บท
ตั้งค่า

6.ชะตาชีวิต

ใครบางคนกล่าวเอาไว้ว่าคนเราจะตกหลุมรักได้เพียงครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นเราจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อตามเงาของคนคนนั้น

หลังจากวันนั้น กู้เฟยหลงได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนลี่อินทุกครั้งที่เขาว่าง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น พวกเขาเป็นสหายรู้ใจของกันและกัน ทว่าหลังจากที่กู้เฟยหลงผ่านพิธีสวมกวาน การกระทำของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เขารุกคืบและแสดงออกมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเพื่อนสนิทแปรเปลี่ยนกลายเป็นคนที่หวงแหนกัน

ทว่าลี่อินรู้แก่ใจดี ระหว่างพวกเขาสองคนไม่มีทางเป็นไปได้ กู้เฟยหลงเป็นถึงทายาทตระกูลกู้ หลานชายแม่ทัพใหญ่ อนาคตในวังหลวงมีแต่สดใสโชติช่วง ส่วนหยางลี่อินเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านทั่วไปที่มีดีแค่วิชาแพทย์เท่านั้น เรื่องราวระหว่างพวกเขามีแต่จะทำให้ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บช้ำ

เมื่อกู้เฟยหลงอายุ 16 ปี ได้เกิดเรื่องใหญ่ในราชสำนัก ชาวอุ้ยเก้อรุกล้ำเขตแดนทางทิศตะวันตก ทำให้กู้เฟยหลงต้องใช้ชีวิตอยู่ชายแดนถึง 4 ปีเต็ม

เส้นทางของหยางลี่อินและชายหนุ่มคล้ายจะเป็นดั่งเส้นขนาน หลังจากเรียนรู้วิชาจากเซวียนคงไต้ซือได้อย่างแตกฉาน อาจารย์ของนางก็ออกเดินทางเผยแพร่หลักธรรม ลี่อินจึงต้องอยู่เพียงลำพังในนครฉางอันที่กว้างใหญ่ ทว่าตอนนี้ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกนางเหมือนที่กู้เฟยหลงเคยบอกไว้อีกแล้ว

ทักษะการแพทย์ของหยางลี่อินเริ่มจากการรักษาเล็ก ๆ ให้กับพวกคนยากไร้ และค่อย ๆ เลื่อนขั้นไปรักษาเถ้าแก่โรงเตี๊ยมจนกระทั่งคหบดีน้อยใหญ่ในเมือง บางครั้งขุนนางในวังก็มาขอให้นางช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย

เพียงไม่นาน หยางลี่อินที่สะสมเงินได้ก้อนหนึ่งก็นำไปซื้อโรงเตี๊ยมเก่า ๆ นางซ่อมแซมและสร้างใหม่จนกลายเป็นร้านยาตระกูล หยาง จากคำบอกเล่าปากต่อปาก กอปรกับฝีมือการแพทย์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากเซวียนคงไต้ซือ ทำให้ร้านยาตระกูลหยางเจริญเติบโตภายในเวลาเพียงหนึ่งปี

ถึงหยางลี่อินไม่ได้ทำการค้าเพื่อหวังเอากำไร แต่ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้นประกอบกับคนไข้ที่มาหาเป็นคนใหญ่คนโตในวังหลวง เด็กสาวตัวเล็ก ๆ จึงใช้เวลาเพียงสี่ปีกลายเป็นคหบดีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในเมืองหลวง

เครื่องหมายการค้าที่สำคัญที่สุดของหยางลี่อินไม่ใช่การแพทย์ที่สามารถรักษาทุกคนได้ แต่เป็นวิชาแพทย์ประยุกต์ที่ช่วยให้ผู้คนในฉางอันสามารถรักษาเบื้องต้นให้แก่ตนเองได้

เมื่อหยางลี่อินอายุล่วงเข้าปีที่ 20 เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่กู้เฟย หลงกลับจากสนามรบ เขาสามารถตัดศีรษะแม่ทัพใหญ่ของศัตรู สร้างความดีความชอบให้แก่ตนเองและวงศ์ตระกูล แต่ถึงแม้จะได้รับความดีความชอบมากมาย กู้เฟยหลงกลับไม่เคยคิดหวังสิ่งใดตอบแทน

สิ่งเดียวที่เขาขอพระราชทานเป็นรางวัลคือ คำร้องขอถอดยศทหาร

ความปรารถนาของกู้เฟยหลงทำให้ฝ่าบาททรงพิโรธยิ่งนัก ขุนพลหนุ่มผู้มีอนาคตเป็นแม่ทัพใหญ่เรืองรองสดใส กลับคิดที่จะหยุดตนเองเอาไว้ ถึงกระนั้นกู้เฟยหลงยังคงยืนกรานหนักแน่นถึงความตั้งใจของตน เขาไม่เกรงกลัวต่อศึกสงครามหรือหวาดกลัวความตาย

เพียงแต่การต้องไปอยู่สนามรบนานถึง 4 ปี เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนหน้าอกข้างซ้ายเป็นความรู้สึกของคู่ยวนยางที่ถูกพลัดพราก การที่ไม่ได้เห็นใบหน้าของลี่อิน ต้องทนอยู่กับความรู้สึกคะนึงหาตลอดเวลาทำให้ในที่สุดเขาตัดสินใจเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นการทรยศต่อชาติบ้านเมือง แต่กู้เฟยหลงก็ไม่นึกเสียใจ

หลังจากกู้เฟยหลงถูกถอดยศขุนพลกล้า เขาตั้งเป้าที่จะสอบเป็นจอหงวนบู๊เพื่อชดใช้ความผิดของตัวเองและตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน

ด้วยความรู้ความสามารถที่กู้เฟยหลงมี เขาสามารถสอบเป็นจอหงวนบู๊ได้ในปีต่อมา และใช้เวลาเพียง 5 ปีสู่การควบคุมอำนาจของหน่วยอวี้หลิน คุมทหารม้าภายในเมืองหลวงฉางอัน

เส้นทางชีวิตของหยางลี่อินก็สดใสไม่แพ้กัน ฝ่าบาททรงประชวรด้วยโรคลมเหมันต์กัดเซาะชีพจรชีวิต หมอหลวงต่างจนปัญญาที่จะรักษา ครั้งนั้นหยางลี่อินได้รับคำสั่งให้เข้าวังหลวง นางเป็นหมอหญิงคนแรกที่ได้ทำการรักษาให้แก่จักรพรรดิเกาจง

จากวันนั้น ทั่วเมืองหลวงฉางอันต่างรู้ว่าแพทย์อันดับหนึ่งของแผ่นดินหาใช่สำนักหมอหลวง แต่เป็นร้านโอสถตระกูลหยางของหยางลี่อิน

เส้นทางชีวิตที่เหมือนจะขนานกันของทั้งคู่ต่างมาบรรจบกันอีกครั้ง ความผูกพันในวัยเด็ก รักแรกของคนทั้งสอง และความรักด้วยความเข้าใจของหญิงชายในวัยยี่สิบหกปี พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจที่จะแต่งงานกันโดยไม่ฟังคำทัดทานใด ๆ ถึงแม้คนในตระกูลกู้จะมองว่าไม่เหมาะสม พวกเขาคิดว่าคนที่เหมาะสมกับผู้นำตระกูลคนต่อไปจะต้องเป็นเชื้อพระวงศ์เท่านั้น

ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ลงรอย คนเดียวที่สนับสนุนบุตรชายและคอยโต้เถียงกับพวกท่านลุง ท่านอา คือมารดาแท้ ๆ ของกู้เฟยหลง กู้หว่านจี

กู้หว่านจีเป็นคนเดียวที่มองดูเส้นทางรักของบุตรชายมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน บุตรชายของนางปรารถนาเพียงเด็กสาวจากตระกูลหยางเท่านั้น นางช่วยปัดเป่าความโศกเศร้าและเติมเต็มความอบอุ่นให้กับบุตรชายของนางได้

ด้วยเหตุนี้นางจึงรักและเอ็นดูลี่อินเป็นพิเศษ และที่สำคัญกู้หว่านจีเข้าใจความเจ็บปวดของการพลัดพรากเป็นอย่างดี นางสูญเสียสามี สูญเสียพ่อของกู้เฟยหลงไปตั้งแต่เฟยหลงอายุเพียง 2 ขวบ นางไม่ต้องการให้บุตรชายคนเดียวต้องมาเผชิญกับความรู้สึกเช่นเดียวกัน จึงคอยช่วยเหลือและสนับสนุนบุตรชายกับหยางลี่อินมาตลอด

เมื่อแม่บังเกิดเกล้ายินยอม งานวิวาห์ก็ไม่ใช่หน้าที่ของลุงป้า น้า อา ทั้งหลายที่จะต้องกังวล กู้เฟยหลงที่ได้รับการสนับสนุนจากมารดาในการแยกบ้านด้วยเพราะเขาไม่ต้องการให้ภรรยาต้องมาอยู่ภายใต้ชายคาของตระกูลกู้ด้วยความรู้สึกอึดอัด กอปรกับความรู้ความสามารถของ หยางลี่อิน นางไม่ควรต้องกลายเป็นนกน้อยในกรงทอง

ด้วยความรักที่มีต่อหญิงสาวอย่างสุดซึ้ง เขายอมเป็นฝ่ายแต่งเข้า ให้หยางลี่อินอาศัยอยู่ตระกูลหยางและเป็นเขาเองที่ไปอยู่เรือนของอีกฝ่าย ก่อให้เกิดคำติฉินนินทามากมาย ผู้คนต่างร่ำลือกันไปทั่วเมืองหลวงว่าเป็นตระกูลกู้ที่ตบแต่งให้แก่ตระกูลหยาง แต่ถึงกระนั้นกู้เฟยหลงมิได้นำมาใส่ใจ และที่น่าแปลกยิ่งกว่า กลับเป็นเขาเองต่างหากที่รู้สึกภาคภูมิใจกับมัน

แต่ทว่าคู่ยวนยางที่ปรารถนาจะครองรักชั่วนิรันดร์กลับมีเทพเซียนอิจฉา ความรักระหว่างทั้งคู่บัดนี้ได้ถูกแยกจากกันด้วยความตายของคนใดคนหนึ่ง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel