ให้พุ่งเข้าสู่หัวใจและปอดในขณะที่เปิดหลอดเลือดได้!"
ทันใดนั้น ในห้องก็วุ่นวายมาก
พี่สะใภ้ใหญ่จับมือของสามีไว้อย่างแน่น สายตาที่มองฉู่เนี่ยนซีนั้นจะไม่ใช่ความรังเกียจและความตำหนิในแต่ก่อนแล้ว ราวกับมองสัตว์ประหลาดที่จะกินกลืนฉู่เจี้ยนอี้ลงไป
เฉิงเซี่ยงฮูหยินและเฉิงเซี่ยงมองหน้าเข้าหากัน รู้สึกเห็นใจแต่ก็เหมือนพูดอะไรอยู่ด้วยความสับสน แต่ฉู่เนี่ยนซีฟังไม่ออกแล้วว่าพวกเขาโน้มน้าวใจอะไรอยู่
หว่านเอ๋อร์ที่อยู่ข้างหลังยังร้องไห้อยู่ หมอแก่ข้างๆก็ยังโน้มน้าวใจอยู่ ฉู่เนี่ยนซีเกิดความหดหู่ใจขึ้น เลยนำแก้วน้ำชาในมือวางบนโต๊ะอย่างแรง!
ตามด้วยเสียง"ปัง" ถึงแม้เสียงเคลื่อนไหวไม่ใหญ่ แต่เสียงวุ่นวายในห้องก็เงียบลงทันที
ฉู่เนี่ยนซียืนหลังตรง เงยหน้าขึ้น ถึงแม้บาดแผลบนใบหน้ายังดูน่ากลัวอยู่ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับดูสดใสจนทำให้คนไม่กล้าจ้องมอง
"ในเมื่อทุกคนล้วนไม่เชื่อข้า งั้นวันนี้ข้าขอสาบาน"
ระหว่างที่พูด นางมองไปบนท้องฟ้า พูดทีละคำ"หากข้าฉู่เนี่ยนซีไม่สามารถรักษาขาของพี่ชายข้าได้ ข้ายอมตัดมือทั้งสองข้างของตัวเอง ไม่ใช้เข็มอีกต่อไป และจะไม่ก้าวเข้ามาในจวนเฉิงเซี่ยงแม้แต่ก้าวเดียว ให้ชีวิตของข้าไม่มีวันได้ดีอีกต่อไป ให้ฟ้าผ่าข้า ให้ผู้คนและเทวดาบนสวรรค์ล้วนรังเกียจข้า!"
นางพูดอย่างแน่วแน่ ถึงแม้เสียงไม่ดัง แต่มีแรงมาก
ตอนนี้ในห้องเงียบกว่าปกติ เหลือแต่เสียงที่แน่วแน่ของฉู่เนี่ยนซีดังก้องอยู่ ทำให้คนไม่สามารถฟื้นสติกลับมาได้
หมอเทวดาเฮ่อหลันฟื้นสติกลับมาก่อน ส่ายหน้า"ยังไงเจ้ายังอายุน้อยอยู่ ข้ามีประสบการณ์แล้วถึงห้ามเจ้าแบบนี้ เจ้าจะทำให้ตัวเองต้องหน้าแตกไปทำไม!"
ฉู่เนี่ยนซีค่อยๆหลับตา หลังจากหายใจเข้าลึกๆแล้วถึงลืมตาขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม"ถ้าหากได้ หมอเทวดาและแม่นางหว่านเอ๋อร์สามารถเดิมพันกับข้าได้ หากข้าแพ้ ข้าจะทำตามสัญญา แต่ถ้าหากข้าชนะ......"