บทที่ 8 หมอเทวดาเฮ่อหลัน
ทุกคนนิ่งอึ้ง หันไปก็เห็นผู้หญิงวัยสาวคนหนึ่งใส่ชุดกระโปรงสีเหลือง พาคนแก่ที่ผมงอกเต็มหัวเดินมาอย่างเร่งรีบ ข้างๆยังมีคนใช้ที่ห้ามพวกเขาไม่ทัน รีบร้อนจนใบหน้าแดงไปหมดเดินตามมาด้วย
"ท่าน ท่านเฉิงเซี่ยงขอรับ บ่าวไร้ประโยชน์ ไม่สามารถห้ามพวกเขาไว้ได้ขอรับ......"
บ่าวใช้คุกเข่าลงพื้น ต้องรู้ว่าฉู่เฉิงเซี่ยงเป็นคนที่คำนึงถึงกฎระเบียบมาก ตะโกนอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยงแบบนี้ ไม่มีมารยาทจริงๆเลย
ฉู่เฉิงเซี่ยงกำลังเป็นห่วงขาของลูกชายอยู่ แค่ขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์คิดบัญชีกับคนใช้เหล่านี้ เลยโบกมือให้คนใช้ลงไป
ผู้หญิงที่เข้ามาคือลูกสาวของน้องชายแท้ๆของฉู่เฉิงเซี่ยง ชื่อว่าฉู่หว่านเอ๋อร์ ตอนเด็กแม่ก็เสียไป น้องชายแต่งงานกับคนใหม่ ดังนั้นนางจึงถูกท่านย่าเลี้ยงจนโตมา เป็นที่โปรดปรานของท่านย่ายิ่งนัก
แต่พออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ท่านย่าก็อายุมากแล้ว เลยส่งมาให้เฉิงเซี่ยงที่เมืองหลวงช่วยเลี้ยงดู หวังว่าฉู่หว่านเอ๋อร์จะสามารถแต่งงานกับคนที่ดีงาม
ฉู่เนี่ยนซีสังเกตผู้หญิงคนนี้ เห็นแต่นางไม่ได้แต่งหน้าเลย บนหัวก็มีเพียงปิ่นปักผมอันเดียวเท่านั้น มองขึ้นไปแล้วน่ารักเป็นพิเศษ
ในความทรงจำของชาติก่อน หญิงน้อยที่ชื่อว่าหว่านเอ๋อร์คนนี้ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ปกติก็มีมารยาทต่อตัวเองด้วย
แต่ตอนนั้นเจ้าของร่างเดิมมีแต่เย่เฟยหลีอยู่ในใจ ห่างไกลกับพี่ชายแท้ๆในจวนเฉิงเซี่ยง ยิ่งอย่าไปพูดถึงน้องสาวไท่แท้คนนี้เลย
ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีความทรงจำที่ลึกซึ้งต่อหว่านเอ๋อร์คนนี้ รู้แต่ว่าคนทั้งจวนล้วนเคารพคุณหนูคนนี้มากนัก แม้กระทั่งกลุ่มกุลสตรีก็ล้วนชื่นชมนางด้วย
ฉู่เฉิงเซี่ยงมองนางทีหนึ่งอย่างไร้อารมณ์ น้ำเสียงก็ไม่มีความแปรปรวนใดๆ"เจ้ามาทำอะไร?"
ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้วเล็กน้อย หว่านเอ๋อร์คนนี้ชื่อเสียงดีขนาดนี้ แต่เหมือนพ่อของนางไม่ค่อยชอบนะ
ฉู่หว่านเอ๋อร์คุกเข่าลงพื้น พฤติกรรมเต็มไปด้วยความสง่างาม
"วันนี้หว่านเอ๋อร์โชคดีที่เชิญหมอเทวดาเฮ่อหลันมาได้ คิดจะให้เขามาดูขาให้พี่ชาย เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ได้ข่าวว่าพี่สาวก็จะรักษาขาให้พี่ชายด้วย แต่หมอเทวดาเฮ่อหลันเห็นว่าพี่สาวจะใช้เข็ม ก็บอกว่านี่มันไม่เหมาะกับโรคของพี่ชาย ถึงกับวิ่งเข้ามาในห้อง......ท่านลุงโปรดเห็นแก่ที่หว่านเอ๋อร์ใจร้อนเกินไปยกโทษให้ด้วยเจ้าค่ะ!"
ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยไม่สามารถสังเกตได้
ส่วนฉู่เฉิงเซี่ยงก็ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
พี่สะใภ้ใหญ่ที่เดิมทีก็ไม่ยินยอมนั้น พอได้ยินว่าคือหมอเทวดาเฮ่อหลัน ในสายตาก็เต็มไปด้วยประกาย
"น้องหว่านเอ๋อร์ หมอเทวดาเฮ่อหลันท่านนี้ก็คือท่านที่มีชื่อเสียงท่านนั้นหรือ?"
"ใช่เจ้าค่ะ หว่านเอ๋อร์ก็เผอิญได้เจอกับหมอเทวดาเฮ่อหลัน เขาถึงยอมดูให้พี่ชายสักหน่อย"ฉู่หว่านเอ๋อร์ปรากฏรอยยิ้มที่มีมารยาท ดูใจเย็นมาก
ฉู่เฉิงเซี่ยงสองผัวเมียได้ยินเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเลย และมองหน้าเข้าหากัน
หลายปีที่แล้วหมอเทวดาเฮ่อหลันก็มีชื่อเสียงขึ้น ได้ข่าวว่าเขาสามารถรักษาโรคประหลาดทุกอย่าง
แต่นิสัยของเขาแปลกมาก ไม่มีใครรู้ร่องรอยของเขา จะให้เขารักษาก็ยิ่งยากเข้าไปอีก ถึงแม้เป็นฮ่องเต้ ก็ต้องไว้หน้าเขาด้วย
เดิมทีคนที่นามสกุลเฮ่อหลันก็น้อยมากในเมืองหลวง ดังนั้นผู้คนจึงจำได้อย่างแม่นยำ
คิดไม่ถึงว่าฉู่หว่านเอ๋อร์รู้จักกับหมอเทวดาเฮ่อหลัน ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว งั้นขาของอี้เอ๋อร์ก็มีโอกาสหายดีแล้วสิ?
ฉู่เนี่ยนซีมองสีหน้าของทุกคนแล้วเลิกคิ้ว
คนนี้ดูเหมือนว่าพอมีภูมิหลังนะ
ฉู่หว่านเอ๋อร์ในฐานะที่เป็นคุณหนูในจวน ยังสามารถรู้จักคนแบบนี้ได้อีก แถมยังพามาในวันนี้ ดูเหมือนว่าคนนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ภายนอกเห็น
ตอนนี้คนแก่ที่หนวดเคราสีขาวนั้นไม่ได้สนใจผู้คน แต่กลับเดินหน้าขึ้นโดยตรง เห็นด่างดำมากมายบนขาของฉู่เจี้ยนอี้ และมองไปที่เข็มเงินในมือของฉู่เนี่ยนซี รีบส่ายหน้าอย่างแรง
"ไม่ได้!ห้ามเด็ดขาด!พิษในขาของคนนี้สะสมมาหลายปี ตอนนี้พิษน่าจะซึมไปถึงบริเวณเอวแล้ว ถ้าเกิดจะฝังเข็ม กลัวว่าในขณะที่เปิดช่องว่างจะทำให้สารพิษไหลไปทั่วร่างกาย ในที่สุดจะขาดหายใจตาย!"
พี่สะใภ้ใหญ่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ซีดขาว แม้กระทั่งเฉิงเซี่ยงสองผัวเมียก็ล้วนตื่นเต้นขึ้นมา
ฉู่เนี่ยนซีมองหมอเทวดาเฮ่อหลันทีหนึ่งด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ในสายตามีความชื่นชมอยู่ด้วย
คนที่สามารถมองออกว่าโดนพิษนั้นมีอยู่มากมาย แต่คนที่รู้ว่าสารพิษไหลไปถึงบริเวณเอวนั้น คงมีไม่มาก
นางรู้สึกสงสัยแล้วว่าหมอเทวดาเพียวเหมี่ยว อาจารย์ของเขาจะมีฝีมือทางการแพทย์ที่ดีขนาดไหน
"ถ้าทำไม่ถูกต้องก็จะเกิดสถานการณ์ที่เจ้าพูด"
น้ำเสียงของฉู่เนี่ยนซีใจเย็นมาก เพิ่งจะพูดต่อ ก็ได้ยินฉู่หว่านเอ๋อร์กรีดออกมา"พี่สาวใช้ชีวิตของพี่ชายมาล้อเล่นได้อย่างไร?!"
ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้ว สายตาที่มองไปทางฉู่หว่านเอ๋อร์มีความเย็นชาอยู่ด้วย
ทันใดนั้นสีหน้าของจ้าวโม่เหยียนก็แย่มากๆ มือสองข้างในแขนเสื้อกำแน่นเรื่อยๆ
แต่มีคนนอกอยู่ และกิริยามารยาทที่ฝึกมาอย่างดีของนาง ทำให้นางระวับความไม่พอใจลง น้ำเสียงเย็นชามาก"พระชายาเชิญกลับเถอะ เรื่องของสามีข้า ไม่กล้าให้พระชายามาช่วยแล้วเพคะ"
"พี่สะใภ้ใหญ่พูดแบบนี้ได้อย่างไร เขาเป็นพี่ชายแท้ๆของข้า และยังรักใคร่ข้าขนาดนั้น ข้าก็เหมือนกับพี่สะใภ้ใหญ่ อยากให้เขาสามารถยืนขึ้นมาใหม่"
ระหว่างที่พูด ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ อ้าปากเล็กน้อย"และอีกอย่าง แม่ของข้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว ข้าไม่มีน้องสาวเลย จวนเฉิงเซี่ยงเป็นที่ๆยึดตามหลักเกณฑ์ จะเรียกอะไรล้วนต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ เจ้าเรียกพี่ชายของข้าว่าพี่ใหญ่ และเรียกข้าว่าพระชายาหลีดีกว่า"
"และเมื่อกี้ข้าบอกว่าทำไม่ถูกต้องถึงจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ แต่ในมือของข้า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว ข้ายังพูดไม่จบ เจ้าก็แทบรอไม่ไหวที่จะออกมาตำหนิข้า อยากจะให้ข้าผิดใจกับที่บ้านหรือ?"
ฉู่เนี่ยนซียิ่งพูดก็ยิ่งเบาเสียง เหมือนอากาศรอบข้างล้วนจางลง ทำให้คนหายใจไม่ออก
ภายใต้การจ้องมองข้างนาง ฉู่หว่านเอ๋อร์ดูกังวลมากกว่าปกติ
นางรีบไปคุกเข่าต่อหน้าเฉิงเซี่ยงสองผัวเมีย น้ำตาคลออยู่ในดวงตา"ท่านลุง ท่านป้าเจ้าคะ ข้าแค่เป็นห่วงพี่ชาย......พี่ใหญ่ ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น"
"เชอะ ข้าเคยได้รับบุญคุณต่อคุณหนูฉู่ ดังนั้นถึงยอมมารักษาโรคให้ลูกชายของเจ้า ข้าไม่อยากมายุ่งกับเรื่องภายในบ้านของเจ้า เฉิงเซี่ยงหาที่ๆสงบให้ข้าเถอะ"
หมอเทวดาเฮ่อหลันที่อยู่ข้างๆเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา สีหน้าก็แย่มากเป็นพิเศษ
หากไม่ใช่เพราะ......เขาจะไม่มาจวนนี้ ไม่อยากจะมาสนใจความขัดแย้งแบบนี้หรอก
"มาสิ หาที่ๆสงบให้คนแก่ท่านนี้พักผ่อนสิ"ฉู่เนี่ยนซีสั่งคนในข้างนอก จากนั้นเดินไปถึงหน้าฉู่เจี้ยนอี้เตรียมจะฝังเข็ม
หมอเทวดาเฮ่อหลันอึ้งเล็กน้อย จากนั้นมีความโมโหปรากฏขึ้นบนใบหน้า"พระชายาหลีหมายความว่าอย่างไร ข้ามารักษาโรคให้พี่ชายของเจ้า เจ้าไม่คิดจะใช้ข้าหรือ?"
"ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าสามารถให้ขาของพี่ชายข้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ?"
"บนโลกนี้จะมีโรคที่รักษาหายเหมือนเดิมที่ไหนได้ ยิ่งไปกว่านี้คือ พิษบนขาของพี่ชายเจ้าสะสมมาหลายปี ข้าสามารถรับประกันได้แค่เคลียร์สารพิษออกไปหมด อนาคตถ้าจะเดินมีแต่ต้องใช้ไม้เท้า"
"แต่ข้ารับประกันได้ว่าขาของพี่ชายข้าสามารถรักษาได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เดินได้เหมือนกับคนปกติ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่รบกวนท่านแล้วนะ"
"เป็นไปไม่ได้!"หมอเทวดาเฮ่อหลันเบิกตากว้างและโมโหมาก"ถึงแม้อาจารย์ของข้าอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถทำถึงระดับที่เจ้าว่าได้ ข้ายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่พูดโอ้อวดเหมือนเจ้าเลย!ข้าขอบอกพวกเจ้านะ ถ้าเจ้าฝังเข็มตอนนี้ หากไม่ระวังอาจจะทำให้เขาตายเลย!ใต้เท้าเฉิงเซี่ยง หากปล่อยให้นางทำมั่วซั่วแบบนี้ ก็อย่าโทษว่าข้าไม่ช่วยนะ!"
หมอเทวดาเฮ่อหลันมองฉู่เนี่ยนซี ราวกับมองผู้หญิงที่โหดร้ายและไม่มีความรู้ใดๆ
หว่านเอ๋อร์ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น เห็นว่าฉู่เฉิงเซี่ยงไม่สนใจตัวเองอยู่ตลอด ก็เลยเปลี่ยนทิศทาง กราบใส่เฉิงเซี่ยงฮูหยินอย่างแรง
"ท่านป้าเจ้าคะ ฝีมือทางการแพทย์ของหมอเทวดาเฮ่อหลันสุดยอดมาก กว่าหว่านเอ๋อร์จะเชิญมาได้ ท่านห้ามปล่อยให้พระชายาหลีทำมั่วซั่วนะเจ้าคะ มันจะทำร้ายพี่ใหญ่เจ้าค่ะ!"
ปกติเฉิงเซี่ยงฮูหยินก็ชื่นชอบหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว นางเลยเชื่อคำพูดของนางอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้นางและลูกสาวของตัวเองพูดคนละอย่าง ก็ไม่สามารถลำเอียงไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
แต่ในเมื่อหมอเทวดายังพูดแล้ว ยังพูดอย่างเด็ดขาดขนาดนั้น ใจของเฉิงเซี่ยงฮูหยินก็หวั่นไหวไปตาม
ฉู่เนี่ยนซีหันกลับไป มองหว่านเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนพื้นโดยอยู่เหนือกว่า สีหน้าใจเย็นมาก"อ้อ กว่าจะเชิญมาได้?งั้นเจ้าก็พูดมาสิ เชิญมายากขนาดไหน?"