อันตราย Ep.7
Ep.7
หลังจากเกิดเรื่อง ปืนก็ได้ขับรถต่อเข้ามาจนถึงสะพานท่าเรือจุดนัดรับเงิน
"นั่งอยู่ในนี้ ห้ามลงไปเด็ดขาด!" เสียงเข้มหันมาบอกกับเด็กสาวอย่างจริงจัง ใบหน้าสวยพยักหน้ารับคำสั่งรัวๆ ร่างสูงจึงวางใจยอมลงจากรถแล้วไปเคลียร์ธุระ
"ลูกพี่ครับ!" ตั้นรีบวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นนายเมื่อเห็นปืนเดินเข้ามา
"ว่าไง?" เสียงเข้มเอ่ยถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น เพราะเขาอยากรู้เรื่องที่ให้ตั้นไปหาตัวคนขับที่ก่อเรื่องตอนเขาเข้ามา
"ขอโทษครับลูกพี่ อยู่ดีๆ กล้องก็เสียจับภาพอะไรไม่ได้เลย ผมเรียกคนมาซ่อมแล้ว" ตั้นทำสีหน้ารู้สึกผิดที่ไม่สามารถหาตัวคนก่อเหตุได้
"บังเอิญดีจริงๆ ไหนเงินที่พ่อกูจะให้เช็ค ซื้อขายอะไรกันทำไมกูไม่เห็นรู้"
"คุณท่านก็ไม่ได้บอกผมว่าขายอะไร บอกแต่ว่าจะมีลูกค้าชาวตะวันตกเอาเงินมาให้ ให้ลูกพี่มาเช็คดูว่าครบห้าล้านไหม"
"อืม เดี๋ยวกูกลับไปถามเองว่าขายอะไรให้ฝรั่งพวกนี้ เงินตั้งห้าล้าน คงไม่ใช่การซื้อขายธรรมดา"
"ครับ งั้นไปกันดีกว่าครับ ไอต่อรับหน้าให้อยู่"
"อืม" ปืนเดินตามตั้นไปที่จุดนัดพบเพื่อเช็คเงินตามคำสั่งทั้งๆ ที่ไม่อยากจะทำเลยสักนิด แต่เพราะโดนขู่เรื่องบริษัทเขาเลยต้องจำใจทำ
อีกด้านหนึ่ง
พิชชานั่งนิ่งอยู่ในรถสปอร์ตคันหรูตามคำสั่งของชายหนุ่ม รถยังคงติดเครื่องยนต์ไว้อยู่แต่ถูกเจ้าของรถล็อคทุกอย่างไว้เพื่อความปลอดภัยของคนข้างใน ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆ รถด้านนอก เห็นทะเลขนาดใหญ่กว้างไกลสุดลุกหูลุกตา มีตึกสูงๆ อยู่กลางทะเลด้วย ทำให้พิชชามีความคิดที่อยากจะออกไปสูดดมกลิ่นไอของน้ำทะเล แต่ก็ทำได้แค่คิด
"เอ๊ะ?" ใบหน้าสวยก้มๆ เงยๆ มองชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาป้วนเปี้ยนที่รถ เธอไม่รู้หรอกว่าคนข้างนอกเห็นคนข้างในไหม แต่เธอที่อยู่ข้างในนั้นเห็นข้างนอกทุกอย่าง มือบางกำสายคาดเบลล์ไว้แน่นเพราะกลัวชายปริศนาสวมหมวกกันน็อคสีดำที่เดินอยู่รอบรถ พอมองดีๆ คิ้วเรียวสวยก็เริ่มขมวดสงสัย รู้สึกคุ้นๆ กับชายคนนี้
"เขาคนนั้น!..." และเธอก็นึกถึงอุบัติเหตุเมื่อครู่ เขาคือคนเดียวกับชายที่ขับรถพุ่งเข้ามาจนเกือบชนกันตรงทางเข้าท่าเรือ
ก๊อกๆๆ
เฮือก!! ร่างบางสะดุ้งแล้วเบี่ยงตัวเข้าหาเบาะคนขับเพราะกระจกฝั่งเธอถูกเคาะเสียงดัง จากนั้นชายชุดดำที่แต่งตัวมิดชิดคนเดิมก็ก้มลงมาส่องดูคนข้างในจนเห็นใบหน้าของพิชชาชัดเจน แล้วชายคนนั้นก็เดินจากไป
พิชชาหันหลังกลับไปดูอย่างหวาดระแวง เธอจ้องมองชายคนนั้นตาไม่กะพริบ จนเขาขึ้นคร่อมมอไซต์แล้วขับจากหายไป ร่างบางจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ทางด้านของปืน
"สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนของคุณเหมราช มารับเงินตามที่นัดกันไว้"
"สวัสดีครับ ผมเอลวิส" เอลวิสยื่นมือมา ปืนจึงตอบรับด้วยการยื่นมือไปจับเพื่อทักทายกัน
"นี่ครับเงินค่าของ" เอลวิสยื่นกระเป๋าใบหนึ่งมาให้
คิ้วเข้มของปืนขมวดอย่างสงสัย กระเป๋าใบนี้ดูธรรมดาและเปิดง่าย ทำไมชาวตะวันตกกลุ่มนี้ถึงไม่เลือกเก็บเงินไว้ในกระเป๋าที่มันมีความปลอดภัยมากกว่านี้ มันควรจะมีรหัสเปิดหรือไม่ก็ตัวล็อคที่รัดกุม แค่กระเป๋าใบเดียวชายหนุ่มก็เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล
"รับมาเช็คเลยไหมครับลูกพี่?" ต่อกระซิบถามปืนเมื่อเห็นเขายืนนิ่งไม่ยอมรับกระเป๋ามา
มือหนายื่นไปขวางต่อเอาไว้เมื่อเห็นว่าต่อจะไปรับกระเป๋าจากอีกฝ่ายที่ยื่นมาให้ นอกจากกระเป๋าจะธรรมดาแล้ว ตรงขอบปากกระเป๋ายังมีผงสีขาวๆ เปื้อนอยู่อีกด้วย
"ผมว่ากระเป๋าเงินของพวกคุณดูแปลกๆ นะครับ"
"แปลกยังไงเหรอครับ คุณก็รับไปเช็คเองสิครับว่าจำนวนเงินครบไหม พวกผมยังมีธุระต้องไปทำต่อ นี่ก็ใกล้เวลาที่เรือผมต้องออกแล้ว" เอลวิสทำหน้าที่ตอบคำถามกับปืน ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังเอลวิสมีหน้าที่ทำบางอย่างซึ่งปืนไม่สามารถรู้ได้เลย
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนชั่งใจอยู่ว่าจะรับกระเป๋ามาจากอีกฝ่ายดีไหม จู่ๆ สายตาคมก็เหลือบลงมาเห็นแสงเลเซอร์สีแดงตรงหัวใจเขาพอดี ทันใดนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีว่ากำลังจะโดนอะไร
พรึบ!
ปัง!
มือหนาคว้ากระเป๋าที่เอลวิสยื่นมาให้เอามาบังตัวไว้ในเวลาเดียวกันกับที่เสียงปืนดังขึ้น กระเป๋าถูกยิงเป็นรูตรงตำแหน่งที่หัวใจ ทำให้มีผงสีขาวรั่วออกมาฟุ้งกระจาย และมันทำให้รู้ว่าในกระเป๋าบรรจุยาเสพติดผิดกฎหมายไม่ใช่เงินห้าล้านอย่างที่คุยกันไว้
"ลูกพี่ทางนี้!!"
ฟึบ!
มือหนาเอื้อมรับปืนที่ลูกน้องคนสนิทโยนมาให้ ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไปหลบตรงถังเหล็กที่มีขนาดใหญ่
'Puen talk'
"นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะ!! ไหนมึงว่าพ่อให้มารับแค่เงิน กูเกือบรับลูกกระสุนแล้วไอเวร!"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันลูกพี่ คุณเหมบอกมาแบบนี้ ไม่ได้เตือนอะไรเราเลยครับ!" เสียงไอตั้นร้องบอกผมท่าทางซีเรียส เพราะมันคงได้รับคำสั่งจากพ่อผมมาแค่นั้นจริงๆ เลยไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วทำไมแม่งต้องเกิดในวันที่ผมถูกบังคับมาด้วยวะ! คราวซวยมาเยือนจริงๆ
"เอาไงดีครับ เราไม่เห็นตัวคนยิงด้วย ไอพวกฝรั่งมันก็หนีหายไปหมดแล้ว" ไอต่อชะโงกหน้าออกไปมองหาตัวคนยิงแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ผมเองก็ไม่เห็นเหมือนกัน เห็นแต่ลูกปืนที่ทะลุกระเป๋ายาเสพติดนั่นแหละ ส่วนไอเอลวิสนั่นก็หายหัวไปเลย ไม่เหลือพวกที่มากับมันสักคน
"ใครทำวะ! ใช่พวกเอลวิสรึเปล่า หรือคนกลุ่มที่สาม?" ผมตะโกนถามไอสองตัวที่นั่งกำปืนแน่นในท่าที่พร้อมจะยิงทุกเมื่อหากศัตรูโผล่ออกมา ถ้าไอเอลวิสอะไรนั่นมันไม่รู้เรื่อง...แสดงว่ามีคนอีกกลุ่มที่จ้องรอยิงกบาลผมตั้งนานแล้ว แต่ผมก็พึ่งจะเคยมาที่นี่ แปลกไหมที่เป้าดันเป็นผม เอ๊ะ! จู่ๆ หัวผมก็ดันคิดถึงใครบางคนที่ผมทิ้งเอาไว้ในรถตรงหน้าสะพาน ชิบหายแล้วยัยเด็กนั่น!
"ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน โทรหาคุณท่านดีไหมครับ!..."
"พิชชา! พวกมึงคอยดูอยู่ทางนี้...เห็นใครไม่ชอบมาพากลยิงทิ้งได้เลย!"
"เดี๋ยวสิครับลูกพี่!...ลูกพี่!" เสียงไอตั้นกับไอต่อตะโกนเรียกผมเสียงลั่นเพราะอยู่ดีๆ ผมก็วิ่งออกมาเป็นเป้าให้พวกมันยิง แต่ก็ห้ามอะไรผมไม่ได้หรอกครับเพราะผมวิ่งออกมาไกลแล้ว หิ้วลูกสาวบ้านใครก็ไม่รู้ติดรถมา ทำลูกเขาตายผมโดนสาปส่งแบบไม่มีโอกาสเกิดอีกแน่
พอผมวิ่งมาถึงรถ สิ่งแรกที่เห็นคือชายชุดดำคนเดียวกับคนที่ขับมอไซต์พุ่งใส่หน้ารถเป็นเหตุให้ผมต้องหักหลบจนเกือบจะตกทะเล...กำลังทุบรถขู่คนข้างในให้ออกมา ผมไม่รอช้ายกปลายกระบอกปืนชี้ไปที่ขาของมันแล้วกดลั่นไกปืนทันที
ปัง!
แต่ก็พลาดเพราะมันดันเหลือบมาเห็นผมซะก่อนเลยวิ่งไปหลบอยู่หลังรถได้ทัน
'End Puen'
"กรี๊ดดด!!!! ฮึกก...ฮืออ!!" ร่างบางนั่งกรีดร้องอยู่ภายในรถสปอร์ตที่ถูกทุบ มือบางยกขึ้นปิดหูไว้แน่นด้วยความกลัว เนื้อตัวสั่นเทาจนแทบไม่มีสติ แต่พอเหลือบตาขึ้นมาเห็นชายหนุ่มคุ้นหน้าที่มาด้วยกันเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงไม่รอช้าที่จะปลดล็อคประตูรถแล้วเปิดออกวิ่งไปหาชายหนุ่มเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่าหากอยู่กับเขา
ในคราวเดียวกันนั้นชายชุดดำก็โผล่ออกมาจากท้ายรถและยกปืนเล็งมาทางที่เด็กสาวกำลังวิ่งไปหาชายหนุ่มพอดี ซึ่งปืนยืนอยู่ที่ขอบสะพาน
ปัง!
"กรี๊ดดดด!!!"
ตู้มม!!!
เสียงน้ำทะเลดังขึ้นเมื่อปืนและพิชชาตกลงไป ทั้งคู่ไม่มีใครถูกยิงเนื่องจากปืนวิ่งเข้ามาอุ้มร่างเล็กอรชรของพิชชาโดดลงทะเลไปเสียก่อน
ชายชุดดำวิ่งมาชะโงกดูหาสองร่างของหนุ่มสาวที่พากันโดดลงไป แต่ก็ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตจะโผล่ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าผิวน้ำไร้คนที่กำลังตามเก็บ ชายชุดดำก็ได้เดินจากไปทันที