บทที่1.จุดเปลี่ยนของลูคัส 4/5
“ไปจากที่นี่สะ!! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ในเมื่อแกเรียนจบแล้วนี่ แกจะอยู่รอส่วนบุญอะไรจากเราอีก!!”
เสียงเกรี้ยวกราดเต็มไปด้วยความเกลียด เอรินทร์ยิ้มกร่อยๆ เธอคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาออกไปเร่ร่อนด้านนอก ดีกว่าอยู่ให้ถูกถากถาง...
“ใช่...เธอไม่มีวันได้อะไรจากแด๊ด...หากฉันยังอยู่”
วิคตอเลียถอดเค้าโครงมาจากมาดามเคเรียทุกกะผีก ไม่เว้นแม้แต่นิสัยใจคอ ความเกลียดชังในตัวเธอจึงมีไม่ใช่น้อย
“ค่ะ...” เอรินทร์ก้มหน้ารับคำ เธอจนทางแต่ไม่จนใจ
“มัมคะ!!” พี่สาวที่ยังพอมีความเมตตากับเธอบ้างคงไม่พ้นเฮนน่า เธอเป็นพี่สาวคนเดียวที่คิดว่าเอรินทร์เป็นน้อง
“หุบปากไปเลยเฮนน่า...ฉันเกลียดแม่มัน และไม่มีวันให้อภัยมันสองคนแม่ลูก...ผู้หญิงสกปรกน่ารังเกียจนั่น ยอมทอดกายให้ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วเชยชมเพราะหวังสบาย...ทุเรศสิ้นดี!!”
นางตวาดเสียงกร้าว ด่าทอเอมิกาแม้หล่อนจะลาโลกไปแล้ว แต่ความทรงจำของมาดามเคเรียไม่มีวันลืม ผู้หญิงคนนั้นทำให้สามีนางผิดคำพูด หล่อนยั่วยวนคลอลินจนเขาหลงจนหัวปักหัวปำ ยอมแม้กระทั่งผิดใจนาง เพื่ออุ้มชูสองแม่ลูกนั่น!!
“ยังไงเอมก็เป็นน้องเฮนน่าจะปล่อยออกไปอยู่ข้างนอกได้ยังไงคะ บ้านเราก็ออกจะหลังใหญ่ แค่เอมคนเดียวคงไม่หมดเปลืองสักเท่าไร”
หญิงสาวพยายามค้านคนเป็นแม่ เวทนาน้องสาวจับใจ เพราะเอรินทร์ถูกมารดาของเธอกดขี่มาตลอด...ตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ ทุกคนรู้เห็น... แต่ไม่สามารถยื่นมือมาช่วยได้ เพราะมันยิ่งจะทำให้เอรินทร์ถูกกระทำมากขึ้น ขนาดบิดายังไม่สามารถ แล้วใครล่ะจะช่วยเอรินทร์ได้
“ฉันโยนอาหารให้สุนัขกินยังมีประโยชน์เสียกว่า ให้คนที่ไม่สำนึกบุญคุณกิน กินบนเรือนขี้บนหลังคา แม่มันทำได้ แล้วทำไมลูกมันจะไม่ทำ เมื่อสันดานมันเหมือนกัน!!”
หญิงสาวก้มหน้าทนฟัง เธอกำมือแน่นจนเล็บกดลงไปในผิวเนื้อ มันไม่เจ็บแต่มันชา...
“เอมจะไปค่ะ แต่ขอล่ะ... อย่าด่าแม่เอมเลย...แม่เอมไม่ผิด แด๊ดกับแม่รักกัน”
เอมรินทร์ตอบเสียงเครือ ขนาดมารดาเป็นแค่เถ้ากระดูก มาดามเคเรียก็ยังงัดออกมาเสียดสี ความเกลียดของนางไม่เคยลดทอนลง มีแต่เพิ่มขึ้นจนน่าวิตก
คำตอบซื่อๆ แต่กระแทกใจมาดามเคเรียจังๆ ความจริงที่นางทำปิดหูปิดตาไม่อยากรับรู้ สามีปันใจให้ผู้หญิงชั้นต่ำ แถมยังมีสายใยรักเป็นหนามตำใจนาง แบบนี้จะไม่ให้นางเกลียดลูกสาวของผู้หญิงเพศยาคนนั้นได้ยังไง
“รักกัน!! ฉันอยากหัวเราะ ถ้าหาก... คลอลินไม่มีเงิน แม่แกจะเอาไหมล่ะ แค่ผู้ชายแก่ๆ ไร้น้ำยาคนหนึ่ง”
นางแดกดันซ้ำ ผู้ชายไร้น้ำยาที่นางพูดถึง มีมารหัวขนมานั่งขวางตานางอยู่นี่ไง ความอัปยศที่ทำให้นางรู้... ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคน มักมาก และไม่รู้จักพอ!!
หญิงสาวจนคำตอบ เธอรู้ป่วยการเถียง เมื่อเธอไม่มีวันชนะ สู้ยอมถอยออกมา เพื่อให้บิดาได้มีความสุข ไม่ร้อนหูเพราะเธอดีกว่า
เอรินทร์สะดุ้ง!! เมื่อโทรศัพท์ส่วนตัวสั่นเตือน หญิงสาวสอดมือลงไปในกระเป๋าสะพาย ล้วงโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบอภินันทนาการจากเฮนน่าพี่สาวออกมากดรับ รอยยิ้มแต้มมุมปากเมื่อคนที่โทรศัพท์มา คือคนที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ให้เธอนั่นเอง...
“สวัสดีค่ะพี่เฮนน่า...ลมอะไรหอบมาคะ?”
“ลมคิดถึง... เราหายหัวไปเลยนะเอม ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ!!”
เสียงหวานแต่ออกจะเข้มนิดๆ เพราะเจ้าตัวหงุดหงิดที่ติดต่อน้องสาวคนสวยไม่ได้
“อยู่ ‘โรม’ ค่ะ เอาผู้ชายหล่อๆ สักคนไหมคะพี่เฮนน่า เดี๋ยวเอมยัดใส่กระเป๋าไปฝากสักคน” หญิงสาวตอบเสียงสดใส เฮนน่าเป็นคนเดียวในหมู่พี่น้องที่ยังไม่มีคนข้างกาย เมื่อเธอเอาแต่ทำงาน แทบจะเป็นมือเป็นเท้าแทนคลอลิน แทนที่จะเป็นคลากส์พี่ชาย...
“โรม!! เดี๋ยวนี้ปารีสเพรสเขาส่งนักข่าวผู้หญิงไปไกลถึงโรมเชียวหรือ...แบบนี้ไม่ไหวนะ อันตรายทั้งนั้น แต่ละคนที่ขึ้นหน้าหนึ่งปารีสเพรส พี่เห็นมีแต่คนเจ้าชู้ ตัวอันตรายทั้งนั้นเลย...ระวังตัวด้วยนะเอม...เราน่ะไม่มีวันตามทันเล่ห์ผู้ชายหรอก” สาวหัวโบราณเอ่ยเตือน บ่นยาวเหยียดเรื่องความไม่สมควรที่หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ส่งผู้หญิงไปทำงานไกลๆ แบบเสี่ยงๆ