บทที่1.จุดเปลี่ยนของลูคัส 5/5
“เอมเป็นแค่...ผู้ช่วยเองค่ะ เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ” หญิงสาวแย้งเสียงอ่อย
“ก็เราน่ะมันรั้น พี่ให้มาทำงานที่บริษัทก็ไม่มา” บาร์วคอมโพสิตมีตำแหน่งว่างมากมาย แต่กลับปล่อยให้บุตรสาวคนเล็ก ออกไปเร่ร่อนหางานทำที่อื่น ไม่มีคนภายนอกรับรู้... แต่ทุกคนในครอบครัวรู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดี
เอรินทร์ไม่เถียงต่อ เธอรู้ว่าเฮนน่ารู้ดี การที่เธอไม่อยากอยู่ใต้ปีกบาร์วเพราะอะไร?
“ช่างเถอะ!! มันเป็นความต้องการของเธอนะเอม ว่าแต่...จะกลับเมื่อไร พี่อยากเห็นหน้าเธอ แด๊ดด้วย”
เฮนน่ากับคลอลินเป็นคนสองคนที่มอบความรักให้เธอเสมอมา ความห่วงใยที่ทั้งสองมอบให้ ทำให้เอรินทร์เข้มแข็งจวบทุกวันนี้...หญิงสาวน้ำตาซึม เธอตอบกลับเสียงสั่นเครือ “อีก3 วันค่ะ เอมจะเกี่ยวผู้ชายหล่อๆ ไปฝากพี่เฮนน่าสักคน... สัญญา”
คำพูดล้อเล่นในวันนี้ ในอนาคต เอรินทร์กับเฮนน่า ต้องเจอ... เป็นความลำบากใจที่หญิงสาวนึกไม่ถึง เพราะคนๆ เดียวนั้น พกพาความแค้นมาเต็มหัวใจ เขาไม่สนใจว่าใครจะเกี่ยวข้องหรือไม่!! ความต้องการหนึ่งเดียว คือชัยชนะ!!
หลังวางสายเมื่อคุยเรื่อยเปื่อยกับเฮนน่าจนพอใจ เอรินทร์ก็เดินท่อมๆ บนถนนติดชายแม่น้ำต่อ บรรยากาศริมน้ำกับสายลมเย็นๆ ทำให้หญิงสาวคลายความเหนื่อยล้าลงไปได้บ้าง...แม่น้ำไทเบอร์ กับโรม เป็นสถานที่ที่เอรินทร์ใฝ่ฝันถึง...มันอาจจะเป็นเพราะผู้ชายนัยน์ตาคมของคนนั้นก็ได้ ใครๆ ก็ว่านัยน์ตาของลูคัสชวนฝัน มันแพรวพราวเหมือนท้องนภายามอรุณรุ่ง สีฟ้าในนัยน์ตาคู่นั้นคือความทรงพลัง แต่...เอรินทร์เป็นคนเดียวที่เห็นต่าง เธอมองเห็นความชิงชังที่กัดกินแววตาของเขา ความเกลียดที่ผลักดันทำให้ลูคัสก้าวมายืนตรงจุดนี้ได้...
ผู้ชายคนเดิม...ที่เธอเคยชื่นชม จนณ. ปัจจุบัน...ความนิยมชมชื่นก็ยังมีเหมือนเก่า...เพียงแต่ ระหว่างเธอกับลูคัส คงเป็นได้แค่คนที่แอบมองอยู่ไกลๆ เพราะผู้ชายคนนั้นสาปส่ง!! เขาเกลียดบาร์วทุกคน...และคงไม่เว้นเธอด้วย
เรื่องกลเกมทางธุรกิจ เอรินทร์ไม่ใคร่รู้ เธอแค่เคยแอบได้ยินบิดา... ทุ่มเถียงกับมาดามเคเรีย ผู้หญิงคนนั้นใช้วิธีสกปรกบางอย่าง...ร่วมมือกับคลากส์พี่ชายของเธอ จนทำให้ครอบครัวของลูคัสถึงกับล่มสลาย เธอเห็นใจ...ชายหนุ่ม แต่ก็เหมือนเช่นเดิม เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก...เพราะแม้แต่ตัวเองยังต้องหนีอำนาจของมาดามเคเรียหัวซุกซุน...
“คุณโชคดีค่ะ...ลูคัสที่คุณสามารถกลับมายืนในที่ๆ เดิมได้ ขอให้คุณโชคดีตลอดไปนะคะ”
หญิงสาวรำพัน เธอยืนมองริ้วคลื่นยามเมื่อสายลมพัดผ่าน ระลอกคลื่นลูกแล้วลูกเล่า...สาดซัดเข้าหาฝั่งและผิวน้ำก็กลับไปราบเรียบเช่นเดิม เมื่อไม่มีกระแสลม...
“กลับที่พักได้แล้วเอม...มายืนเหม่อทำไม? กลับๆ”
มันเป็นความรู้สึกลึกๆ ที่เกิดขึ้น มันฝังลึกเสียจนอยากที่จะถอดถอน...ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ เป็นได้แค่ลูคัสคนเดียว มันมีความผูกพันลึกๆ มันอาจจะเป็นเพราะเธอเฝ้าติดตามเขามานานหลายปี...
เอรินทร์แวะซื้ออาหารกล่องติดมือมาด้วย ถึงจะมีเงินในบัญชีเป็นจำนวนมาก แต่หญิงสาวก็ประหยัดจนชิน เธอกินเพื่อความอยู่รอด นานๆ ครั้งถึงจะลุกขึ้นมาฟุ่มเฟือยบ้าง แต่ไม่บ่อย จนใครๆ รอบตัวก็คิดว่าเธอจนกร็อบ หนุ่มๆ ในสำนักงานไม่มีใครเหลือบมองเธอสักคน สายตาทุกคู่มองผ่านเธอไป แต่...เอรินทร์ก็ชอบ เธอไม่อยากให้ทุกคนรู้สิ่งที่เธอปิดบังไว้ เมื่อวันแรกที่เธอเริ่มงาน มีแต่คำถาม “เธอใช้นามสกุล ‘บาร์ว’ เป็นอะไรกับตระกูลนั้นเหรอ?”
และเอรินทร์ก็ตอบปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด “ไม่ค่ะ อาจจะเสียงพ้อง เอมแน่ใจ...เอมไม่เคยรู้จักพวกเขา” เธอพูดปด แต่ไม่มีใครรู้นี่
“ก็ว่างั้นแหละ พวกเขารวยจะตาย หากเธอเป็นญาติ คงไม่ต้องมาหางานทำที่อื่น เมื่อที่นั่นน่าจะมีตำแหน่งดีๆ ให้คนในครอบครัวทำ”