พรมแดน แสนรัก

144.0K · จบแล้ว
โยธกา ดรินทร์ น้ำอ้อม
124
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อต้องพิสูจน์ตัว ด้วยการมาทำฟาร์ม หนุ่มสำอางอย่างตรีธนาจะรอดไหม? ไหนจะต้องรบรากับคนเฝ้าไร่ของปู่ ไหนจะต้องวางแผนเพื่อพัฒนางานที่ไม่เคยทำ แถมยังต้องมาป่วนหัวใจเพราะสาวตาใสมาดห้าวข้างไร่ เจ้าของสวนผักคะน้า นามว่าเปรี้ยวหวาน ผู้หญิงอะไร ทั้ง ห้าวทั้งแสบ จนคนเค้าไม่กล้าจีบกันทั้งตำบล เหอะ! ไม่ได้จีบคุณหรอกนะ ผมจะจีบพี่สาวคุณตะหาก (ว้อย) คงไม่รู้สินะว่าชะตาจะถึงฆาต! อีตาผู้ชายหล่อลากข้างไร่ ถ้าดียังไงมาคิดจะจีบพี่สาวสุดหวงของเธอ เปรี้ยวหวานไม่ยอมง่ายๆ หรอกน่า แต่ทำไมเอาไปเอามา คนที่ว่าจะจีบพี่สาวเธอ กลับมายุ่งวนวาย ก่อกวนเธอไม่หยุดแบบนี้กันนะ “อืม...คุณโมโหที่ผมจีบคุณชมพู” “ใช่ ! นายเลิกยุ่งกับพี่สาวฉันได้แล้ว พี่ชมพูเหมาะกับพี่ล้อมที่สุด” เธอประกาศ “อืม โอเคผมจะเลิกยุ่งกับพี่สาวคุณ แต่ว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันนะ” เขามองเธอด้วยสายตาเป็นประกายประหลาด ที่พวงแสดเห็นแล้วก็หน้าแดง “ไม่แลกอะไรด้วยหรอกย่ะ” “ต้องสิ ผมจะได้ไม่ยุ่งกับคุณชมพูไง มาเป็นแฟนกับผมสิคุณเปรี้ยวหวาน รับรองผมจะเลิกยุ่งกับคุณชมพูเลย โอ๊ย !” เขาต้องเลิกพูดกะทันหัน เมื่ออะไรบางอย่างลอยคว้างเข้ามาหาเขาโดนตรงอกเต็มๆ เมื่อเห็นว่าเป็นอะไรเขาก็โวยลั่น “เฮ้ ! นี่คุณเอารองเท้าขว้างผมเลยเหรอ โห...นี่ถ้าโดนหัวผมจะทำไง” “เอ่อ...ฉันเล็งปากนายนั่นแหละ ไม่น่าพลาดเลย อีตาทัคกี้บ้า ใครจะยอมเป็นแฟนนาย อีตาบ้า ตาขี้ควาย โว้ย ! คนบ้า” พวงแสดด่าลั่นอีกรอบ พลางวิ่งหนีเขาโดยใส่รองเท้าข้างเดียวกลับบ้านไปดื้อๆ ตรีธนาหัวเราะก๊ากอย่างอดไม่ได้ ชายหนุ่มก้มลงหยิบรองเท้าเธอที่เป็นรองเท้าแตะสีม่วงมาถือไว้ เขานึกถึงนิทานคลาสสิคเรื่องซินเดอเรล่า นางซินทิ้งรองเท้าแก้วไว้ให้เจ้าชายได้ตามหา ส่วนยัยผัดเปรี้ยวหวาน ทิ้งรองเท้าแตะให้เขาไว้เป็นที่ระลึก เจ้าชายไม่ย่อท้อในการตามหานางเจ้าของรองเท้าแก้ว จนได้สุขสมหวัง ตัวเขาเองเมื่อเข้าใจหัวใจตัวเองทะลุปรุโปร่งแล้ว เขาก็จะตามหาหัวใจเธอเหมือนกัน ฝากไว้ก่อนนะพวงแสด เขาจะไปต้อนเธอให้เข้ามาในหัวใจเขาให้ได้ ปฏิบัติการการฝ่าพรมแดนหัวใจครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ ฝากติดตามด้วยค่ะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนางเอกเก่งผู้ชายอบอุ่นดาราแต่งงานสายฟ้าแลบสัญญาทางรักรักแรกพบจีบเมียเก่าแต่งงานก่อนรักฟินๆ

ตอนที่ 1-1

ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ กำลังยืนชะเง้อมองไปที่ถนนอย่างใจจดจ่อ พร้อมกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ทั้งคู่มีท่าทีเหมือนรอใครบางคน ชายหนุ่มเองยืนรอนานจนเมื่อย ต้องทรุดลงนั่งยอง ๆ พลางถอดหมวกออกแล้วบ่น

“ทำไมไอ้เปรี้ยวหวาน มันมาช้าจังเลยลุงทอง”

“ก็บอกแล้วว่าอย่ามา เอ็งจะตามมาทำไมไอ้ปั๋ง ไม่ได้ขอให้มาเสียหน่อย ข้าจะมารับลูกข้าคนเดียว”

ทองหรือทองมาก หันมาเอ็ดชายหนุ่มเข้าให้ เพราะแดดยามบ่ายเริ่มร้อน และเขาเองก็หงุดหงิดเหมือนกัน

“แหม...”

ปั๋ง หรือ ปราการลากเสียงยาว พลางเงยมองใบหน้าดุดันของทองมาก แม้จะอายุมากแล้ว แต่ทองมากก็ยังคงมีเค้าหน้าคมคาย เรือนร่างสูงใหญ่มีแต่มัดกล้าม อย่างคนที่ทำงานออกแรงอยู่เสมอ จนปราการเองบางทียังนึกอิจฉา บิดาของเพื่อนสนิท ว่าอายุเยอะแล้วยังหุ่นดี ตัวเขาเองติดจะผอมสูง ทานอย่างไรก็ไม่มีเนื้อกับเขาเสียที เรื่องจะเพาะกล้าม สงสัยต้องลืมไปเลย เพราะไม่มีทางที่จะมีกับเขาได้

“ผมเองก็อยากมารับเพื่อนรักสิครับ ยิ่งไอ้เปรี้ยวหวานมันได้เป็นบัณฑิตจบมาหมาด ๆ จากเกษตรด้วยแล้ว น่าภูมิใจจะตายลุงทอง ยืดเลยมีเพื่อนเก่งแบบไอ้เปรี้ยวหวานนี่”

“อืม...นั่นสินะ หึ หึ ไอ้เปรี้ยวหวานมันจบเกษตร แถมจะกลับมาช่วยข้าทำไร่ทำนาอีก ไม่ยอมไปทำงานในเมือง” ทองมากกอดอก เขานึกถึงบุตรสาวคนเล็กอย่างภูมิใจ

“จะไม่ยืดยังไงไหวจริงไหมลุงทอง ไอ้ผมเรียนน้อย แค่จบมอหกได้นี่ก็แทบจะร้องไห้ขอจบแล้ว ไอ้เปรี้ยวหวานมันเก่งจริง ๆ นั่นแหละ มันได้เกียรตินิยมด้วยนะลุงทอง” ปราการพูดถึงเพื่อนรัก ด้วยน้ำเสียงโอ้อวด ทองมากมองหน้าหนุ่มรุ่นลูกก่อนจะหัวเราะ

“แล้วทำไมเอ็งไม่ไปเรียนกับมันล่ะวะ ไอ้ปั๋ง”

“เรียนยังไงล่ะคร้าบลุง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นะครับ ต้องสอบเข้า ไอ้จะมีเงินแล้วเดินเข้าไปเฉย ๆทำได้ที่ไหน ผมไม่เก่งเหมือนเปรี้ยวหวานมันนี่ เลยมาช่วยที่บ้านทำโรงสีกับทำนาดีกว่า ไม่อยากไปวุ่นวายในเมือง เรียนไปก็ปวดหัว” ปราการว่า

ยิ่งฟังคำของหนุ่มรุ่นลูกที่เป็นเพื่อนรัก เพื่อนสนิทกับบุตรสาวคนเล็กพูด เขาก็ยิ่งปลื้มในตัวเปรี้ยวหวาน หรือ พวงแสด ที่มีความมุ่งมั่น แถมเรียนแล้วก็กลับมาตั้งใจ ช่วยพัฒนาบ้านเกิด ด้วยความตั้งใจแรงกล้า ว่าจะช่วยให้คนในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น พวงแสดบอกกับเขาเลยว่า เธอจะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดให้ได้ และจะช่วยให้คนในหมู่บ้านมีความสุข ทองมากภูมิใจในตัวบุตรสาวคนเดียวมากนัก

“ข้าเองก็ภูมิใจในตัวไอ้เปรี้ยวหวานมันมาก ใครจะนึกว่าแก่นๆ ดื้อๆ แถมซนเป็นลิงอย่างมันจะมีความคิดที่ดี แบบนี้ หึ หึ”

“โหย…” ปราการหัวเราะก๊าก เมื่อฟังทองมากพูดถึงบุตรสาวคนเล็ก

“ไอ้เปรี้ยวหวานมันก็ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อยลุงทอง”

“อะไรกัน น้อยไปล่ะสิ” เมื่อได้นินทาลูกสาวคนโปรด ทองมากก็อดไม่ได้ ที่จะต่อเรื่องให้ยาวไปอีก

“มันยุ่งจะตาย ไอ้เปรี้ยวหวานน่ะ ซ่าก็ซ่า เฮ้อ... พ่อนั่นแหละเข้าข้างหลานดีนัก ไอ้เปรี้ยวหวานมันถึงกระโดกกระเดก ไม่เป็นผู้หญิงกับเขา ไปต่อยกับนักเลงช่วยเอ็ง มันก็ยังเคยทำมาแล้วไม่ใช่เหรอ ไอ้ปั๋ง หึ หึ ลูกสาวข้าน่ะ แถมปากจัดไม่มีใครเกิน”

เขาบ่นไปถึงทองอยู่ ผู้เป็นบิดา ที่ชอบเข้าข้างพวงแสด ทำอะไรแบบไม่ห้ามกันเลย ยุเสียด้วยซ้ำไป เพราะทองอยู่อยากได้หลานชาย พวงชมพูลูกสาวคนโตของเขาก็นุ่มหวาน เป็นกุลสตรีเกือบทุกกระเบียด ทองอยู่หวังมากว่าคนต่อมาจะเป็นหลานชาย เมื่อกลายเป็นพวงแสดไปเสีย ตอนแรกก็ผิดหวังนิดหน่อย แต่เมื่อหลานสาวคนเล็กห้าวจนเกือบจะเหมือนหลานชาย ทองอยู่เลยถูกใจมาก แถมสอนพวงแสดยิงปืน และวิชาการต่อสู้มวยไทยอีกต่างหาก จะไม่ให้ลูกสาวคนเล็กของเขาห้าวคราวนี้ ก็ไม่รู้จะห้าวกันคราวไหน

“มันเก่งกว่าผมอีก” ปราการหัวเราะ เมื่อนึกถึงเพื่อนรักหน้าหวานแต่ห้าวของตน

“พวกนั้นสามคนไอ้เปรี้ยวหวานคนเดียว พวกมันยังกระเจิงเลยลุงทอง”

“แล้วจะมีใครมากล้าจีบมันวะ”

ทองมากบ่น ยังไงลูกสาวก็คือลูกสาว เขาเองบางทีก็เหนื่อยใจ ที่พวงแสดเก่งและห้าวเกินหญิงไปค่อนข้างจะมาก

“อย่าว่าแต่ใครจะมาจีบมันเลยลุงทอง”

ปราการอมยิ้ม โบกหมวกในมือเล่น เขารู้จักนิสัยพวงแสดดี ชนิดมองตาก็รู้ใจกันเลยทีเดียว

“พี่ชมพูเองก็เถอะ งานนี้เตรียมคานไว้ได้เลย ไอ้เปรี้ยวหวานกลับมาอยู่บ้านแบบนี้ ใครมาจีบพี่ชมพู สงสัยมันจัดการเรียบ”

“เอ่อ...ข้าก็ว่าแบบนั้นแหละ”