บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ถวายน้ำชา

"เหตุใดน้องสาวถึงใจร้อนเช่นนี้ แม้กระทั่งแก้วน้ำชายังถือไม่ดีเลย"

เสียงของทั้งสองคนดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ซ่างกวนเย็นไม่ได้ยินเสียงแก้วตกพื้น อารมณ์ที่เดิมสะสมอยู่นั้นก็เกิดการแตกร้าว มองไปทางฉู่เนี่ยนซีด้วยความประหลาดใจ

เห็นแต่มือของฉู่เนี่ยนซีรับแก้วน้ำชาไว้อย่างแน่น สายตามองไปทางนางอย่างเย็นชาและประชด

ซ่างกวนเย็นอึ้งไปเลย

ผู้หญิงคนนี้ให้นางคุกเข่าถวายน้ำชา นางจะรับได้อย่างไรล่ะ?

เดิมทีนางแค่อยากให้คนอื่นรู้สึกว่าฉู่เนี่ยนซีเป็นผู้หญิงขี้หึง เจตนาคว่ำแก้วน้ำชาแถมยังผลักนางด้วย

สิ่งที่ทำให้นางคิดไม่ถึงคือ ฉู่เนี่ยนซีรับแก้วน้ำชาไว้ได้!

"น้องสาวเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ แต่วันนี้กลับพูดผิดตลอด และยังเกิดอุบัติเหตุด้วย คนที่ไม่รู้จักน้องสาว ยังจะนึกว่าน้องสาวมีความเห็นต่อข้าเลย ถึงตั้งใจทำแบบนี้ ครั้งหน้าต้องระวังหน่อยแล้วนะ"

ระหว่างที่พูดฉู่เนี่ยนซีก็ลุกขึ้น ยื่นมือให้ซ่างกวนเย็นที่นั่งอยู่บนพื้น"รีบๆขึ้นมาเถอะ พื้นมันเย็น"

ถึงแม้ซ่างกวนเย็นโกรธแค้นในใจอย่างยิ่ง แต่คนมากมายขนาดนี้อยู่ที่นั่น นางก็มีแต่ต้องระงับอารมณ์ แถมยังต้องยื่นมือไปพร้อมกับรอยยิ้ม"ขอบคุณที่พี่สาวสั่งสอนเพคะ"

ฉู่เนี่ยนซีดึงซ่างกวนซีขึ้นมาอย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันมือของนางก็มีเข็มเงินปรากฏ

ตอนที่ซ่างกวนเย็นจะเก็บมือกลับไป มุมปากที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าปิดหน้าก็ยิ้มขึ้นมาระดับหนึ่ง จากนั้นแทงไปที่จุดๆหนึ่งบนมือของนางอย่างแม่นยำ

เชอะ ในเมื่อรังแกนาง งั้นนางก็จะทำให้ประจำเดือนของนางมาล่วงหน้า ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

ซ่างกวนเย็นรับรู้ถึงความเจ็บปวดบนมือ หายใจเข้าลึกๆ แล้วสะบัดมือที่ถูกดึงไว้ออกอย่างแรง

ฉู่เนี่ยนซีกรีดร้องขึ้นมาเสียงหนึ่งตามท่าทางของนาง แล้วสะดุดไปข้างหลังสองก้าว จนเซล้มลงไปบนเก้าอี้ข้างหลัง

"น้องสาวทำอะไรเนี่ย?"ฉู่เนี่ยนซีแกล้งทำเป็นตกใจ วินาทีต่อไปน้ำตาก็คลออยู่ในดวงตา มือจับไปที่หัวใจของตัวเอง เหมือนถูกทำร้าย

"ที่แท้แล้วข้าคิดเอาเองฝ่ายเดียวเท่านั้น เดิมทีนึกว่าเจ้าเรียกข้าว่าพี่สาวด้วยความจริงใจ ข้าดึงเจ้าขึ้นมาด้วยความหวังดี ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีความเห็นต่อข้าขนาดนี้......"

"ไม่เลย ข้าไม่ได้ผลักนางเพคะ"ซ่างกวนเย็นมีความกังวลเล็กน้อย รีบมองไปทางเย่เฟยหลีแล้วอธิบาย

"ได้ข่าวว่าแม่นางซ่างกวนเป็นสตรีผู้มีความรู้ แถมยังเป็นสตรีที่สวยงามที่สุดของเมืองหลวง ชื่อเสียงก็โด่งดังไปทั่ว คิดไม่ถึงว่าจะเป็นนิสัยแบบนี้เลย!"

"ก็ใช่สิ เมื่อกี้ข้าเห็นว่านางผลักพระชายาหลีนะ!"

"ใช่ไง ข้าก็เห็นด้วย ล้วนพูดกันว่าพระชายาหลีหน้าตาขี้เหร่แถมยังขี้หึงด้วย พอเห็นวันนี้แล้วข้าว่าไม่เหมือนนะ!แต่กลับเป็นซ่างกวนเย็นคนนี้......เฮ้อ......ไร้คำบรรยายจริงๆ"

ทุกคนต่างซุบซิบนินทากัน สายตาไม่สามารถปกปิดความดูถูกที่มีต่อซ่างกวนเย็นได้เลย

เย่เฟยหลีใช้สายตาที่เย็นชากวาดมองไปผู้คนที่ยิ่งพูดยิ่งไม่น่าฟังเข้าไปใหญ่ คนเหล่านั้นรู้สึกหวาดกลัวทันที จึงรีบหุบปาก

ซ่างกวนเย็นได้ยินคำพูดของพวกเขา ยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่ น้ำตาคลออยู่ในดวงตา ดูน่าสงสารมาก

"พี่หลี ข้าไม่ได้ผลักพี่สาว เจ้าต้องเชื่อข้า"

ดวงตาของเย่เฟยหลีมีความสงสัยพาดผ่าน เขาก็เห็นท่าทางของซ่างกวนเย็นจริงๆ แต่ภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนและใจดีของนางเจาะลึกในใจของเขา และถ้าปีนั้นนางไม่ได้รับมีดเล่มนั้นแทนเขา เขาอาจจะไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว

"พอแล้ว ข้าเชื่อเจ้าอยู่แล้ว"

ฉู่เนี่ยนซีมองสองคนที่สบตากันอย่างหวานชื่นลึกซึ้งที่อยู่ต่อหน้านี้ แอบหัวเราะเยาะและส่ายหน้าในใจ

ผู้ชายคนนี้โง่จริงๆเลย ถูกหญิงเสแสร้งหลอกอยู่นั่นแหละ

ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้พูดความจริง แต่ก็ยังไงล่ะ เพราะนางแค่ทำแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันเท่านั้น!

การแสดงใครๆก็ทำได้ทั้งสิ้น!

"ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ ทำให้น้องสาวไม่สบายใจขนาดนี้ งั้นข้าออกจากที่นี่ไปละกัน!จะได้ไม่ต้องขัดตาเจ้า!"

น้ำเสียงของฉู่เนี่ยนซีสะอึกสะอื้นอยู่ นิ้วมือทำท่าเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง แล้วลุกขึ้นมา ลักษณะดูเสียใจยิ่งนัก แล้ววิ่งออกไปจากห้องแบบงกๆเงิ่นๆ

จนกว่าวิ่งถึงที่ๆไม่มีคน ถึงกลับมาเป็นความใจเย็นแต่เดิม

ส่วนส่วนคนทั้งหลายที่ยังอยู่ในห้อง ล้วนโวยวายขึ้นเนื่องจากการจากไปของฉู่เนี่ยนซี ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสารนางและการโทษซ่างกวนเย็น

แต่เนื่องจากอำนาจของเย่เฟยหลี ทุกคนมีแต่ต้องใช้สายตาในการแสดงอารมณ์ของตัวเอง

เนื่องจากเรื่องนี้ งานแต่งเลยจบลงแบบง่ายๆ

แน่นอนว่าพวกนี้ล้วนอยู่ในการคาดเดาของฉู่เนี่ยนซี แต่นางไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เลย ตอนนี้มีแต่การรักษาใบหน้าของตัวเองถึงเป็นเรื่องสำคัญ

ดังนั้นนางจึงรีบกลับไปในตำหนัก

"พระชายาเพคะ เหตุใดท่านถึงกลับมาเร็วเช่นนี้เพคะ?"

เสี่ยวเถาเห็นดวงตาที่แดงก่ำของนาง ก็ไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

"ไม่เป็นไร ช่วยเลือกเครื่องประดับหลายชุดให้ข้าหน่อย ข้าจะออกไปสักเที่ยวหนึ่ง"

ฉู่เนี่ยนซีส่ายหน้าแล้วสั่งเสี่ยวเถา

นางยังต้องรักษาใบหน้า ดังนั้นจึงต้องใช้ยาจำเป็นบางอย่าง สามารถใช้เรื่องรับเมียหลวงเข้าจวนเป็นข้ออ้างออกไปได้พอดีเลย

แต่มียาล้ำค่าหลายอย่างไม่รู้ว่าร้านขายยามีหรือเปล่า ไปดูก่อนค่อยว่ากันละกัน

เสี่ยวเถารีบไปเก็บของ เก็บไปด้วยพร้อมพูดว่า"หลังจากที่แต่งงานแล้วพระชายายังไม่ได้กลับจวนเฉิงเซี่ยงเลย ตอนนี้ท่านเฉิงเซี่ยงป่วย พระชายาก็สมควรกลับไปพักหลายวันเพคะ"

"อะไรนะ?"ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้ว ถามด้วยความสงสัย

"เมื่อกี้จวนเฉิงเซี่ยงสั่งคนมาบอกว่า ท่านเฉิงเซี่ยงไม่สบาย ให้ท่านมีเวลาว่างก็กลับไปเยี่ยม"เสี่ยวเถาทำหน้าสงสัย"ท่านไม่รู้หรือ?แล้วท่านคือจะ......"

ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้ว ในความทรงจำตั้งแต่แต่งงานแล้วนางก็ไม่ได้กลับไปเลย

ชาติก่อนเป็นเด็กกำพร้า นางไม่มีสิ่งที่ห่วงใย แต่ชาตินี้ในเมื่อนางครอบงำร่างกายของคนอื่น ก็ต้องไปปกป้องทุกอย่างนี้แทนนาง

"เดี๋ยวข้ากลับไปเอง ถ้ามีคนมาถาม เจ้าก็บอกว่าข้าร้องไห้หนักจนกลับจวนเฉิงเซี่ยงไปแล้ว"

พูดจบ นางก็หยิบของแล้วเดินไปนอกจวน

ไม่นานฉู่เนี่ยนซีก็มาถึงหน้าประตูจวนเฉิงเซี่ยง นางกระโดดลงรถม้า ห้ามคนใช้ที่กำลังจะไปแจ้งไว้ แล้วเดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ

วินาทีที่เดินเข้าไปในห้องโถงรอง อยู่ๆก็มีเสียงซุบซิบส่งมาจากหลังฉากกั้น

"ถึงแม้ที่นี่คือจวนเฉิงเซี่ยง อยู่ดีมีสุข แต่ตอนนี้สามีของเจ้าพิการไป อนาคตเขาไม่มีโอกาสที่จะได้สืบทอดตำแหน่งเฉิงเซี่ยงหรอก ถึงตอนนั้นลูกชายคนที่สองของจวนเฉิงเซี่ยงเป็นผู้นำตระกูลขึ้นมา เจ้ายังจะมีชีวิตอยู่ดีมีสุขได้อีกหรือ?ฉวยโอกาสที่เจ้ายังอายุน้อยอยู่ แถมยังไม่มีลูก รีบๆหย่ากับเขาเถอะ!ถึงเวลานั้นเจ้ายังสามารถแต่งงานกับคนที่ฐานะพอได้อยู่ ยังสามารถช่วยเหลือพ่อและพี่น้องของเจ้าได้ อย่าเสียเวลากับพิการคนนี้อีกต่อไป จะรอจนกว่าแก่ถึงจะเสียใจภายหลังหรือไง!"

ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้ว เดินเบาลงทันที และกลั้นหายใจไว้

แต่คนข้างในมีความระมัดระวังสูงนัก ข้างหลังฉากกั้นเงียบลงทันที

ผู้หญิงที่มีอายุหน่อยโผล่ตัวออกมา เห็นว่าคือฉู่เนี่ยนซี สีหน้าก็เปลี่ยนจากความระมัดระวังเป็นความดูถูก

ผู้หญิงคนนี้ก็คือหลิ่วซื่อ แม่ของจ้าวโม่เหยียนผู้ซึ่งเป็นเมียหลวงของลูกชายคนโตที่ออกโดยเมียหลวงของจวนเฉิงเซี่ยง ในขณะเดียวกันนางก็เป็นเมียหลวงของจ้าวเต๋อฉวนผู้ซึ่งเป็นขุนนางระดับห้าในราชวงศ์ด้วย

ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่นาง รู้สึกเสียใดคิ้วและตาที่สวยงามของนาง ล้วนถูกความหยิ่งผยองที่ปรากฏทำลายไปอย่างสิ้นเชิง

ฉู่เนี่ยนซียิ้มเล็กน้อย และรีบทำความเคารพ

ที่นี่คือจวนเฉิงเซี่ยง และคนนี้ก็คือแม่ของพี่สะใภ้คนโตของนาง ก็ต้องมีมารยาทอยู่แล้ว

"ในเมื่อคุณป้ามาแล้ว เหตุใดถึงไม่ได้ให้คนไปแจ้งท่านแม่ล่ะเจ้าคะ?คนใช้ไม่ได้ดูแลอย่างทั่วถึงหรือ?"

ในเมื่อถูกพบเห็น หลิ่วซื่อก็ขี้เกียจที่จะอธิบายอีก ทักทายกลับอย่างเหนื่อยหน่าย พยายามระงับความดูถูกที่มีต่อฉู่เนี่ยนซีในใจลง"ไม่หรอก แค่ว่าไม่ได้เจอลูกสาวมานาน อยากคุยส่วนตัวบ้างเพคะ"

หลิ่วซื่อเหลือบตามองฉู่เนี่ยนซีทีหนึ่งอย่างหยิ่ง แล้วจับมือของจ้าวโม่เหยียน ตบมือของนางเบาๆ ทำเป็นลักษณะสงสาร"ลูกสาวของข้า มีบุญวาสนาไม่เท่าคุณหนูเลยนะ เพื่อจะดูแลพี่ชายที่เป็นพิการของเจ้า นางนอนหลับไม่ดีทุกวันเลย สุขภาพก็แย่ลงเรื่อยๆ เห็นไหมว่าตอนนี้นางผอมถึงกับเหลือแต่กระดูกแล้ว พอเห็นลูกสาวที่ทุกข์ทรมารขนาดนี้ของข้า ข้าในฐานะที่เป็นแม่ ก็ปวดใจไปตามเลยนะ"

"ท่านแม่!"จ้าวโม่เหยียนดึงมือของหลิ่วซื่อทีหนึ่ง พร้อมขมวดคิ้ว

แต่เห็นสายตาที่เตือนของแม่ ก็กลืนคำพูดที่จะเถียงลงไปอีกครั้ง

ฉู่เนี่ยนซีได้ยินคำพูดที่แปลกประหลาดของหลิ่วซื่อ ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย คำพูดที่นางพูดนั้นก็ทำให้หลิ่วซื่อเหงื่อไหลเต็มตัวด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel