บทที่ 6 เปิดศึก
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการแข่งขัน ที่นานิลรอคอยการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะบริหารและสถาปัตจบลงเป็นทีมคณะบริหารที่ทำคะแนนไป 5-4 ประตูเรียกได้ว่าเป็นคู่ที่ดุเดือดไม่แพ้คู่แชมป์อย่างคณะวิศวะ คณะของฉันเองแต่คนที่ทำประตูได้เยอะสุดน่าจะเป็นไอ้หน้าหล่อโรคจิตและแสนจะขี้เก๊กคนนั้นแหละ รู้ว่าเป็นคนที่ทำประตูได้แต่จำเป็นต้องเก๊กขนาดนี้ไหม คนไม่ชอบไม่ว่าจะมองตั้งแต่ปลายเท้าจรดหัวดำๆ ของนายนั้นก็คือไม่ชอบค่ะ
ด้านโรมพอการแข่งขันสิ้นสุดลงร่างสูงเดินมากระดกขวดน้ำที่ข้างสนาม สายตาคมปะทะกับยัยหมาบ้าที่จ้องหน้าตนอยู่นั้น
“อะแฮ่ม...จ้องขนาดนี้ ลากกลับคอนโดไปด้วยไหม กูเห็นนะคับไอ้เชี่ยโรมว่ามึงมองใคร” แทคิณที่นั่งเชียร์เพื่อนอยู่ข้างสนามถึงกับเดินไว้ไหล่เข้ามา
“กูมองใคร เชี่ยคิณมึงแม่งอย่าหาเรื่องสิ”
“อ้าวนี้มึงไม่ได้มองสาวสวยเบอร์ 8 หรอกหรือ ปัดโธ่ ไอ้เราก็คงเข้าใจผิด กูเห็นจ้องกันตั้งแต่ในสนามแล้ว เบอร์ 8 เสื้อคู่ก็มาแล้วสิคับ”
“สัสคิณมึงแม่งหาเรื่องวะ กูนินะมองยัยนั้น” ถึงจะมองก็เถอะยอมรับว่ามอง แต่ไม่มองเพราะพิศวาสแต่อยากเอาเรื่องคนต้นเหตุที่ทำให้ตนเจ็บมือต่างหาก โรมได้แต่คิด
ด้านนานิลที่โดนโรมเพ่งสายตาคมคู่ดุให้ตนเช่นนั้น รัศมีสายตาที่แผดเผามาฉันเลือกที่จะหันหลังดีกว่า ไม่ได้มองแค่นายนั้นคนเดียวและมองมาทั้งกลุ่มถึงจะมีแค่คนเบ้าหน้าดีแต่ก็ไม่ได้ชอบนะ
“เกล ฉันว่าเรากลับกันเถอะ” นานิลที่เห็นท่าทีสายตาที่หาเรื่องตนมือเรียวถึงกับจับเข้าที่แขนของเพื่อนสนิท แต่ขณะที่สองสาวกำลังเดินผ่านไปนั้น กับมีชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาเดินมาหยุดที่ตรงหน้าพวกฉัน
!! ตึก !! ฝีเท้าที่จะก้าวเดินทั้งสองสาวถึงกับชะงัก
“เบอร์ 8 ชื่อไรคับ นะน่ารักจัง” แต่นั้นคนที่ไม่รู้ตัวว่าตนใส่เสื้อเบอร์ 8 นั้นกับหน้านิ่ง
“ว่าไงคับ” โปรเกลที่ถูกหนุ่มรุ่นพี่คณะสถาปัตเดินมาดักหน้าถึงกับมือสะกิดที่เพื่อนให้นานิลนั้นรู้ต้ว
“ฉัน...เหรอ” นานิลชี้ที่ตัวเอง
“คับคนสวย...” ดรีมพี่ปีสี่หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมา และส่งให้กับสาวสวยตรงหน้า
“ถ้าไม่เป็นการรังเกียจพี่อยากรู้จักหนูจังเลย น้องชื่อไรคะ”
“นานิล ปี3 คณะวิศวะ ดรีมถ้านายอยากได้เบอร์เด็กฉันก็มานี้” เสียงของพี่เก๋เดินมาที่พวกฉัน ฉันได้แต่พยักหน้าและยิ้มบางๆ ให้กับผู้ชายคนนั้นและรีบเดินออกมา
!! ฟู่... !! เมื่อผ่านพวกผู้ชายพวกนั้นร่างบางถึงกับเป่าปากเพื่อระบายอารมณ์ที่มันอัดอั้น
“เกลแกเข้าใจใช่ไหม ที่ฉันไม่อยากให้ไลน์พวกนั้น” เพราะคนที่เข้ามาขอไลน์ฉันเมื่อครู่สักทั้งตัวเขาดูแบดไปไม่ใช่สเปคฉัน นานิลเอ่ยกับเพื่อนสนิทของเธอแต่ในจังหวะที่เดินออกจากขอบสนามทั้งสองสาวกับไม่รู้เลยว่ามีคนเดินตาม นานิลที่เดินมาคู่กับโปรเกลอยู่ดีๆ ทว่าด้วยรองเท้าเป็นแบบบูทสูงสีขาวสะดุดเข้ากับก้อนหินและพื้นหญ้าค่อนข้างแฉะ ร่างบางลื่นล้มไปกับสนามหญ้ารองเท้าบูทกระเด็นไปอีกทาง
“กรี๊ด...โอ้ย” นานิลล้มตัวนอนราบกับพื้น ซุ่มซ่ามอะไรอีกเนี้ยขายหน้าอับอายชะมัด
ด้านสี่หนุ่มที่เดินตามมาติดๆ เห็นทุกเหตุการณ์ ราม มอส แทคิณ ทั้งจะขำและสงสารแต่ด้วยมารยาทพวกเขาถึงกับขำไม่ออก
“หึ...แต่กับมีเพียงคนเดียวที่ ขำออกมา แต่นั้นก็ได้ยิน” นานิลจ้องคนที่ส่งเสียงออกมา เธอถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ด้วย ทั้งสองจ้องมองกัน
“ไง...แกล้งล้มแบบนี้ จะอ่อย...” น้ำเสียงไม่น่าฟังหลุดจากปากของโรม แต่นั่นทำเอาเพื่อนๆ ของเขา ราม โปรเกลถึงกับอึ้ง เพราะดูสีหน้าดูเหมือนว่าโรมจะสะใจมากกว่าสงสารสาวสวยที่ล้มนอนกับพื้น
“หืย...ไอ้โรคจิต” นานิลเองก็ไม่ปล่อยให้โรมมาว่าเธอเพียงฝ่ายเดียว ร่างบางลุกขึ้นยืนจ้องคนที่หาเรื่องตน ทำเอาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับงงงวยไปตามๆ กัน เชี่ยนี้มันไรวะ เอาซะกูมึนหมดรามได้แต่มือเกาหัวพี่ชายกับสาวสวยตรงหน้า ท่าจะไม่ดีแล้วสิ ปกติไอ้โรมเคยเปิดศึกกับสาวๆ ที่ไหน สายตาโรมปะทะกับนานิล
“ไง เก่งนักสิที่กล้าเปิดศึกกับฉัน” ทั้งสองจ้องมองกันด้วยสายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
“แล้วนายจะทำไม ไอ้โรคจิต” คำด่าของนานิลทำเอาสามหนุ่มถึงกับหน้าเหวอ เชี่ยไอ้โรมนี้นะโรคจิต มันไปเป็นโรคจิตตอนไหน พวกเขาอยากจะถามมันนัก
“คอยดูเถอะยัยหมาบ้า ฉันจะเอาเรื่องเธอให้ถึงที่สุด เตรียวตัวไว้เลย” โรมเอ่ยจบร่างสูงก็เดินออกไปจากสนาม
“เออมาเลย ไม่กลัวนักหรอก ไอ้โรคจิต ..” นานิลตะโกนตามหลังอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว เหอะคิดว่าตัวเองเป็นใคร นอกจากจะเก๊กแล้วนายนั้นยังนิสัยเสียอีก
“เกล แกเห็นท่าทีของไอ้โรคจิตนั้นยัง” ด้านคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างโปรเกลที่ถูกเพื่อนถามเช่นนั้นถึงกับทำหน้าตาไม่ถูก
“นิลแกพูดบ้าไรของแกนี้ฉันงงหมดแล้วนะ โรมเขาไปทำไรให้แก แกถึงได้โกรธเกลียด ประกาศตัวเป็นศัตรูของเขาแบบนั้น” แล้วแบบนี้ยัยนิลจะเอาไรไปสู้กับเขา
“ก็นายนั้นเป็นโรคจิตถ้ำมองพวกผู้หญิงไงละ” นานิลฉันที่จะปิดเรื่องน่าอายนี้เป็นความลับแต่สุดท้ายก็เก็บไว้ไม่ไหวอยู่ดี จากนั้นเธอก็เริ่มเล่า โปรเกลที่ได้ฟังจากปากเพื่อนสนิทถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปาก และทำสีหน้าสำนึกผิด
“เพราะฉันคนเดียวเลย โรมเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้” โปรเกลกับเพื่อนของเธอ
“หึ...ยังอีกแกยังเข้าข้างนายนั้น ทั้งที่จะเข้าห้องแบบนั้นต้องเคาะประตูไหม ถึงจะเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ก็เถอะ” โปรเกลที่ได้ฟังเช่นนั้นถึงกับเหวอ รอบที่สอง ห้องเก็บของใครจะเคาะประตูกันนี้ฉันงงกับยัยนิลแล้วนะ โปรเกลได้แต่คิด จากนั้นเมื่อทั้งสองสาวเปลี่ยนชุดเอาคืนรุ่นพี่แล้วก็พากันกลับไปยังคณะ
อีกด้านของโรมขณะที่ทั้งสี่หนุ่มเดินกลับคณะบริหารนั้น
“เชี่ยโรม ไงนานิลเธอกล่าวหาว่ามึงเป็นโรคจิตวะ” ด้านมอสที่อดสงสัยไม่ได้ถึงกับอยากเผือกเรื่องของเพื่อน
“ยัยหมาบ้านั้นเข้าใจผิดคิดว่า กูแอบมองเธอเปลี่ยนชุด เล่นกัดมือกูแทบขาดอย่างที่พวกมึงเห็นนี้ไง สมควรไหมละ” โรมไม่พูดเปล่าแต่กับยกมือข้างที่เจ็บให้กับเพื่อนๆ ดู
“ตอนแรกกูเห็นมึงจ้องเธอไม่อยู่ คิดว่ามึงสนใจ” รามเอ่ยด้วยสีหน้าสงสัย
“หึ...ปากจัด อวดเก่ง หมาบ้าอย่างยัยนั้นต่อให้แก้ผ้าต่อหน้าก็ฉุดอารมณ์กูไม่ขึ้น” โรมเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“เธอน่าจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่เปิดศึกกับมึง ศึกดวลไรหว่า...” มอสยังเล่นโรมไม่หยุด
“สัสมอสมึงเล่นไรดูหน้ามันด้วยคับ” รามเตือนสติเพื่อนที่เล่นไม่ดูอารมณ์โรมเอาเสียเลย ที่ตอนนี้โรมไม่สบอารมณ์สุดๆ เล่นอีกนิดไอ้มอสคงโดนมันอัดเข้าผนังห้อง