บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 ขาของพี่ชายหายดีแล้ว ทำตามที่เดิมพันไว้

พอดีตอนนี้ฉู่เนี่ยนซีกำลังยกชามเดินมาพอดี เห็นพี่ชายเป็นลักษณะเช่นนี้ รีบมาตรวจเช็คขาทั้งสองข้างของเขา

"เหยียนเอ๋อร์ เนี่ยนซี เมื่อกี้ข้ารู้สึกว่า......ขาของข้า เหมือนปวดขึ้นมาทีหนึ่ง......"

อาจจะเป็นเพราะบริเวณขาไม่มีความรับรู้มาหลายปี ฉู่เจี้ยนอี้เลยนึกว่าน่าจะเป็นความรู้สึกผิดของตัวเอง แต่พอฉู่เนี่ยนซียื่นมือไปกดจุดของเขาโดยไม่พูดอะไร

ขาของฉู่เจี้ยนอี้ของหดลงอย่างแรง

ท่าทางเล็กๆนี้ ทำให้สามคนล้วนอึ้งอยู่กับที่

จ้าวโม่เหยียนอ้าปาก ยังไม่ทันได้พูดออกมา น้ำตาก็หลั่งไหลออกมา!

ฉู่เจี้ยนอี้จ้องขาของตัวเองด้วยความเหลือเชื่อ ลองขยับดู มีความรับรู้แล้วจริงๆ!

ฉู่เนี่ยนซีผลักจ้าวโม่เหยียนที่กำลังร้องไห้ไร้เสียงอยู่อย่างตื่นเต้น พูดเป็นกำลังใจให้"พี่สะใภ้ใหญ่ รีบประคองพี่ชายที ถึงแม้ตอนนี้เขาเดินไม่ได้ แต่ยืนขึ้นมาได้อยู่!รีบไปสิ!"

ไม่ทราบว่าคนใช้ที่ขาไวคนไหนไปแจ้ง แล้วฉู่เฉิงเซี่ยงและเฉิงเซี่ยงฮูหยินก็รีบวิ่งเข้ามาจากนอกประตู

มงกุฎหยกของฉู่เฉิงเซี่ยงเอียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าหลังจากตอนเที่ยงตื่นนอนมาก็ได้ยินข่าวแล้ว เลยวิ่งมาโดยตรง

ฉู่เจี้ยนอี้พยายามจับแขนของจ้าวโม่เหยียนเอาไว้ และค่อยๆลุกขึ้นมาจากริมเตียง เห็นพ่อแม่วิ่งเข้ามา อยู่ๆยังรู้สึกแสบจมูก

ฉู่เฉิงเซี่ยงยืนอยู่ห่างกับฉู่เจี้ยนอี้สิบฟุต เหมือนกลัวจะทำของอะไรแตก ไม่กล้าเดินหน้าขึ้นไปอีกก้าวหนึ่ง เพียงแค่ตัวสั่นและถามว่า"ลูก เจ้า......เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง?"

ฉู่เจี้ยนอี้พยายามยิ้มขึ้นมา ถึงแม้ลำบาก แต่นั่นเป็นรอยยิ้มที่รอดพ้นจากความยากลำบาก เขาค่อยๆพูดว่า"กราบทูลท่านพ่อขอรับ เนี่ยนซีทำสำเร็จขอรับ!"

เฉิงเซี่ยงฮูหยินปิดปากอย่างแรง คนทั้งตัวส่ายไปส่ายมาเกือบจะล้ม สาวใช้ข้างๆรีบมาประคอง แต่กลับเห็นนางใช้ผ้าปิดปากเอาไว้ และเหมือนร้องไห้ออกมา

เดิมทีทุกอย่างล้วนอยู่ในการคาดเดา เห็นฉากนี้ ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่ามีความอบอุ่นแพร่หลายไปทั่วร่างกาย แม้กระทั่งนางก็ยังขอบตาแดงเลย

นอกประตูมีเสียงวิ่งที่รีบร้อนส่งมา ฉู่หว่านเอ๋อร์พาหมอเทวดาเฮ่อหลันก็มาด้วย น่าจะได้ยินข่าวแหละ

ปฏิกิริยาของหมอเทวดาเฮ่อหลันดูตื่นเต้นกว่าฉู่เฉิงเซี่ยงและเฉิงเซี่ยงฮูหยินอีก คนแก่ที่อายุเกินหกสิบและมีความเทพเซียนนั้น เดินหมุนฉู่เจี้ยนอี้ไปหลายรอบ มองขึ้นไปแล้วทั้งตลกและน่ารัก

ส่วนฉู่หว่านเอ๋อร์ จ้องไปที่ขาของฉู่เจี้ยนอี้ก่อน จากนั้นย้ายสายตาออกไป จ้องฉู่เนี่ยนซีไว้อย่างแน่น

ห่างกันไม่ถึงสามฟุต ดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งของนางมีความอาฆาตอยู่ในนั้น

ฉู่เนี่ยนซีเหลือบตามองนางทีหนึ่ง ยิ้มมุมปากเบาๆ เผชิญกับการจ้องมองที่โหดร้ายของนางอย่างใจเย็น

เห็นผู้หญิงในห้องล้วนเช็ดน้ำตาอย่างตื่นเต้น ฉู่เนี่ยนซีพูดว่า"ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกเจ้าใจเย็นๆหน่อย ขาของพี่ชายไม่มีความรับรู้มาหลายปี อย่างน้อยยังต้องอาบน้ำที่ผสมยาอีกหนึ่งเดือนถึงสามารถกลับสู่สภาพปกติได้ ตอนนี้พวกเราอย่าตื่นเต้นเกินไป ยังต้องให้พี่ชายพักผ่อนดีๆเจ้าค่ะ"

ฉู่เฉิงเซี่ยงเช็คเหงื่อบนหัวของตัวเอง เป็นตั้งเฉิงเซี้ยงแต่กลับลืมตัวไป มีความน่ารักบางอย่างเหมือนในวัยเด็ก

ฉู่เนี่ยนซีเดินไปประคองฉู่เฉิงเซี่ยงนั่งลง และยกมือสั่งให้คนใช้หลายคนไปเตรียมน้ำที่ผสมยา แล้วออกสูตรยาหลายใบอย่างต่อเนื่อง แล้วยื่นให้จ้าวโม่เหยียน

หลังจากทุกอย่างล้วนสงบลงแล้ว เห็นแต่หมอเทวดาเฮ่อหลันที่ตรวจเช็คขาของฉู่เจี้ยนอี้อยู่ตลอดนั้นหันมาโดยตรง หลังจากจ้องฉู่เนี่ยนซีไปสักครู่หนึ่งแล้ว อยู่ๆก็คุกเข่าต่อหน้านางอย่างแรง

ฉู่เนี่ยนซีตกใจมาก ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองได้เดิมพันของเขา

ฉู่หว่านเอ๋อร์ที่อยู่ข้างหลังกัดจนฟันทั้งปากจะหักไปแล้ว แต่อยู่ต่อหน้าท่านลุงและท่านป้า นางไม่สามารถกลับคำได้ มีแต่ต้องเดินไปถึงลานบ้าน กราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้งต่อฉู่เนี่ยนซีตามที่เดิมพันไว้

ฉู่เนี่ยนซีรีบก้มลง ใช้มือประคองหมอเทวดาเฮ่อหลันขึ้นมา พูดเบาๆว่า"ท่านเจ้าคะ ข้าแค่โมโหในเรื่องนี้ จึงเดิมพันกับท่านแล้วเกิดชนะขึ้นมา แต่ถ้าจะกล่าวถึงการรักษาคน ท่านยังคงอาวุโสกว่าข้า คนที่เป็นหมอ ก็ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา"

หมอเทวดาเฮ่อหลันพยักหน้าอย่างสุดจิตสุดใจ สายตาที่มองไปทางฉู่เนี่ยนซีนั้นก็เปลี่ยนเป็นความสดใสแต่เดิม และยังมีความเคารพเพิ่มเข้ามาด้วย"พระชายาพูดได้ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ!ก่อนหน้านี้ข้ายังได้ตกลงเงื่อนไขของพระชายา เชิญพระชายาพูดออกมาเถอะ!"

หลังจากฉู่เนี่ยนซีประคองหมอเทวดาเฮ่อหลันขึ้นมาแล้ว ก็ไม่ได้มองฉู่หว่านเอ๋อร์ที่อยู่ในลานบ้านเลย

หลังจากทั้งสองคนนั่งลงอีกครั้งหนึ่งแล้ว ฉู่เนี่ยนซีถึงค่อยๆหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นให้หมอเทวดาเฮ่อหลัน และพูดว่า"รบกวนท่านช่วยหาของที่ระบุไว้ในกระดาษแผ่นนี้ให้ข้าหน่อย"

หมอเทวดาเฮ่อหลันเป็นคนที่ฉลาด เปิดกระดาษออกมาดูทีหนึ่ง ก็เอาให้ผู้ช่วยที่รับใช้อยู่ข้างๆ พร้อมลงคำสั่ง"สิ่งเหล่านี้เจ้าเตรียมให้ภายในสามวัน แล้วส่งมาที่จวนฉู่เฉิงเซี่ยง จำไว้ว่า อย่าผ่านมือของคนอื่น"

ผู้ช่วยคนนั้นก็เป็นคนที่เชื่อฟัง เห็นว่าชื่อของยาที่ระบุไว้บนกระดาษล้วนเป็นยาที่ล้ำค่า เลยรู้อยู่แก่ใจว่าต้องทำอย่างไร

ฉู่เฉิงเซี่ยงฟังสองคนนี้พูดคุยกันอย่างจริงใจ ก็ปรากฏรอยยิ้ม แล้วก็ย้ายสายตาไปที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ที่ด้ามหน้าและไม่พูดไม่จาอยู่ในลานบ้าน รอยยิ้มบนมุมปากก็ค่อยๆจางหายไป

พอหมอเทวดาเฮ่อหลันไปแล้ว ฉู่เฉิงเซี่ยงลุกขึ้นเดินไปในลานบ้าน อ้าปากพูดว่า"เจ้าสำนึกผิดไหม?"

ฉู่หว่านเอ๋อร์สั่นทีหนึ่ง และก้มหน้าลงอย่างรีบร้อนอีกครั้ง"ท่านลุงโปรดหายโกรธ......"

"ข้าถามเจ้าสิ ความผิดของเจ้าอยู่ที่ไหน?"น้ำเสียงของฉู่เฉิงเซี่ยงเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

ฉู่หว่านเอ๋อร์สั่นแรงขึ้นกว่าเดิม นิ้วมือที่สัมผัสกับพื้นแทบอยากจะแคะจนพื้นแตกหัก

"แม่ของข้าเห็นว่าเจ้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านน้องชายข้า ตั้งแต่ที่เจ้าเกิดมาก็โปรดปรานเจ้าตลอด แถมยังปรึกษากับข้าตลอดว่าจะเชิญนางกำนัลอาวุโสที่วังมาสอนมารยาทแก่เจ้า แล้วเจ้าล่ะ?ถ้าหากคนนอกรู้ว่า เจ้าไม่ได้เรียนสิ่งดีๆจากจวนเฉิงเซี่ยงเลย แต่กลับเลียนแบบการกระทำของลูกสาวที่ออกโดยเมียน้อยของตระกูลเล็กๆ เจ้าคิดจะให้คนทั้งจวนเฉิงเซี่ยงเสียหน้าไปพร้อมกับเจ้าหรือ?"

คำพูดนี้ไม่ได้ตรงไปตรงมาขนาดนั้น แต่ได้บ่งบอกถึงท่าทีของฉู่เฉิงเซี่ยงแล้ว

เฉิงเซี่ยงฮูหยินดึงฉู่เฉิงเซี่ยง ส่งสายตาให้เขา

ฉู่เนี่ยนซียืนอยู่ข้างๆโดยไม่เอ่ยไม่จา แต่ในใจรู้อย่างชัดเจน

ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางพูดในวันนั้นว่า เหตุใดฉู่หว่านเอ๋อร์ถึงรู้ทุกการกระทำของนาง ฉู่เฉิงเซี่ยงได้จดจำไว้ และหลังจากนั้นต้องได้สั่งให้คนไปตรวจสอบแน่นอน

ถึงแม้คนทั้งหมดล้วนถูกภายนอกหลอกลวง แต่ท่านพ่อที่เป็นเฉิงเซี่ยงของนางกลับไม่ได้โดนหลอก ฉู่เฉิงเซี่ยงได้มีดวงตาที่แยกถูกผิดชั่วดีได้ ซึ่งเป็นสิ่งหายากมาก

พอนึกถึงที่นี่ อยู่ๆฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกผ่อนคลายลงเยอะเลย

อาจจะเป็นเพราะว่ามีท่านพ่อที่ฉลาดขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองเข้าใจหลายอย่างแล้ว

หัวใจของฉู่หว่านเอ๋อร์เหมือนถูกแมวนับพันตัวเกาอยู่ด้วยกัน เมื่อเผชิญกับความโกรธของเฉิงเซี่ยง คำพูดที่ประจบประแจงของตัวเองล้วนเปล่าประโยชน์

ถึงแม้ตอนนี้นางอยากจะบดขยี้กระดูกของฉู่เนี่ยนซีมากขนาดไหน ครั้งนี้ก็มีแต่ต้องทนเอาไว้ก่อน"ท่านลุงเจ้าค่ะ ข้าสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ ไม่กล้าขอร้องให้ท่านลุงยกโทษให้ ข้ายอมรับโทษเจ้าค่ะ!เพียงว่าข้า......"

พูดถึงที่นี่ นางก็ฟุบอยู่บนพื้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมา

เฉิงเซี่ยงฮูหยินขมวดคิ้ว นางเหมือนกับฮูหยินอาวุโส ล้วนโปรดปรานฉู่หว่านเอ๋อร์มาก จึงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาสะกิดฉู่เฉิงเซี่ยง

หลังจากต่อสู้กันแบบไร้เสียงมาสักครู่หนึ่ง ในที่สุดฉู่เฉิงเซี่ยงลุกขึ้น และสะบัดหน้าเดินจากไป เพียงทิ้งคำพูดเดียวเอาไว้"เห็นแก่หน้าของท่านแม่และฮูหยิน ลงโทษเจ้าเพียงกักขังเจ้าเดือนหนึ่ง และไปที่หอบรรพบุรุษสำนึกผิดทุกวัน ห้ามทำอีกต่อไป!"

เห็นว่าเขาเดินจากไป ฉู่เนี่ยนซีหายใจเข้าลึกๆ

ด่านแรกที่กลับบ้านมา ถึงว่าผ่านแล้ว

นับดูแล้วออกจากจวนอ๋องหลีก็หลายวันแล้ว แต่ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่า หากไม่ใช่ว่าในปกติคนอื่นยังเรียกนางอย่างเคารพว่าพระชายา นางไม่อยากกลับจวนอ๋องหลีที่ไร้ชีวิตชีวาอย่างนั้นจริงๆเลย

รักษาขาของพี่ชายได้แล้ว สิ่งที่สำคัญตอนนี้ก็คือบาดแผลบนใบหน้าของตัวเอง ฉู่เนี่ยนซีเดินไปห้องนอนของตัวเองพร้อมคิดไปด้วย รอยาที่ฝากให้หมอเทวดาเฮ่อหลันช่วยหานั้นได้มา ใบหน้าของนางก็รักษาได้แล้ว

ถึงแม้นางไม่ใช่ซีเรียสว่าเดิมทีใบหน้านี้ของตัวเองสวยขนาดไหน แต่ในฐานะที่เป็นผู้หญิง การที่อยู่ด้วยใบหน้าที่มีแผลเป็นแบบนี้ก็ไม่ดี

ยังไม่ทันรอให้นางก้าวเข้าไปในประตู ก็มีองครักษ์ของเฉิงเซี่ยงวิ่งผ่านไปจากข้างหลังอย่างรีบร้อน สีหน้าดูจริงจังมากเลย

ฉู่เนี่ยนซีตกใจ แอบเดินตามขึ้น/แ นางเพิ่งเดินเข้าไปในห้องหลัก ก็ได้ยินองครักษ์คนนั้นกระซิบอยู่ข้างหูของฉู่เฉิงเซี่ยง และยื่นของอะไรไปให้ด้วย

จากนั้นฉู่เฉิงเซี่ยงก็โบกมือ แล้วคนใช้ทั้งหมดก็ล้วนค่อยๆจากไป พร้อมปิดประตูด้วย

"ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้น?"ฉู่เนี่ยนซีเป็นคนรู้ทันสถานการณ์ ลดระดับเสียงและนั่งอยู่หลังฉากกั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel