ฝากรักไว้ให้ใครคนนั้น

45.0K · จบแล้ว
ไหมขวัญ
35
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผู้ชายในโลกของนิยายและซีรีส์นี่มันดีจริง ๆ ทั้งหล่อ เท่ อบอุ่นใจดี รักเดียวใจเดียว ชีวิตนี้ไม่มีผู้ชายในชีวิตก็ไม่เสียดาย ขอตายไปทั้งที่โสดแบบนี้แหละ เพลินตาคิดเอาไว้แบบนั้น แต่แล้ว... ผู้ชายที่ชื่อนักรบก็โผล่มากระชากหัวใจของเธอให้กลับมาสู่โลกของความเป็นจริงอีกครั้ง “ผมอยากไถ่โทษเรื่องที่เข้าใจคุณผิด คุณอยากไปไหนผมจะพาไป” ‘เข้าใจคุณผิด’ คำคำนี้ทำเอาเพลินตาใจเต้นระรัว เธอขอเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าเขาอาจจะหึงเธออย่างที่วิลันดาบอกมา “ว่าไงครับ” เสียงทักจากนักรบทำให้เพลินตาหลุดจากภวังค์หันมายิ้มแหย ๆ ให้เขาแล้วพยายามคิดว่าเธอจะไปไหนดีนะ ไหน ๆ โอกาสมาถึงแล้วขอที่โรแมนติกและสร้างความทรงจำดี ๆ หน่อย “อืม...” “ผมไม่ได้บังคับนะ ว่างวันไหนคุณค่อยบอกก็ได้ครับ” นักรบเอ่ยแทรกขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเหมือนจะคิดหนักของอีกฝ่าย “ว่างค่ะพรุ่งนี้ว่าง แต่ฉันไปทั้งวันไม่ได้นะคะ ยังไงช่วงบ่ายก็ต้องกลับมาทำงาน” บอกอย่างเสียดายแต่งานมันลนก้นจริง ๆ “ได้ครับ พรุ่งนี้ เก้าโมงผมมารับที่นี่นะ อย่าลืมคิดมาล่ะว่าอยากไปไหน” ชายหนุ่มย้ำอีกครั้ง “ร้านหนังสือดีไหมนะ” คราวนี้เพลินตาพึมพำถึงที่ที่เธออยากไปแม้มันจะไม่ได้โรแมนติกอะไรเลย แต่ใต้จิตสำนึกคืออยากไปที่สุดนั่นแหละ และมันก็ดังพอที่จะทำให้คนที่ยืนข้าง ๆ ได้ยิน “ได้สิ คุณอยากได้เล่มไหนผมจ่ายเอง” นักรบบอกอย่างใจป้ำ “จริงนะคะ” เพลินตาถามกลับด้วยสายตาเป็นประกาย แต่เมื่อรู้สึกว่าเธอจะออกอาการมากเกินไปจึงรีบปรับสีหน้า “ไม่เป็นไรค่ะฉันจ่ายเองดีกว่า” “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มอยากจ่ายให้จริง ๆ ครับ” เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยืนยันอย่างนั้น เพลินตาก็ไม่คิดจะขัดศรัทธา “งั้นโอเคเลยค่ะ คุณซื้อหนังสือให้ฉัน ฉันเลี้ยงข้าวคุณ ห้ามปฏิเสธ” แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจจะรับฝ่ายเดียวได้ “โอเคครับ ลิสต์รายชื่อไว้เลย” “ค่ะ คุณนี่น่ารักที่สุดเลย” “ครับ” นักรบตอบรับยิ้ม ๆ เมื่อเห็นอาการดีใจของหญิงสาวที่เอาตรง ๆ ก็คือแปลกจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยรู้จักมาโดยสิ้นเชิง เพราะปกติถ้าให้เลือกที่จะไปและจ่ายให้ ส่วนใหญ่ก็เลือกช็อปปิ้งพวกเสื้อผ้ากระเป๋า เครื่องสำอางอะไรเทือกนี้ เพิ่งมีเพลินตานี่ละที่อยากไปร้านหนังสือ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆรักแรกพบโรแมนติก

ตอนที่ 1 พระเอกในจินตนาการ (1)

1

พระเอกในจินตนาการ

เพลินตามักจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เดินเข้าในร้านหนังสือ เธอจะใช้เวลาอยู่ในนั้นอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และนั่นทำให้เธอมาที่นี่ในแต่ละครั้งจะไม่ชวนคนอื่นมาด้วย เพราะกลัวโดนเร่งโดนบ่น เลยตัดปัญหาด้วยการมาคนเดียวซะเลย

เธอเลือกหยิบเล่มที่ตั้งใจจะมาซื้ออยู่แล้วขึ้นมากอดไว้ จากนั้นก็ดูเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจที่ยังไม่เคยอ่าน แล้วเลือกซื้ออีกสี่ห้าเล่ม เมื่อพอใจแล้วก็จ่ายเงินหิ้วหนังสือขึ้นรถกลับบ้านไปอย่างสบายใจ และไปเปิดร้านก่อนสี่โมงเช้า

‘ร้านเพลินตา’ เป็นร้านหนังสือเช่าที่เพลินตาเปิดขึ้นเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง โดยหนังสือเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือหนังสือที่เธอซื้อมาอ่านเองทั้งนิยาย การ์ตูน และหนังสืออื่น ๆ และร้านแห่งนี้ก็เปิดมาห้าปีแล้ว โดยที่เธอก็ไม่ได้หวังเม็ดเงินอะไร ทำเอาสนุก ๆ เพราะพื้นที่หน้าร้านก็ไม่ได้เช่า อีกทั้งเธอยังมีบริการให้เช่าแบบออนไลน์ จัดส่งหนังสือถึงที่ผ่านขนส่งต่าง ๆ ตามแต่ลูกค้าต้องการ และงานหลักที่สร้างรายได้ก็มีอยู่แล้ว งานร้านจึงเป็นงานเสริมที่ทำเพราะรักจริง ๆ

หลังจากกลับมาจากซื้อหนังสือเพลินตาก็ปัดกวาดทำความสะอาดก่อนจะเปิดร้านในเวลาสิบโมงเช้า และระหว่างนี้เธอก็จัดการห่อปกหนังสือที่ซื้อมาใหม่ด้วยพลาสติก เสร็จแล้วก็เอาข้อมูลพวกมันใส่ในระบบคอมพิวเตอร์ เป็นอันเสร็จสิ้น และในระหว่างรอลูกค้า เธอก็หยิบเล่มใหม่ขึ้นมาอ่านพร้อมกับเปิดเพลงคลอเบา ๆ บอกเลยว่าสุขกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

“สวัสดีค่า” เพลินตาทักทายลูกค้าประจำที่เป็นแม่ค้าร้านขายข้าวแกงพร้อมกับรอยยิ้มสดใส วางหนังสือในมือลง หยิบหนังสือที่ลูกค้าเอามาคืนเข้าระบบ

“มีเรื่องเข้าใหม่ไหมคะ” ด้วยความที่เป็นลูกค้าประจำมานาน หนังสือในร้านที่เป็นพวกนิยายจึงอ่านแล้วแทบทุกเล่ม เมื่อขี้เกียจจะหาจึงเน้นถามหาเรื่องที่เข้าใหม่เป็นหลัก

“มีค่ะ เฉพาะพี่เก๋ที่เป็นลูกค้าวีไอพีเลยนะคะ เพลินยังไม่ได้อ่าน แต่ให้พี่เช่าไปอ่านก่อนเลย” เพลินตายกหนังสือนิยายที่เธอจัดการทุกอย่างพร้อมเช่าแล้วขึ้นมาวางบนโต๊ะ

“เรื่องไหนสนุกบ้างคะเนี่ย”

“สำหรับเพลินน่าสนุกทุกเรื่องค่ะ เพราะเลือกเองมากับมือ พี่เก๋กับเพลินจริตในการอ่านเหมือน ๆ กัน เพลินรับรองว่าพี่ต้องชอบทุกเล่มแน่นอนค่ะ” เพลินตาแนะนำอย่างคล่องแคล่ว และไม่ได้พูดเพื่อให้ลูกค้าเช่า แต่เธอพูดมันออกมาจากใจ เพราะเธอไม่ได้ซื้อทุกเรื่องทุกเล่มที่ออกใหม่ แต่เลือกซื้อเฉพาะที่เธออยากอ่าน หรือที่ลูกค้าแนะนำว่าอยากเช่าเท่านั้นจึงจะซื้อมา

หลังจากได้ฟังคำแนะนำจากเจ้าของร้านสาว แม่ค้าร้านขายข้าวแกงอย่างพี่เก๋ก็หยิบแต่ละเล่มมาอ่านเรื่องย่อรวมถึงเปิดอ่านเนื้อในคร่าว ๆ คนครบทุกเล่มก่อนจะตัดสินใจเลือกเช่าไปแค่พอดีอ่านจบในวันเดียวก่อน

“พี่เอาเรื่องนี้ค่ะ”

“ได้ค่ะ” เธอรับหนังสือนิยายที่มีบัตรสมาชิกแนบมาแล้วยิงบาร์โค้ด “สิบห้าบาทค่ะ” ยื่นหนังสือให้ลูกค้าแล้วรับเงินพร้อมกับพูดส่งท้ายว่า “อ่านแล้วมาเม้ามอยให้ฟังด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า”

“จ้า” แม่ค้าร้านขายข้าวแกงรับคำยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินออกจากร้านไป ไม่นานก็มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้านอีกสองคน ก่อนจะเว้นระยะห่างไป ให้เจ้าของร้านสาวได้มีเวลาเปิดดูหน้าเว็บและเพจที่เปิดเอาไว้สำหรับเช่าออนไลน์และมีขายหนังสือมือสองเป็นระยะ ๆ โดยหนังสือที่ขายก็จะเป็นเรื่องเก่า ๆ ในร้านที่ไม่มีคนเช่านานหนึ่งปีขึ้นไป ก็จะขายเพื่อเอาทุนมาซื้อเล่มใหม่เรื่อย มาอ่าน จะมีลูกค้าอีกทีก็ช่วงเย็น ๆ ผู้คนเลิกงาน เด็ก ๆ ก็เลิกเรียน

ช่วงเย็นเป็นช่วงที่เพลินตารู้สึกสนุกกับการทำงานมาก ๆ เพราะลูกค้าเข้าร้านเรื่อย ๆ มากบ้างน้อยบ้าง แทบไม่ค่อยได้นั่งเพราะต้องเอาหนังสือเก็บเข้าชั้นให้เรียบร้อยเพื่อที่ลูกค้ารายต่อไปจะหาได้ง่าย