บทที่ 3
"มาได้เวลาพอดีเลย แสนสวยกำลังจัดโต๊ะอาหาร จะได้ทานพร้อมกันเลย" อัปสรสุดาเดินออกไปรับลูกชาย โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้คนจัดโต๊ะอาหารได้เผ่นแนบไปแล้ว
"ไหนล่ะครับคนจัดโต๊ะอาหารของแม่" เข้ามาถึงก็เจอแต่กับข้าวและถ้วยชามที่จัดยังไม่เรียบร้อย
"เมื่อกี้ก็อยู่ตรงนี้นี่ หรือว่าจะรีบไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวแม่จัดต่อก็ได้..ลูกนั่งก่อนนะ" นางยอมรับว่าเลี้ยงลูกจนเสียคน จะเรียกว่าเสียคนก็ไม่ใช่ ลูกไม่ยอมให้ควบคุมอีกต่อไป ผู้เป็นแม่ก็เลยต้องได้ค่อยพูดค่อยจาแบบระมัดระวัง
ชายหนุ่มร่างหนาทิ้งก้นลงนั่ง รอว่าเธอจะกลับลงมาไหม เพราะตอนนี้สายตาของเขาเล็งไปชั้นบนแล้ว
"เดี๋ยวแม่ไปตามดีกว่า" พอนางจัดโต๊ะอาหารเสร็จ ก็ไม่เห็นว่าแสนสวยลงมา
"ไม่ต้องหรอกครับ ปล่อยให้อดไปเลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ทานข้าวแบบเอร็ดอร่อย
"อีกสองวันพ่อจะกลับมา ช่วงนี้ลูกก็กลับมานอนบ้านก่อนนะ" นางพูดในระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่
ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เพราะจะให้เขากลับมาเห็นหน้าเธอที่บ้านทุกวันคงเป็นไปไม่ได้ แค่เห็นที่บริษัทก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว
ทานข้าวเสร็จ พยัคฆราชก็ขึ้นไปบนห้อง ซึ่งห้องนอนของทั้งสองอยู่ตรงกันพอดี
ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง เขาได้มองไปห้องของเธอ แล้วหวนคิดถึงเรื่องที่ทำให้ทั้งสองขุ่นเคืองใจกันจนถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ..
"ฮ่าฮ่าฮ่า คนนี้เหรอคะยายที่ชื่อหมาน้อย"
"แสนสวย!!" ผู้เป็นยายต้องได้รีบห้ามปรามหลานไว้..แต่ก็ไม่ทัน
"เธอว่าใคร!" ถ้าเขาได้ยินใครเรียกชื่อหมาน้อย พยัคฆราชโมโหมาก แล้วตอนนี้ชื่อหมาน้อยเป็นชื่อต้องห้ามสำหรับบ้านหลังนี้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยขึ้นมาแม้กระทั่งแม่ของเขา
"เราเคยได้ยินคุณยายเล่าให้ฟังนี่ว่าแม่นายตั้งชื่อหมาน้อยตอนที่ไปคลอดอยู่โรงพยาบาลพร้อมกันกับเรา นายต้องเรียกเราว่าพี่นะ เพราะเราคลอดก่อนนายสองวัน" แสนสวยในวัยที่กำลังอยู่ชั้นประถม ซึ่งตอนนี้พยัคฆราชก็เรียนอยู่ชั้นประถมเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นเด็กก็เลยพูดตามสิ่งที่คิดออกมา ..และนี่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่พยัคฆราชไม่ชอบหน้าผู้หญิงคนนี้เอามากๆ
เขาถูกพ่อเลี้ยงมาแบบผู้นำ ให้ตัดสินใจแบบเด็ดขาด
"ฝันไปเถอะ!! เธอมาจากไหนก็กลับไปทางนั้น!" เด็กชายพยัคฆราชโมโหมากลุกขึ้นเขวี้ยงข้าวของใส่ และเขาก็จำผู้หญิงคนนี้มาตั้งแต่วันนั้น
ด้วยเหตุผลนี้แหละที่ยายของแสนสวยไม่พาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะเห็นท่าทางอันเกรี้ยวกราดของพยัคฆราชกลัวว่าหลานสาวจะไม่ปลอดภัย
แต่พอยายเสีย อัปสรสุดาก็เลยไม่กล้าปล่อยให้แสนสวยอยู่ข้างนอกคนเดียว จึงต้องพาเข้ามาไว้ในบ้านด้วย และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พยัคฆราชซึ่งโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ก็ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน
"หิววว" คนตัวเล็กนอนบิดแทบจะเป็นเกลียว เพราะตอนเที่ยงก็ทานข้าวแค่นิดเดียว ใครจะไปทานลงล่ะถูกเขาเล่นงานขนาดนั้น
เช้าวันต่อมา..
แกร้ก~ หญิงสาวซึ่งอยู่ในชุดเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงาน ค่อยๆ แง้มประตูออกมาดูว่าคนที่เป็นเจ้าของห้องตรงข้ามกัน..อยู่แถวนั้นไหม
"ปลอดภัย" ว่าแล้วแสนสวยก็ค่อยๆ ย่างกรายลงมาข้างล่างแบบระมัดระวังและระแวงว่าเขาจะยังอยู่ในบ้านหลังนี้
"เมื่อคืนนี้แม่นึกว่าหนูจะลงมาทานข้าว"
"คะ!!" ในขณะที่กำลังเสียวสันหลังอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงแม่ของเขาพูดขึ้น
"หนูเป็นอะไรแม่ตกใจหมดเลย"
"ปะ..เปล่าค่ะ เมื่อสักครู่คุณแม่พูดอะไรนะคะ"
"ก็แม่เตรียมอาหารไว้ให้นึกว่าหนูจะลงมาทาน"
"พอดีเมื่อวานนี้ ทานมาบ้างแล้วค่ะก็เลยไม่หิว" โกหกผู้มีพระคุณจะบาปไหมเนี่ย
"เดี๋ยวพยัคฆ์ก็คงลงมา รอทานข้าวเช้าพร้อมกันก่อนนะลูก แม่กำลังจัดเตรียมอาหาร"
"ยังไม่หิวเลยค่ะอิ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้..หนูไปนะคะ"
"ไปทานอะไรมาทำไมอิ่มได้นานจัง" อัปสรสุดาได้แต่มองตามหลังแสนสวยออกไป
"แม่พูดกับใครครับ" ชายหนุ่มลงมาได้ยินสิ่งที่แม่พูดพอดี
"แสนสวยน่ะสิลูก แม่ชวนกินข้าวเช้าด้วย บอกว่าอิ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว"
"หึ! ไม่เก่งจริงนี่หว่า"
"ลูกว่าอะไรนะ"
"เปล่าครับ..ผมไปนะ"
"ลูกไม่ทานข้าวกับแม่ก่อนเหรอ"
"ไม่ครับเดี๋ยวตามไม่ทัน.." ชายหนุ่มยังไม่เห็นประตูบ้านเปิด นั่นแสดงว่าเธอยังอยู่ตรงที่จอดรถ