ตอนที่2 สิทธิ์สามี2
เหมันต์หันกลับมามองใบหน้าหญิงสาวที่กำลังแอบยิ้มอยู่ เขาถลึงตาดุใส่จนเธอต้องรีบก้มหน้าก้มตา นิสัยของปลายฝนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ในตอนที่รู้จักกันแรก ๆ เธอไม่ใช่คนขี้กลัวขี้อายอย่างนี้ กลับดูเป็นสาวมั่นด้วยซ้ำ
"งั้นคืนนี้คุณพ่อมานอนตรงกลางนะครับ ไข้ของแม่ฝนจะได้ไม่ติดเมฆด้วย" หญิงสาวหน้าเหวอออกมาเมื่อได้ยินลูกชายของตนพูดออกมาอย่างนั้น
"แต่เตียงมันเล็กมากนะจ๊ะลูก แม่ว่าเรานอนกันสองคนก็พอ!" เธอรีบพูดปฏิเสธขึ้นมา
"ไม่เห็นจะเล็กเลย อย่าทำเป็นเรื่องมาก!" เหมันต์พูดขึ้นก่อนจะอุ้มลูกชายตัวน้อยไปนอน พร้อมตัวเองขยับเบียดกายเข้าไปนอนตรงกลางแทนหมอนข้าง เตียงขนาด 5 ฟุต ที่ดูเล็กลงไปอย่างเห็นได้ชัด
"ฝันดีนะลูกพ่อ นอนได้แล้วนะ"
"ครับ ฝันดีนะครับพ่อ ฝันดีนะครับแม่"
"ฝันดีจ้ะ" ปลายฝนพูดขึ้นก่อนจะแสดงใบหน้าเรียบนิ่งออกมา เพราะโดนชายหนุ่มเบียดเสียดจนเธอแทบจะตกเตียงอยู่แล้ว
ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็หลับเข้าสู่ห้วงนิทรา เธอเหนื่อยเพลียอยู่มากเพราะพิษไข้ เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของปลายฝนทำเอาชายหนุ่มร่างกำยำหันหน้ามาจ้องมองนิ่ง เขาจับจ้องมองเธอทั่วทั้งใบหน้าอย่างนึกวิเคราะห์ ก่อนจะสลัดความคิดช่วงคราวนั้นทิ้งไปเหลือเพียงความเกลียดชังนั้นอย่างเดิม เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะหันหนีไปอีกทาง
แสงสีนวลในยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบร่างทั้งสามคนพ่อแม่ลูกที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน ภาพที่เห็นคือเหมันต์กางแขนออกโดยอีกข้างมีเด็กชายวัย 3 ขวบเศษ ๆ นอนหนุนแขนอยู่ และอีกข้างมีปลายฝนทาบทับแขนเขา ชายหนุ่มรู้สึกตัวเมื่อเขาเริ่มเจ็บแขน ก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาเมื่อเห็นหญิงสาวทับแขนเขานอนอย่างสบายอยู่อย่างนั้น
"นี่เธอลุกออกไปเดี๋ยวนี้ฉันเจ็บ!" เขาพูดบอกอย่างกัดฟันดังลั่น เขาชาไปทั่วแขน อีกข้างยังพอทนเพราะน้ำหนักตัวเด็กน้อยไม่หนักเท่าเธอสักหน่อย เขาสะบัดแขนให้คนตัวเล็กรู้สึกตัว เธอขยับกายไปมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกมีอะไรมาเขย่าร่างกายตน เปลือกตาหนาของปลายฝนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พอเธอนึกได้ว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนคนเดียวก็รีบดีดตัวลุกขึ้นออกจากเตียงแววตาตกใจมองมาที่ชายหนุ่มร่างกำยำ ที่ตอนนี้แววตาดุคมจ้องมาที่หล่อนอย่างไม่พอใจ
"ตื่นแล้วเหรอครับ~!" เด็กชายตัวนอนพูดเหมือนละเมอขึ้นมาพร้อมขยี้ตาไปมาก่อนจะมองผู้เป็นพ่อเป็นแม่อย่างแปลกใจ
"ตะ ตื่นแล้วจ้ะ" หญิงสาวรีบพูดขึ้นก่อนจะส่งยิ้มมาให้ลูกชายตัวน้อย
"แม่ฝนหายเป็นไข้ยังครับ ถ้าหายแล้วจะได้กอดเมฆ เมฆอยากให้แม่ฝนกอดแน่น ๆ" คำพูดของเด็กชายทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสองนิ่งไปชั่วขณะ ปลายฝนรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่ลังเลใจ ก่อนจะอ้ามือออกพร้อมย่อตัวลง เด็กชายตัวน้อยพอเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะปีนลงจากเตียงพร้อมโผล่เข้ามากอดมารดาแน่น
"เมฆอยากตื่นแล้วกอดแม่ฝนทุกวันเลย" เธอฟังด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบขึ้นมา จู่ ๆ ก็มีภาพราง ๆ ขึ้นมาในหัวของเธอ
'ถ้าน้องฟ้ากลับมาเมื่อไหร่ พี่จะขอน้องฟ้าแต่งงานทันทีเลยนะครับ'
'อดใจรอฟ้าอีกหน่อยนะคะ หลังจากฟ้าเรียนจบโท ฟ้าจะรีบกลับมาเป็นเจ้าสาวของพี่'
หญิงสาวได้ยินเสียงพูดคุยของคนสองคนเธอหน้ามืดเซเล็กน้อยจนเด็กชายมองอย่างตกใจ เช่นเดียวกับเหมันต์ที่มองหญิงสาวอย่างแปลกใจเช่นกัน สองมือของปลายฝนยกขึ้นมาบีบขมับ จู่ ๆ น้ำตาใส ๆ ก็เอ่อล้นขึ้นมา
"ปวดหัว ฉันปวดหัว โอ๊ย!" เธอร้องทรมานอย่างทุรนทุราย เมื่อเสียงเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
'พี่จะรอ รอน้องฟ้า! พี่จะรอ!'
"ฝน! เป็นอะไรไปน่ะ ปลายฝน!" เหมันต์รีบลุกลงจากเตียงพร้อมเข้ามาหาร่างบางที่ล้มไปนอนกับพื้นเย็นเฉียบ หญิงสาวดิ้นไปมาปานถูกน้ำร้อนลวก
"ใครอยู่ข้างนอกบ้าง เข้ามาหน่อย!"
แม่บ้านที่ได้ยินเสียงเรียกของชายหนุ่มก็รีบวิ่งกันขึ้นมาบนห้องนอนของน้องเมฆด้วยสีหน้าแตกตื่นวิตกกังวล จู่ ๆ ร่างบางของปลายฝนสติดับวูบนอนแน่นิ่งลงไป
เหมันต์มองดูร่างบางที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติ ก่อนจะช้อนร่างของปลายฝนขึ้นมานอนที่เตียง เด็กน้อยตาใสมองดูมารดาด้วยน้ำตา เขาเป็นห่วงกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป
"คุณพ่อครับ แม่ฝนเป็นอะไรครับ?" เด็กน้อยถามผู้เป็นพ่อก่อนจะไปลูบมือหญิงสาวเบา ๆ
"ไม่เป็นอะไรหรอกเมฆ ลูกอย่าร้องไห้นะ ไม่งั้นแม่เขาจะเป็นห่วงเอาที่เห็นเมฆร้องไห้" เหมันต์พูดปลอบใจลูกชายตัวน้อยพร้อมยกมือขึ้นขยี้หัวเบา ๆ
"ผมจะไม่ร้องแล้วครับ" เด็กชายตัวน้อยพูดพร้อมเช็ดน้ำตาออก
"ป้าโทรตามคุณหมอแล้วนะคะ ดูคุณปลายฝนอาการยังไม่ดีขึ้นเลย ป้าละเป็นห่วงไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมาถึงกลับมาสภาพแบบนี้!" เหมันต์ฟังนิ่งสายตาที่ยังจับจ้องมองดูภรรยาอย่างมีคำถาม ใช่เขาเองก็สงสัยว่าทำไมเธอถึงกลับมาในสภาพแบบนั้น
"เธอไปเจออะไรมากันแน่ปลายฝน"