บทที่2.ปะทะ!......
มีแต่คนสงสารทิชากร แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าช่วย เสียงพร่ำบ่นมีแต่ความอิจฉา เพราะคนที่อุ้มทิชากรไปคือ เคลวินมาเฟียสถานบันเทิงผู้ร่ำรวย เขาหล่อ เขารวย เขาเพอร์เฟค ใครก็ตามที่ตกอยู่ใต้ร่างเขาจะได้ดื่มด่ำกับความหฤหรรษ์ที่ไม่อาจบรรยายได้ ไหนจะค่าตอบแทนหลังชายหนุ่มสมใจ มีเสียงร่ำลือมาปากต่อปากว่าจำนวนเงินมากโข จนสาวๆ ทั่วโลกแทบจะต่อคิวเข้าไปให้ชายหนุ่มเชยชิม แต่นักล่าอย่างเคลวินชอบหาเอาเองมากกว่า เขาพอใจก็จะสะกิดบอก จึงไม่แปลกหากชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้น ผู้หญิงทุกคนในบริเวณนั้นต่างพากันยั่วยวนเขาเต็มที่ แพราะอาจจะเป็นที่ต้องตาชายหนุ่ม มันเหมือนกับว่าถูกรางวัลล็อตโต้เลยทีเดียว เผลอๆ อาจจะเป็นแจคพ็อตเลยก็ได้
“ให้ผมช่วยไหมครับคุณเคลวิน”
หลุยส์อาสาทำหน้าที่แทน ระยะทางจากคลับไปจนถึงที่จอดรถยนต์ก็ไกลพอดู
“ไม่ต้องยุ่ง!!”
ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง เขากระชับร่างบอบบางแน่นขึ้น ดวงตาขุ่นขวางเพราะเกิดความไม่พอใจขึ้นมาแบบฉับพลัน
หลังนั่งในรถยนต์ส่วนตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มมองหน้าเนียนใสใกล้ๆ ผิวแก้มอมสีระเรื่อ มีเส้นเลือดฝาดกระจายตามพวงแก้มยุ้ยๆ มองดูน่ารักน่าใคร่ ปลายนิ้วแข็งแรงเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้า เขาเสยผมนุ่มๆ ทัดใบหูเล็กๆ พิจารณาวงหน้าใสตาไม่กะพริบ เธอไม่มีเครื่องสำอางอื่นใดบนหน้าหวานนั่น นอกจากลิปสติกมันที่เคลือบริมฝีปากนุ่มนิ่มและเขาสัมผัสไปแล้ว รสชาติหวานหอมชุ่มฉ่ำติดใจจนอยากจะประทับจูบอีกสักหลายๆ ครั้ง เคลวินเหมือนต้องมนต์สะกด เขาหลงใหลวงหน้าอ่อนเยาว์ เฝ้ามองไม่มีเบื่อหน่ายตลอดระยะการเดินทาง จุดหมายปลายทางไม่ใช่คอนโดหรูๆ กลางกรุงโรมอย่างที่ทุกคนคิด เพราะสถานที่นั้นๆ เป็นแหล่งที่ชายหนุ่มใช้จัดการกับคู่ควงทุกคน เวลานี้บอดี้การ์ดของเคลวินกำลังงงกับพฤติกรรมของเจ้านาย จุดหมายปลายทางที่เคลวินสั่งคือสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของชายหนุ่ม
วิลล่าซาเดโต้ตั้งอยู่ริม ‘แม่น้ำไทเบอร์’ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับที่สามของประเทศอิตาลี โดยมีต้นแม่น้ำอยู่ที่เทือกเขาแอเพนไนน์ในเอมีเลีย-โรมานยา โดยไหลผ่านอุมเบรียและลาซิโอไปยังปากแม่น้ำในทะเลเทียร์เรเนียน แม่น้ำไทเบอร์ไหลผ่านกรุงโรมที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออก และมีความยาวทั้งสิ้น 406 กิโลเมตร
ตัวตึกสีเหลืองอ่อนดูเด่นสะดุดตา และเป็นที่พักหวงห้ามของเคลวิน เขาชอบมานอนเล่นที่นี่ นอนผึ่งแดดรับสายลมอ่อนๆ ที่โชยขึ้นมาจากแม่น้ำตอนว่างงาน
รถยนต์วิ่งด้วยความเร็วคงที่เลี้ยวเข้าเขตรั้วของวิลล่า ร่างบอบบางในอ้อมแขนเริ่มขยับหยุกหยิก เหมือนกับว่าสติที่หายไปกลับคืนมา ทิชากรกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอผวาตื่นและรีบกระถดตัวลงจากหน้าตักแข็งๆ สายตากวาดมองรอบๆ ตัวด้วยความตื่นตระหนก
“มิสเตอร์! คุณจะพาฉันไปไหนคะ คุณกำลังทำผิดกฎหมาย โดยการพาคนที่ไม่ยินยอมไปในที่ที่เขาไม่ต้องการไป”
เสียงสั่นๆ บอก พยายามแนบลำตัวชิดกับประตูรถยนต์ด้านข้างมากขึ้น
เคลวินตวัดปลายขาขึ้นไขว่ห้าง เขาควานหาเครื่องดื่มจากตู้เย็นเล็กๆ และรินใส่แก้วโดยไม่คิดจะตอบให้อีกฝ่ายหายข้องใจ ทิชากรมองดูน้ำสีอำพันที่หายไปในลำคอเขา เธอกลัว!! กลัวจนฉี่แทบเล็ด เธอไม่เคยเจอสถานการณ์อะไรที่แฝงไปด้วยภัยคุกคามเช่นนี้มาก่อน รังสีอันตรายแผ่กระจายออกมาจากคนตัวหนา ใครๆ ก็พูดให้ฟังว่าอิทธิพลมืดในโรมมีมากมายเกลื่อนเมือง เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยผู้คน และกลุ่มอิทธิพลที่แฝงตัวมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับเขาแบบไม่ได้ตั้งตัว!!
“ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ นึกว่าสงสารลูกนกลูกกา!”
เสียงสั่นเครือวิงวอนเสียงพร่า หน้างดงามซีดลง ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ เธอภาวนาให้เขาสงสาร และปล่อยตัวเธอไปก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น สองมือของเธอยกขึ้นไหว้ชายหนุ่มปลกๆ
เคลวินเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง เขาปลดกระดุมเสื้อสูทและถอดสูทตัวนอกออก ก่อนจะวางไว้ข้างๆ ตัว ถลกปลายแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก หรี่ตามองคนตัวเล็กเบื้องหน้าที่พยายามเบียดตัวกับขอบประตูมากขึ้นกว่าเก่า
“เหรอ เธอไม่เต็มใจ อีตอนอุ้มมาไม่เห็นจะขัดขืนนี่ ฉันมีพยานตั้งหลายคน ว่าเธอ...สมยอม!!”