บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 องค์หญิงแคว้นหาน

ตอนที่ 5

“ท่านราชครู ฮองเฮาทรงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า”

ลู่หลินที่ยืนรอดักพบราชครูเพ่ยเจิน จนฝ่าบาทว่าราชการเสร็จ รีบเข้ามารายงานทันทีที่บุรุษวัยกลางคนอยู่เพียงลำพัง

“ทรงมีธุระสำคัญหรือไม่”

เพ่ยจือคิ้วย่นเข้าหากัน หากไม่มีการด่วนอันใด เขาไม่อยากพบหน้ากับหญิงสาวในอดีต ที่เขามอบกายถวายหัวใจให้ เพียงแต่ไม่ได้รับใจของนางคืนมา เพราะว่านางนั้นได้มอบตัวมอบใจให้กับบุรุษที่ตอนนี้อยู่เหนือคนทั้งปวงไปแล้ว ที่ไม่อยากพบ เพราะเกรงว่าจะมีพวกปากหอยปากปู นำเรื่องนี้ไปซุบซิบนินทาจนเรื่องอาจจะไประคายหูของฝ่าบาทได้

“ท่านไปพบเสียหน่อยเถิด ท่าทีของฮองเฮาทรงกระวนกระวายใจมาก” ลู่หลินมองอาจารย์ที่เป็นคนส่งตนเข้ามาอยู่รับใช้และคุ้มครองฮองเฮาตั้งแต่สมัยเป็นพระสนมเอก นัยน์ตาของนางที่มองเขาเต็มไปด้วยความเทิดทูน และมีความรู้สึกบางอย่างที่มากไปกว่านั้นด้วย แต่นางรู้ตัวดีว่าไม่ควรแสดงมันออกมาให้อาจารย์รู้

ราชครูเพ่ยจือไม่มีทางบ่ายเบี่ยงได้อีก จึงยอมตามนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮา ไปจนถึงสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ที่นั่น สตรีที่มิอาจเอื้อมถึงได้อีกกำลังประนั่งรออยู่ในศาลาไม้ ที่สร้างได้วิจิตรตระการตายิ่งนัก

“ถวายบังคมฮองเฮา ขอทรงพระเจริญพันปี พันพันปี” เพ่ยจือสองมือประสานอยู่ด้านหน้า ศีรษะก้มลงคำนับ

“มาแล้วหรือท่านพี่ นั่งลงดื่มชากันหน่อยเถิด”

ฮองเฮาฮุ่ยหลิน ร้องทักบุรุษที่นางคิดว่าเป็นพี่ชายผู้แสนดี ด้วยความดีพระทัย ที่เขายอมมาพบหน้านางจนได้

“กระหม่อมมิบังอาจ” สายตาของเขายังคงทอดมองไปที่พื้นด้านล่าง หาได้อาจเอื้อมมองมารดาของแผ่นดินแคว้นฉินไม่

“เวลานี้ไม่มีผู้อื่นอยู่ ท่านอย่าทำเหมือนข้าเป็นคนอื่นคนไกลเลย” พระสุรเสียงเต็มไปด้วยความตัดพ้อ

“ที่กระหม่อมทำไป เพื่อพระเกียรติของฮองเฮาเอง อย่าทรงทำให้กระหม่อมหนักใจเลย”

ฮองเฮาฮุ่ยหลินทอดถอนใจออกมา คิดย้อนไปถึงอดีต ที่มีความสุขด้วยกันสามคน เพ่ยจือ ฮ่องเต้ และก็นาง แต่ว่าความสุขเมื่อครั้งวันวานมิอาจเรียกคืนมาได้อีก เมื่อนางเลือกที่จะเป็นผู้หญิงของฮ่องเต้ เพ่ยจือก็เปลี่ยนไป ไม่มีรอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกเลย

“ท่านพี่ ท่านทำให้ข้ารู้สึกว่าตนเองผิดและเห็นแก่ตัว ที่ขอคำมั่นสัญญาจากท่าน ให้ดูแลและอยู่เคียงข้างสวามีและโอรสของข้า ข้ามันเห็นแก่ตัวมากใช่หรือไม่”

“ฮองเฮาขอทรงอย่าคิดมากเรื่องอดีตหรือคำมั่นสัญญาอีกเลย กระหม่อมเต็มใจที่จะทำตามคำสัญญาเอง” เพ่ยจือได้ยินแววสั่นเครือในพระสุรเสียงของฮองเฮา น้ำเสียงของเขาจึงอ่อนลงมาก “ที่เรียกกระหม่อมมาพบมีเรื่องอันใดเร่งด่วนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ของที่ข้าฝากให้ท่านดูแลเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่ต้องทรงห่วงพ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเติบโตไปได้ด้วยดี”

บุรุษวัยกลางคน ยอมเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับฮองเฮา ต่างฝ่ายต่างเข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อออกมาเป็นอย่างดี

มารดาของแคว้นฉินยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก ขอเพียงรู้ว่าสิ่งที่ฝากฝังปลอดภัยดี เท่านี้ก็คลายความกังวลลงไปมาก...

แคว้นหาน

“จะทำแบบนี้อีกแล้วหรือเพคะ”

“ใช่นะสิ คืนนี้มีงานเทศกาลลอยโคมไฟด้วย เสด็จพ่อยังทรงพระกรุณาให้ทหาร นางในออกไปเที่ยวนอกวังได้เลย”

“แต่มิใช่กับองค์หญิง ฮองเฮามิทรงยินยอมแน่”

“อย่าบอกเสด็จแม่สิ ใช้แผนเดิมของเราก็ได้”

“แต่ถ้าหากถูกจับได้ หม่อมฉันอาจมีโทษถึงตายได้นะเพคะ”

เสียงโต้เถียงกันของหญิงสาวต่างวัย ดังขึ้นภายในห้องบรรทมกว้าง โดยมีเด็กหญิงอีกหนึ่งนางนั่งมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที

“ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าถูกทำโทษหรอก”

เด็กหญิงในวัย 8 ชันษายกมือกอดอก กล่าวออกมาด้วยความขุ่นเคือง ที่ถูกพี่เลี้ยงขัดใจห้ามไม่ให้ออกไปนอกวังอีก ใบหน้าที่เริ่มปรากฏเค้าความงามงอง้ำ

“แต่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิง หม่อมฉันจะทำอย่างไรเพคะ” นางกำนัลที่ทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยงขององค์หญิงพยายามทัดทาน น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเหนื่อยล้าใจเป็นอย่างมาก กับความดื้อรั้น ชอบหนีออกไปเที่ยวนอกวังอยู่เป็นประจำขององค์หญิง

“ออกไปทุกครั้งก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นนี้”

‘เสิ่นไป๋หลิง’ พระธิดาองค์เล็กของฮ่องเต้เสิ่นกับฮองเฮา มีหรือจะยอมฟังคำทัดทานของพระพี่เลี้ยง เพราะเด็กหญิงแอบออกนอกวัง เกือบร้อยรอบแล้วก็ว่าได้ และครั้งนี้ยิ่งมีงานเทศกาลด้วยแล้ว ย่อมไม่มีใครมาขัดขวางความตั้งใจของเด็กหญิงได้

“องค์หญิง” น้ำเสียงของพระพี่เลี้ยงพยายามอ้อนวอนสุดชีวิต

“ยางยาง หากเจ้าไม่ไป ข้าไปเอง...ฝูหรงรีบเปลี่ยนชุดกัน”

องค์หญิงตัวน้อยเลิกสนใจพระพี่เลี้ยง หันมาสนใจเด็กหญิงที่มีอายุไล่เลี่ยกัน

‘ฉู่ฝูหรง’ เด็กหญิงที่ถูกคัดเลือกมา ให้เป็นเพื่อนเล่นกับองค์หญิง ถึงขนาดต้องขนเสื้อผ้าเข้ามาอยู่ในวังเลย มองหน้าพระพี่เลี้ยงที่ส่ายไปมาเชิงให้ตนเป็นฝ่ายปฏิเสธองค์หญิงเอง ก่อนจะหันมาสบสายตากดดันจากองค์หญิงตัวน้อย

“อย่าไปสนใจยางยาง ฝูหรงเจ้าเป็นสหายข้า ต้องช่วยข้าสิ”

“อะ เอ่อ ได้เพคะ” มีใครที่ถูกจ้องจนตาถลนแบบนี้ จะกล้ากล่าวปฏิเสธบ้าง จำต้องตอบตกลง เพื่อให้องค์หญิงเลิกกดดันเสียที

ยางยางอยากจะเอาศีรษะโขกพื้นตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด คนหนึ่งก็หาได้ฟังใคร อยากไปไหนต้องได้ไป อีกคนก็คอยตามใจทุกอย่าง สมแล้วที่เป็นสหายรักกัน

“เอาล่ะ ๆ ในเมื่อเข้าข้างกันขนาดนี้ หม่อมฉันขอยอมแพ้ เปลี่ยนชุดได้เลยเพคะ”

เด็กหญิงรูปร่างใกล้เคียงกันทั้งสองคน ส่งยิ้มกว้างให้พระพี่เลี้ยง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตนเองออก ยื่นไปให้อีกฝ่าย

องค์หญิงนั้นสวมใส่เสื้อผ้าของฝูหรง ส่วนฝูหรงเองก็สวมชุดนอนสีขาวขององค์หญิง

“ฝูหรง ขึ้นไปนอนหันหลังให้ประตูได้เลย เดี๋ยวข้าจะซื้อขนมมาฝาก”

“เพคะ” ฉู่ฝูหรงปีนขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่ม ที่ไม่อาจได้นอนยามปกติ แต่ถ้าหากวันไหนได้สลับตัวกับองค์หญิง วันนั้นเด็กหญิงจะได้นอนหลับสบายบนเตียงที่ทั้งนุ่มและกว้าง

เมื่อเห็นสหายสนิทจัดแจงท่านอนห่มผ้าเรียบร้อยแล้ว องค์หญิงตัวน้อยในอาภรณ์ของคนธรรมดา จูงมือพี่เลี้ยงเดินไปรวมกลุ่มกับนางกำนัลคนอื่น ๆ ที่จะออกไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟเหมือนกัน

“ยางยาง ดูนั่นชาวบ้านเริ่มปล่อยโคมไฟกันแล้ว”

เด็กหญิงตัวน้อยชี้มือขึ้นไปบนฟ้าที่เต็มไปด้วยโคมไฟระยิบระยับอย่างตื่นเต้น หลังจากสามารถลักลอบออกมาจากวังหลวงได้

“เพคะ หม่อมฉันเห็นแล้ว พวกเรารีบปล่อยโคม รีบเที่ยว ก่อนประตูวังจะปิดเถอะเพคะ เดี๋ยวได้รอดเข้าทางประตูแมวอีก” ยางยางมองซ้ายมองขวา ห่วงความปลอดภัยขององค์หญิง ที่ไม่มีองครักษ์ติดตามมา...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel