6
เหมือนว่าโชติกาจะมาสมานรอยร้าวนั้นได้ แต่แล้วในที่สุด แก้วที่ร้าวก็ไม่อาจจะประสาน กลับแตกร้าวไปจนได้ ทั้งคู่แยกทางกัน นพพลไปเปิดกิจการที่ออสเตรเลีย ส่วนชายิกายังคงอยู่ที่เมืองไทย
แม้จะเป็นเพียงลูกบุญธรรม แถมทั้งนพพลและชายิกาจะเลิกร้างกันไปในที่สุด แต่โชติกาก็ไม่ได้มีปมด้อยอะไรในเรื่องความอบอุ่นของครอบครัว ท่านทั้งสองรักเธอมาก และตัวเธอเองก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้ดี โชติกาเป็นลูกสาวที่ไม่เคยทำให้ท่านทั้งสองเสียใจเลยแม้แต่หนเดียว จะมีแต่ก็เพียงเรื่องเดียวในตอนนี้ที่นพพลแอบหนักใจ แล้วก็เป็นเหตุผลอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ส่งบุตรสาวกลับมายังเมืองไทย นั่นก็คือเรื่อง ‘คู่ครอง’
ดูเหมือนว่าลูกสาวสุดที่รัก จะไม่รู้ถึงเหตุผลอันซ่อนไว้เลยแม้แต่น้อย แต่นพพลและชายิกาเองรู้กันอยู่สองคน ว่าแม่ลูกสาวกลับมาเมืองไทยหนนี้ นอกจากจะกลับมาหาชายิกาแล้ว ยังจะโดนวางแผนให้กลับมาเลือกคู่อีกด้วย นพพลเห็นว่าเป็นเวลาสมควรที่บุตรสาวจะได้เลือกคู่ครองได้แล้ว แต่โชติกาก็ทำแต่งาน และไม่เคยมีเดตกับหนุ่มๆ รายไหนเลยสักที เขาเลยอยากจะเล่นบทเทพอุ้มสมให้กับลูกสาวคนสวยเสียเอง ด้วยการผูกสัมพันธ์ให้กับลูกชายของเพื่อนสนิท ซึ่งดูจากคุณสมบัติที่แสนดีพร้อมแล้ว ก็ไว้วางใจได้ว่า โชติกาต้องมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขแน่ๆ
ถึงเมืองไทยแล้ว โทรศัพท์หาพ่อด้วยนะหนูแซนตี้ พ่อมีธุระจะรบกวน
ข้อความต่อมาทำให้โชติกายิ้มน้อยๆ ออกมาได้แล้วก็อารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง เมื่อนึกถึงบิดาเธอคงจะคิดถึงท่านไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะคลุกคลีอยู่ด้วยกันมากกว่าชายิกา ที่เคยบ่นว่าลูกสาวรักพ่อมากกว่าแม่ ถึงได้เลือกจะมาอยู่กับพ่อมากกว่า แต่เธอรู้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไรถึงเลือกจะมาอยู่กับนพพล เธอเป็นห่วงท่านมากนั่นเอง การเลิกรากันนั้น นพพลเจ็บปวดมากยิ่งกว่าชายิกา และเธอก็อยากจะเห็นท่านมีครอบครัวใหม่ที่มีความสุข จึงตามมาอยู่กับท่านด้วยเพื่อคอยดูแล แต่เมื่อไว้วางใจได้แล้วว่านพพลมีความสุขกับชีวิตครอบครัวตอนนี้มาก โชติกาก็อุ่นใจไปได้มากเลยทีเดียว
คงจะเหลือแต่มารดา ที่เธออยากจะรู้เห็นกับตาและพิสูจน์ว่าท่านเองก็เริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ได้อย่างมีความสุขแล้ว เธอก็จะวางใจ และค่อยเลือกทางชีวิตในสิ่งที่เธอชอบ อาจจะกลับไปช่วยกิจการของบิดา หรือว่าหาอะไรทำที่เมืองไทย ก็ค่อยว่ากันอีกที
เธอคิดถึงเมืองไทยมากนัก เพราะครั้งหลังสุดที่กลับเมืองไทยก็เกือบสองปีแล้ว นอกนั้นเป็นมารดาที่เป็นฝ่ายมาเยี่ยมเธอ ที่ออสเตรเลีย ความตื่นเต้นที่จะได้กลับบ้านเกิดลดลงเกือบครึ่ง เมื่อรู้ว่าใครจะมารับเธอที่สนามบินเป็นคนแรก
นี่ถ้าเพื่อนรักไม่ติดธุระแล้วล่ะก็ เธอจะไม่รบกวนเขาเลยเด็ดขาด แค่คิดก็หงุดหงิดหัวใจแล้ว ว่าคนๆ แรกที่เธอจะต้องเจอหน้าเมื่อเหยียบแผ่นดินบ้านเกิดคืออดีตอริ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน ใบหน้าหวานนั้นก็บึ้งตึงขึ้นมาอีกหน ก่อนจะถอนใจแรงๆ แล้วหลับตาลงเสียดื้อๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอจะได้เจอคนที่พยายามหลบหน้าและไม่อยากเจอมากที่สุดอย่างเศรษฐ์สัณฑ์แล้ว เฮ้อ...จะดีใจหรือจะเสียใจดีนะเนี่ย
.......
เศรษฐ์สัณฑ์มองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะมองสลับไปยังจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่บอกเที่ยวบินที่กำลังมาถึง แล้วถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ปรกติแล้วการรอคอยสำหรับเขามันไม่น่าเบื่อมากขนาดนี้ แต่อาจจะเพราะเขากำลังรอคนบางคนที่ไม่ชอบหน้าอย่างมากอยู่ก็ได้
เพียงแค่คิดถึงหน้าของเธอแล้วหัวใจมันก็หงุดหงิดขึ้นมาเลยทันที แม่สาวผมเปียจอมเชิดคนเดิม จะเป็นอย่างไรบ้างแล้วนะ เศรษฐ์สัณฑ์อดคิดอย่างเหยียดๆ ในใจไม่ได้ เขาไม่ได้เจอเจ้าหล่อนมาเกือบสิบปีแล้วสินะ ไม่รู้ว่าป่านนี้จากสาวหน้าหวานน่ารัก จะกลายเป็นแบบไหนกัน คงจะเป็นป้าแก่แน่นอน เพราะอายุเฉียดสามสิบเข้าแล้วแบบนั้น แถมยังขึ้นคานไม่มีคนแลอีก
ชายหนุ่มคิดอย่างเหยียดๆ มองอีกฝ่ายแทบจะไม่มีส่วนดีไว้ก่อน ตามประสาคนไม่ชอบขี้หน้ากัน เศรษฐ์สัณฑ์ได้ยินข่าวของโชติกาบ่อยๆ จากบิดาและมารดาที่มักจะมาเล่าให้เขาฟัง แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าเจ้าหล่อนจะมีแฟนกับเขาเลยสักที มีผู้หญิงที่ตอนสาวๆ หน้าตาน่ารัก แต่พออายุขึ้นเลขสองปลายๆ ไปแล้วหน้าตาแย่ลงก็มี เขาประมาณโชติกาไว้ว่าเป็นแบบนั้น หรือไม่ก็นิสัยแย่จนเหลือทนถึงได้ไม่มีหนุ่มๆ เคียงข้างเลยสักคน กลายเป็นสาวเทื้อจนจะสามสิบอยู่แบบนั้น
ผู้โดยสารขาเข้าจากไฟลท์บินที่เขากำลังรอคอย กำลังทยอยกันเดินทางออกมา สายตาของเขามองจับจ้องไปยังผู้คนที่เดินทางออกมาแล้วอดรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ไม่ได้ แม้จะไม่อยากมารับคนที่กลับมาถึงเมืองไทยในวันนี้เลยสักนิด แต่ก็อดอยากเห็นหน้าตาของคู่กัดไม่ได้ อยากรู้ว่าเวลาที่ผ่านไปหลายปี จะทำให้โชติกาเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน
นัยน์ตาคมกริบมองกวาดไปยังหญิงสาวหลายต่อหลายคน ที่เดินออกมาจากบริเวณผู้โดยสารขาออก มีบางคนที่เขาคาดเดาว่าน่าจะเป็นโชติกา แต่เมื่อมองดีๆ แล้วก็ตกลงใจว่าไม่ใช่ จึงยืนนิ่งรอคอยอยู่ตรงนั้น อาของเขาคงจะส่งข่าวบอกเธอแล้วว่าเขามารอรับ จะอย่างไรแล้วโชติกาน่าจะจำเขาได้ เพราะเขายังคงหน้าตาดี หล่อคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง พ่อหนุ่มร้ายคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง ตามประสาคนหลงตัวเองนิดๆ
คนแล้วคนเล่า ก็ไม่น่าจะใช่ญาติผู้น้องของเขาสักที แล้วเศรษฐ์สัณฑ์ก็ชักจะเพลินในการมองสาวๆ สวยๆ ต่างชาติต่างภาษาไปเสียแล้ว แทบจะเลือนเจตนารมณ์เดิม ว่าเขากำลังมองหาโชติกาอยู่ นัยน์ตาคมปลาบมองคนนั้นคนนี้อย่างเพลิดเพลินแต่แล้วก็ต้องสะดุดกึก เมื่อเห็นร่างบางเล็กเดินเอื่อยๆ เข็นกระเป๋าออกมา เจ้าหล่อนเป็นสาวตัวเล็ก สูงน่าจะไม่เกินร้อยหกสิบ แต่หุ่นดี ดูกลมกลึงไปทั้งเนื้อทั้งตัว อยู่ในชุดเสื้อผ้าง่ายๆ เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม กับกางเกงยีนขาเดฟสีซีด รองเท้าส้นสูงแบบคัชชูสีดำ ใบหน้านวลนั้นดึงดูดสายตาจากชายหนุ่มไว้ได้มากที่สุด เพราะรูปหน้ารูปหัวใจ นัยน์ตาโตใสเหมือนตากวาง จมูกโด่งปลายรั้น ปากอิ่มจิ้มลิ้ม ดูหวานน่ารักน่ามองยิ่งนัก จนเขาถอนสายตาแทบไม่ขึ้น อะไรบางอย่างในวงหน้านวลนั้นคุ้นตาอย่างประหลาด แต่ความหวานฉ่ำของเจ้าหล่อนก็ทำให้เศรษฐ์สัณฑ์ต้องมองตาค้าง เขายืนมองนิ่งอยู่แบบนั้น อย่างลืมตัว เผลออ้าปากค้างเสียด้วย กับภาพของเทพธิดาตกสวรรค์ที่เห็นตรงหน้า
แม่เทพธิดาเดินดินหันขวับมาทางเขา นัยน์ตาใสกระจ่างเหมือนตากวางเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าเขา ก่อนที่ใบหน้าหวานนั้นจะชักสีหน้าบึ้งตึงไปเลยทันที แล้วเดินก้าวยาวๆ ตรงมายังเศรษฐ์สัณฑ์ ที่ยังคงมองจับจ้องที่เธออย่างเผลอตัว
“สวัสดีค่ะ”