ตอนที่ 4 ข้อเสนอ
ตอนที่ 4
ข้อเสนอ
เมษาหายไปสามสี่วัน ก่อนที่เด็กสาวจะมา ดักรอหน้าบริษัทเพื่อเจอกับพี่สาวต่างแม่ มีนาเดินออกมาจากบริษัทพร้อมกับจริยา เมื่อเห็นน้องสาวเธอจึงรีบเดินตรงไปหาน้อง
“เอ่อ ท่านประธานคะ นี่เมษาค่ะน้องสาวต่างแม่ของมีน”
เมษายกมือไหว้จริยา แววตาที่ดูใสซื่อทำให้หญิงวัยกลางคนนึกเอ็นดู
“หน้าตาน่ารักนะเรา ว่าแต่ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก”
“หนูมารอพี่สาวค่ะ”
จริยาเห็นว่าสองพี่น้องต้องการคุยกันเป็นการส่วนตัว เธอจึงได้โทรเรียกคนขับรถให้มารับ แทนที่จะให้มีนาเลยไปส่ง
หลังจากที่มีนาส่งจริยาขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินมาหาน้องสาวที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิม
“เป็นยังไงบ้าง ได้รายละเอียดมาหรือยัง”
เด็กสาวพยักหน้าสีน่าดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาทั้งหมดเป็นแสนเลยค่ะ”
มีนานิ่งไปชั่วครู่ก่อนพยักหน้าเบาๆ เธอรู้สึกเครียดกับจำนวนเงิน แต่ในหัวก็ครุ่นคิดหาทางออก
“เราไปห้างกันก่อนดีกว่า ตรงนี้มีห้างใกล้ๆ”
“ไปทำอะไรหรือคะพี่มีน”
“เดี๋ยวก็รู้”
มีนาเห็นว่าเธอกับเมษาอาจจะต้องติดต่อกันบ่อยๆเรื่องพ่อ จึงได้ตัดสินใจซื้อโทรศัพท์ให้น้องสาวเครื่องนึงพร้อมกับกำชับว่าให้เก็บไว้ให้ดี หากแม่ อีกฝ่ายเห็นเข้าอาจจะถูกยึดไปได้
“เรื่องค่าใช้จ่ายของพ่อไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“ขอบคุณค่ะพี่มีน”
เด็กสาวมีความหวังอีกครั้ง เธออยากให้พ่อหายจึงวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องทุกคนแต่ก็ไม่มีใครเต็มใจช่วย มีเพียงแค่มีนาเท่านั้น
“กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
มีนาเป็นห่วงน้องสาว อีกฝ่ายหน้าตาดี แถมยังเป็นผู้หญิง ขืนปล่อยให้กลับคนเดียวก็กลัวว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากทางเข้าบ้านของน้องค่อนข้างเปลี่ยว และเป็นชุมชนแออัดที่ไม่ค่อยน่าอยู่สักเท่าไหร่
ถึงจะรับปากน้องสาวไปแบบนั้นแต่มีนาก็มานั่งเครียดอยู่คนเดียว เธอนอนไม่หลับกังวลเรื่องพ่อและกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เงินก้อนโตขนาดนั้นเธอจะไปหาจากไหน ลำพังแค่เงินเดือนกับเงินเก็บที่มีอยู่ก็ไม่มากพอที่จะจ่ายได้
อีกอย่างทุกวันนี้เธอก็ต้องผ่อนทั้งรถทั้งบ้าน แล้วแบบนี้เธอจะไปหาเงินจากไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลพ่อ
หญิงสาวยังหาทางออกไม่ได้แม้ว่าเธอจะพยายามเค้นคิดตลอดทั้งคืน
มีนามาทำงานด้วยท่าทางจะดูไม่สดใสและไม่กระตือรือร้นเหมือนทุกๆวัน จริยาสังเกตเห็นจึงได้เอ่ยถาม
“เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือเปล่ามีนา ทำไมหน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่น”
“พอดีมีเรื่องให้คิดเยอะค่ะ”
“มีเรื่องอะไร คิดมากเรื่องงานหรือเปล่า”
หญิงสาวส่ายหน้ารัวก่อนอธิบาย
“ไม่ใช่หรอกค่ะท่านประธาน”
“ถ้าอย่างนั้นเธอเครียดเรื่องอะไร บอกฉันได้นะ ฉันยินดีรับฟังเหมือนที่เธอคอยรับฟังฉันมาตลอด”
หญิงสาวเกรงใจเธอไม่กล้าพอที่จะเล่าปัญหาของตัวเองให้จริยาฟัง
“คือ…มีนคิดว่ามีนมีเรื่องที่จะต้องขอ ความช่วยเหลือจากท่านประธานค่ะ”
“ว่ามาสิ”
“ตอนนี้พ่อของมีนกำลังป่วยหนัก รอการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายแสนบาท มีนก็เลยอยากจะขอยืมเงินจากท่านประธานค่ะ”
จริยาวางปากกาลงก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองเลขาสาว
“ได้สิ แต่ฉันมีข้อแม้นะ”
“คะ?”
ความจริงแล้วเธอสามารถช่วยเหลือมีนาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนได้ แต่เธอมองเห็นช่องทางที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้
“ท่านประธานจะให้มีนทำอะไรหรือคะ”
“มีนา ในฐานะที่เราทำงานด้วยกันมานานหลายปี ฉันมั่นใจว่าเธอเป็นคนดี และเธอก็น่าจะเป็นคนที่ทำให้ลูกชายของฉันมีความสุขได้”
หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง เธอไม่แน่ใจว่าจริยากำลังจะพูดอะไร แต่เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจทั้งๆที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
“ฉันจะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่เธอต้องแต่งงานกับคีตะ”
หญิงสาวอึ้ง ไม่คิดว่าเงื่อนไขของจริยาจะน่าลำบากใจขนาดนี้
“เธอไม่ต้องให้คำตอบฉันตอนนี้ก็ได้ ฉันให้เธอคิดทบทวนดูก่อน พร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน”
มีนาพยักหน้า เธอยังไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ ถึงแม้ในใจของเธอจะคัดค้านไปแล้วเรียบร้อย แต่เมื่อนึกถึงพ่อก็ทำให้เธอลังเล
คืนนั้นในขณะที่มีนากำลังนั่งเหม่อลอย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบรับสายเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือเมษา
“มีอะไรหรือเปล่าเมษา”
‘พี่มีน โรงพยาบาลแจ้งว่าพ่อต้องผ่าตัดด่วนพรุ่งนี้ พี่มีนพอจะหาเงินได้หรือยังคะ ทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้าไม่จ่ายเงินเขาก็จะผ่าตัดให้ไม่ได้”
หญิงสาวเงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะตอบกลับน้องสาว
“พรุ่งนี้พี่จะเอาเงินไปจ่ายที่โรงพยาบาล ไม่ต้องห่วงนะยังไงพ่อก็ต้องได้ผ่าตัด”
“จริงเหรอคะพี่มีน ขอบคุณพี่มีนมากเลยนะคะ”
เด็กสาวเอ่ยขอบคุณด้วยเสียงสั่นเครือ ในสายตาของเธอมีนาก็ไม่ต่างอะไรจากนางฟ้าที่มาโปรดในวันที่ชีวิตของเธอหมดสิ้นความหวัง
“ยังไงพ่อก็เป็นพ่อของพี่เหมือนกัน ไม่ต้องห่วงนะพี่ไม่ปล่อยให้พ่อเป็นอะไรหรอก”
ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่เธอกลับรู้สึกหนักใจ เพราะการที่เธอจะได้เงินก้อนโตมารักษาพ่อเท่ากับว่าเธอจะต้องเสียสละตัวเองเพื่อแต่งงานกับลูกชายของเจ้านาย
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ฝืนใจมาก แต่มีนาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว หากเธอไม่ตอบตกลงภายใน วันพรุ่งนี้ พ่อก็จะไม่ได้รับการผ่าตัดและอาจจะทำให้อาการทรุดลงเรื่อยๆ
หลังวางสายจากน้องสาวต่างแม่ มีนาก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน เธอนั่งมองรูปของคีตะ แล้วก็ได้แต่จินตนาการว่าชีวิตการแต่งงานระหว่างเธอกับเขาจะเป็นยังไง เธอแทบจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเขาด้วยซ้ำ เคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง และไม่เคยพูดคุยกันจริงจัง เธอรู้แค่ว่าเขาเป็นคนที่เงียบขรึมดูไม่ค่อยเป็นมิตร ที่สำคัญบรรยากาศรอบตัวของเขาก็ดูอึมครึมตลอดเวลาจนไม่น่าเข้าใกล้
