ตอนที่ 2 ความจริงที่ต้องปิดบัง
มณีนั่งทำขนมทองหยอดอยู่ที่หน้าบ้านโดยมีอมรเทพเป็นลูกมือจัดเก็บใส่ถุง มณีทำขนมขายเลี้ยงครอบครัวมานานหลายปีแล้วและด้วยเงินที่ได้มาไม่มากทำให้ต้องอยู่กันแบบขัดสนและที่เพชรไพลินได้เรียนจนจบปริญญาตรีก็เพราะด้วยเงินกู้ที่ทางรัฐบาลจัดขึ้น ส่วนพลอยงามน้องสาวของเพชรไพลินเรียนจบแค่ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6 เท่านั้นและก็ไม่ยอมเรียนต่อได้แต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ เพชรไพลินเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับถุงกับข้าวที่ซื้อมาจากร้านหน้าปากซอย
“กลับมาแล้วหรือ หายหัวไปไหนมาทั้งวัน ทำงานอยู่ดีๆก็ลาออก แล้วที่นี้จะเอาอะไรกินมิทราบ” มารดาพูดเหน็บแต่หญิงสาวก็ไม่ปริปากพูดแต่อย่างใด
“กลับมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะลูก” อมรเทพมองลูกสาวคนโตอย่างสงสาร ตั้งแต่เล็กจนโตหญิงสาวไม่เคยได้กินอิ่มนอนหลับเหมือนกับน้องสาวเลย เขารู้ว่าภรรยาของเขารักลูกสาวคนเล็กมากกว่าลูกสาวคนโต
“จ้ะพ่อ” หญิงสาวรับคำและเดินเข้าไปในบ้าน
“ปกป้องกันดีเหลือเกินระวังเถอะมันคงจะได้ดีสักวันหรอก” มณีหันมาค้อนใส่สามี
“ผมเปล่าปกป้องเพียงแต่ลูกกลับมาเหนื่อยๆ ยัยหนูออกไปหางานใหม่และเขาก็นัดสัมภาษณ์วันนี้แกบอกผมแล้วเมื่อเช้า คุณควรจะฟังลูกมันบ้างรักลูกควรจะรักให้เท่ากัน”
“อ้อ...คุณหาว่าฉันรักลูกลำเอียงล่ะสิแล้วที่มันล่ะเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง ไปไหนมาไหนถึงไม่ยอมบอกยอมกล่าว” มณีกระแทกกระบวยตักน้ำเชื่อมลงกับโต๊ะอย่างแรง
“คุณมันมีอคติกับลูกมากไป ผมเห็นยัยพลอยออกไปเที่ยววันๆคุณไม่เห็นจะพูดอะไรเลย แทนที่จะอยู่ช่วยกันทำขนม” อมรเทพเหลืออดกับความรักลูกลำเอียงของภรรยาตัวเอง
“ก็ลูกพลอยเพิ่งจบมาแกเรียนมาหนักฉันก็เลยปล่อยให้ไปพักผ่อนสมองบ้างก็เท่านั้น” มณีแก้ตัวให้ลูกสาวคนเล็ก
“ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณแล้วไปดูลูกดีกว่า” อมรเทพเดินเข้าไปหาลูกสาวคนโตในบ้าน
“โอ๋กันเข้าไประวังมันจะทำงามหน้าให้สักวัน” มณีพูดไล่หลังสามีที่เดินเข้ามาในบ้าน เพชรไพลินออกมาได้ยินพอดีสีหน้าของหญิงสาวสลดวูบลงผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาโอบไหล่และเดินออกไปนั่งคุยกันที่ด้านหลังบ้านซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านของหญิงสาวตั้งอยู่แถวๆฝั่งธนบุรีแต่เป็นแถบชานเมือง
“อย่าไปโกรธแม่เขาเลยนะลูก แม่ก็ปากเสียแบบนี้อยู่แล้ว”
“ค่ะ หนูไม่เคยโกรธแม่เลยนะคะ พ่อคะงานที่หนูไปสัมภาษณ์มาวันนี้เขารับหนูแล้วนะคะแต่ว่าเจ้านายเขาให้ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของเขาเลยแต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะปลอดภัยทุกอย่างเพราะมีคนอยู่กันเยอะ”
หญิงสาวบอกและมองหน้าที่ซีดเซียวของบิดา
“แล้วต้องเสียเงินหรือเปล่าลูก”
“ไม่ค่ะ แต่ว่าหนูจะกลับบ้านได้เดือนละครั้งเท่านั้นเองนะคะพ่อต้องดูแลตัวเองดีๆนะคะ” หญิงสาวโอบเอวบิดาเอาไว้
“พ่อไม่อยากให้ลูกไปอยู่ที่อื่นเลย ไม่ใช่ว่าพ่อไม่ไว้ใจเราแต่พ่อเป็นห่วงลูก” ชายชราโอบกอดลูกสาวเอาไว้แน่นด้วยความรัก
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ต่อให้ลำบากหนูก็จะทนค่ะ เพราะเขาให้เงินเดือนแพงมากนะคะ พ่อรู้หรือเปล่าว่าเขาให้หนูเท่าไร” หญิงสาวผละออกจากอกบิดาและเงยหน้ายิ้มให้
“เท่าไรลูก”
“20,000 บาทต่อเดือนเชียวนะคะ หนูมีเงินพอที่จะถ่ายเลือดให้พ่อและส่งน้องเรียนต่อได้แล้ว และหนูคิดว่าจะซื้อร้านเล็กๆให้แม่เอาไว้ขายขนมจะได้ไม่ต้องเดินไปส่งที่ร้านให้เหนื่อย” หญิงสาวบอกและยิ้มอย่างคาดฝัน
มณียื่นมองสองพ่อลูก...เธอรู้ดีว่าลูกสาวคนโตมีจิตใจที่ดีและเธอก็ได้ยินที่หญิงสาวพูดเมื่อสักครู่ บ้างที่เธอก็คิดว่าตัวเองคงจะเอาใจลูกสาวคนเล็กมากเกินไปอย่างที่สามีพูดจริงๆ...เธอไม่อยากเข้าไปกวนสองพ่อลูกจึงเดินกลับไปที่หน้าบ้าน
“เพชร แต่หนูต้องเหนื่อยนะลูกพ่อไม่ต้องการเห็นลูกของพ่อต้องเหนื่อย” ผู้เป็นบิดามองหน้าลูกสาวด้วยวัยเพียง 23 ปีก็ต้องมารับผิดชอบภาระที่หนักหนาแล้ว เขานึกรังเกียจตัวเองที่เกิดมาไม่รวยเหมือนกับคนอื่นเขาลูกเมียจึงต้องมาลำบากแบบนี้ ซ้ำร้ายยังมาเป็นโรคร้ายแบบนี้อีก...ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งน้อยใจในวาสนาของตนเอง
“เป็นเพราะพ่อ ลูกก็เลยต้องมาลำบากแบบนี้” อมรเทพมองบุตรสาวด้วยหัวใจที่ร้าวราน
“ไม่ค่ะ พ่อเป็นผู้ให้กำเนิดหนู เป็นผู้สร้างชีวิตให้กับหนูแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” หยาดน้ำตาใสๆไหลลงมาอาบแก้มนวล
“พ่อผิดเอง พ่อน่าจะตายไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไป” เพชรไพลินโผเข้ากอดบิดา ทั้งสองกอดกันแน่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
“แอบมาทำซึ้งกันอยู่ที่นี่เอง แล้วร้องไห้ทำไมมีใครเป็นอะไรหรือไง” พลอยงามเดินเข้ามามองหญิงสาวตาขุ่น เพชรไพลินเช็ดน้ำตาออกและมองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เธอแต่งตัวแบบนี้ออกไปนอกบ้านมาหรือไง” หญิงสาวถามแต่อีกฝ่ายกลับยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“แต่งตัวแบบนี้มันอันตรายนะพลอย”
“แต่งแบบนี้เขากำลังนิยมกัน พี่ไม่ใช่วัยรุ่นไม่รู้หรอก อย่ามายุ่งกับพลอยเลยเรื่องของตัวเองเอาให้รอดก่อนเถอะ” พลอยงามเชิดหน้าเถียงพี่สาวและหันมาทางบิดาก่อนจะแบมือออกยื่นมาตรงหน้าอมรเทพ
“พ่อขอเงิน 200สิจะไปเที่ยวกับเพื่อน”
“พ่ออย่าให้นะ งานก็ไม่ช่วยทำแถมยังมีหน้ามาขอเงินอีก” หญิงสาวร้องห้ามเมื่อเห็นบิดาจะหยิบเงินออกมาให้น้องสาว
“เอ๊ะ...พี่เพชรนี่ยังไง ทีตัวเองออกไปวันๆเขายังไม่พูดอะไรเลย”
“แต่ที่พี่ออกไป ก็ไปหางานทำไม่ใช่ออกไปแล้วไม่มีสาระแบบเรา” หญิงสาวอธิบาย
“ที่พลอยจะออกไปก็ไปหางานทำเหมือนกันเผื่อเจอหนุ่มหล่อๆรวยๆทุกคนก็จะได้สบาย” เด็กสาวบอกและยืนกอดอกมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจ
“พวกคนรวยๆไม่มีทางหันมามองคนจนแบบพวกเราหรอก ถึงเขาสนใจก็แค่เป็นนางบำเรอให้กับเขาเท่านั้น” เพชรไพลินพูดอย่างสะเทือนใจ เธอไม่อยากให้น้องสาวต้องเป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอในตอนนี้
“มันเรื่องของหนู หนูโตแล้วจะมีคนรักมันก็เรื่องของหนูพี่เพชรอย่ามายุ่ง” เด็กสาวเถียงอย่างไม่ยอม
“เธอคิดแบบนี้ได้ยังไง เธอยังเด็กอยู่จะต้องเรียนหนังสือต่อ”
“โอ๊ย..เรียนอีกแล้วเบื่อ ฉันหัวไม่ดีเหมือนพี่เรียนไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก ฉันไม่เรียน”
“ต้องเรียน พี่จะส่งให้แกเรียนเอง” พลอยงามหันมามองพี่สาวอย่างเหยียดๆ
“รวยนักหรือไงจะกินไปวันๆยังไม่มี เขาว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตของเขาดีกว่า ชีวิตใครชีวิตมัน” เด็กสาวเดินจากทั้งสองไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของอีกฝ่าย
“พ่อคะหนูจะทำยังไงกับน้องดีคะ” หญิงสาวหันมาปรึกษาบิดาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“พ่อจะลองพูดกับเขาเอง ว่าแต่เพชรจะไปอยู่ที่บ้านเจ้านายเมื่อไรล่ะ” ผู้เป็นบิดาถาม
“พรุ่งนี้เช้าค่ะ พ่อคะถ้าหนูไม่อยู่พ่ออย่าทำงานหนักนะคะเดี๋ยวจะไม่สบายไปอีก แล้วเงินเพชรจะเอามาให้เองทุกเดือนนะคะ” อมรเทพกอดลูกสาวคนโตเอาไว้อีกครั้ง
พลอยงามเดินออกมาจากหลังบ้านด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและเดินกระแทกเท้ามานั่งลงข้างๆมารดา
“เป็นอะไรมาเหรอลูกเมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย” มณีเอ่ยถามขึ้น
“ก็พี่เพชรสิคะพูดสวดพลอยใหญ่เลยน่าเบื่อที่สุด คอยดูนะถ้าพลอยได้แฟนรวยๆล่ะก็จะเอามาอวดให้หน้าหงายไปเลย”
“แต่ว่าหนูยังเด็กอยู่เลยนะลูกแล้วเรื่องเรียนล่ะ” ผู้เป็นมารดาถามอย่างเป็นห่วง เด็กสาวคลานเข้ามาแล้วกอดข้างหลังมารดาเอาไว้
“โธ่แม่คะพลอยไม่เรียนแล้วค่ะเสียเงินเปล่าๆ เอาไว้พลอยได้แฟนรวยๆพลอยจะพาแม่ไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ๆมีรถหรูๆขับมีคนรับใช้แม่จะได้ไม่ต้องลำบากนะจ๊ะ” เด็กสาวประจบมารดา
“พลอย แต่แม่ว่าที่พี่เขาพูดก็ถูกนะลูก” มณีกอดตอบลูกสาว
“โธ่ แม่ขาพอได้แล้วค่ะ พลอยเบื่อแล้ว วันนี้เพื่อนพลอยจะมารับไปงานวันเกิดของแฟนเขาแต่พลอยไม่มีเงินไปซื้อของขวัญเลย ไปขอพ่อแต่พี่เพชรกับขัดขวางแม่พอจะมีให้พลอยยืมหรือเปล่าคะ” เด็กสาวพูดพร้อมกับเหลือบมองมารดาที่กำลังล้วงเงินออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“เอาแม่ให้ 300 บาทเลยแล้วอย่ากลับดึกนะจ๊ะ”
“ค่ะ หนูรักแม่ที่สุดเลยค่ะ” เด็กสาวหอมแก้มมารดาสองทีก่อนจะวิ่งตัวปลิวออกไป
“แม่ตามใจยัยพลอยจนเสียเด็กแล้วนะคะ” เพชรไพลินเดินออกมาพร้อมกับบิดา
“ช่างน้องเถอะลูก” อมรเทพไม่อยากให้แม่ลูกต้องเถียงกันอีกจึงรีบพูดตัดบทขึ้นเสียก่อน
“แต่ว่า...”
“ทำไม แกจะเอาอะไรกับน้องนักหนา ยัยพลอยจะไปงานวันเกิดเพื่อนเขาก็แค่ขอเงินไปซื้อของขวัญก็เท่านั้น” มณีพูดและหันหลังให้
“เพชรขึ้นไปพักผ่อนเถอะลูกพ่อทำเองได้” อมรเทพยิ้มให้บุตรสาว
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ เพชรช่วยพ่อดีกว่าพ่อนั่นแหล่ะที่ต้องไปพักผ่อน เสร็จแล้วเพชรจะเอาไปส่งให้เองวันนี้พ่อกับแม่จะได้พักผ่อน” หญิงสาวบอกและจัดขนมใส่ถุง อมรเทพมองบุตรสาวตั้งแต่เพชรไพลินเกิดมาก็พบแต่ความลำบากมาตลอด เขาพยามจะหาของที่เด็กคนอื่นมีมาให้ลูกสาวบ้างแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันมีราคาแพงมากเกินไป เด็กหญิงเพชรไพลินจึงได้แต่มองเพื่อนๆเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน
เพชรไพลินเดินออกมาจากร้านขายขนมไทยที่ปากซอยทางเข้าบ้านของเธอเองและได้เจอกับเพื่อนรักที่เรียนด้วยกันมานานตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยมปลาย
“เพชร” ชายหนุ่มหน้าใสตะโกนเรียกมาจากถนนอีกฝั่งหนึ่ง เพชรไพลินมองหาตามต้นเสียงและยิ้มอย่างดีใจ
กฤษวิ่งข้ามถนนเข้ามาหาหญิงสาวด้วยความดีใจ
“เพชรมาส่งขนมหรือ” ชายหนุ่มถาม
“ใช่จ้ะแล้วกฤษล่ะมาทำอะไรแถวนี้”
“เรามาส่งของให้แม่ เราไปหาอะไรกินกันดีกว่านานๆจะได้มาเจอกันสักที” ชายหนุ่มชวนแต่หญิงสาวทำท่าทางอ้ำอึ้ง
“ไม่นานหรอกป้ามณีคงไม่ว่า” ชายหนุ่มบอก หญิงสาวจึงพยักหน้ารับและเดินเคียงกันไป
พลอยงามนั่งมอเตอร์ไซด์มากับเพื่อนสาวอีกสองคนและหันมาเห็นเพชรไพลินนั่งคุยอยู่กับกฤษก็นึกอิจฉาที่ผู้ชายต่างก็มาชอบเพชรไพลินกันทั้งนั้นทั้งที่หน้าตาของเธอก็คล้ายๆกับพี่สาว
...สอนคนอื่นเขาแต่ตัวเองกลับทำเสียเอง...เด็กสาวคิดในใจและยิ้มเยาะ
“แกยิ้มอะไรพลอย” เพื่อนสาวเอ่ยถาม
“ก็ยิ้มเยาะพี่สาวฉันนะสิสอนฉันอย่าให้ท่าผู้ชายแต่ตัวเองกลับมานั่งคุยกับผู้ชายเสียเอง” เด็กสาวบอก
“ไหนล่ะ อ้อคู่นั่นเอง เฮ้ยนั้นมันลูกชายของปลัดนรากรกับคุณอัญชลีนี่นา” เพื่อนสาวอีกคนจอดรถทันที
“จริงหรือ” พลอยงามถาม
“จริงสิ ครอบครัวนี้รวยมากด้วยนะแก ถ้าใครได้เป็นสะใภ้บ้านนี้เหมือนกับหนูตกถังข้าวสารเลยแหล่ะ” เพื่อนสาวบอก
พลอยงามมองกฤษด้วยสายตาที่หมาดหมายและไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่
“แกมองแบบนี้หมายความว่ายังไง...หรือว่าแกคิดจะขั้วคุณกฤษแต่เขาชอบอยู่กับพี่สาวแกไม่ใช่หรือดูสิคุยกันถูกคอเชียว”
“ช่างมันเรื่องแบบนี้ใครดีใครได้นะจริงไหม ไปกันเถอะเดี๋ยวสายพวกนั้นจะรอ” เด็กสาวบอกและยิ้มที่มุมปาก ...เรื่องของความรักมันจะสู้กับความใกล้ชิดได้ยังไง ดูสิว่าเสน่ห์ของเธอจะดึงดูดใจผู้ชายคนนั้นได้หรือเปล่า แล้วเธอจะทำวิธีไหนเพื่อจะเข้าใกล้ตัวเขา สงสัยเธอจะต้องใช้วิธีโบราณเสียแล้ว เข้าหาทางผู้ใหญ่...เด็กสาวกระหยิ่มในใจ
กฤษมาส่งเพชรไพลินที่บ้านและแวะเข้าไปกราบผู้ใหญ่ทั้งสองท่านด้วย เขาได้เจอกับพลอยงามตอนที่จะเดินออกมาจากบ้าน เด็กสาวหยุดยืนและส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ”
“คุณคือ...”ชายหนุ่มหยุดคิด
“พลอยงามค่ะ น้องสาวของพี่เพชรไพลินไงคะ พี่กฤษจำไม่ได้หรือคะ” เด็กสาวเดินเข้ามาใกล้และยิ้มหวานให้
“จำได้แล้วครับ สบายดีนะครับ” ชายหนุ่มถาม
“ค่ะ จะกลับแล้วหรือคะ” พลอยงามถามและเดินเคียงมากับเขา
“ครับ พี่ขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มบอกและก้าวขึ้นรถขับออกไป เด็กสาวยืนมองตามท้ายรถจนลับตาและยิ้มให้กับตัวเอง