บทย่อ
เมื่อพ่อล้มป่วยกะทันหัน มีนาจึงจำเป็นต้องแต่งงานกับคีตะ ชายหนุ่มผู้มีปมจากความรักเพราะสูญเสียคนรักไปจากอุบัติเหตุ จริยาผู้เป็นแม่ของคีตะต้องการให้มีนานั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายของเธอกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่ยากมากและไม่รู้ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรบ้างแต่มีนาก็จำเป็นต้องทำ เพื่อแลกกับเงินก้อนโตเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลของพ่อ
ตอนที่ 1 คนโปรด
ตอนที่ 1
คนโปรด
บรรยากาศวันนี้ไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่ เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงค่ำยาวถึงเช้ามืด ส่งผลให้วันนี้ก้อนเมฆมืดครึ้มยังคงปกคลุมท้องฟ้า บรรยากาศที่อึมครึมส่งผลต่ออารมณ์ของคนที่นั่งอยู่ในรถ
“ฉันไม่เข้าใจเลย ทำไมแผนกนี้ถึงได้มีปัญหาตลอด”
จริยา หญิงวัยห้าสิบห้าปีเอ่ยขึ้น เธอตื่นมาพร้อมกับอารมณ์ที่ขุ่นมัวแต่เช้า เพราะได้รับข่าวที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“เธอคิดดูสิ กี่ครั้งกี่หนแล้วที่มีลูกค้าร้องเรียนมาตลอด ฉันกำชับแล้วกำชับอีกบอกให้เทรนฝ่ายขายดีๆ หรือไม่ก็คัดเลือกคนสักหน่อย แต่นี่อะไร!”
จริยายังคงบ่นไม่หยุด นอกจากสภาพอากาศที่อึมครึม รถก็ยังติดจนทำให้เธอนั้นยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
บริษัทของจริยาเป็นบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มีแบรนด์คอนโดในเครือหลาย เเบรนด์ เธอถือว่าเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของวงการอสังหา และเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นต้นแบบของใครหลายๆคน
“ฉันต้องการประชุมกับฝ่ายขายทุกคน ครั้งนี้ฉันคงปล่อยผ่านไปไม่ได้แล้ว ชื่อเสียงของบริษัทเรามันกำลังจะป่นปี้เพราะคนพวกนี้”
“ได้ค่ะท่านประธาน เดี๋ยวมีนจะจัดการให้ค่ะ”
มีนา เลขาสาวคนสนิทของจริยาเธอทำงานกับอีกฝ่ายมานาน 5 ปีแล้ว และเข้าใจเจ้านายดีทุกอย่าง ปกติจริยาไม่ใช่คนขี้โมโห แต่เพราะเรื่องพฤติกรรมของทีมฝ่ายขายที่เข้าหูอยู่บ่อยครั้ง ทำให้คราวนี้จริยาหมดความอดทน
“ฉันจะต้องกลับมาอบรมทีละคน จะได้เข้าใจว่าการเป็นฝ่ายขายเนี่ยต้องวางตัวยังไง”
“ก็ดีนะคะท่านประธาน บางทีผู้จัดการแผนกอาจจะไม่ค่อยมีเวลาเทรนก็ได้”
“รายนั้นน่ะตัวดี ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกสาวผู้ถือหุ้น ฉันคงจะไล่ออกไปแล้ว เป็นหัวหน้าแผนกประสาอะไร บริหารอะไรไม่เป็นสักอย่าง คุมลูกน้องก็ไม่ได้ ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ ถ้าฉันไม่เกรงใจคุณศตวรรษ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ลอยหน้าลอยตาอยู่ในบริษัทหรอก”
ศตวรรษเป็นนักธุรกิจและเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของจริยา ทั้งสองสนิทสนมกันมาก ศตวรรษมีลูกสาวจึงได้ส่งมาทำงานที่บริษัทของจริยา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าพฤติกรรมของลูกสาวตอนอยู่บริษัทนั้นเป็นอย่างไร
มีนาฟังเงียบๆแต่ไม่ได้ออกความเห็น เวลาที่จริยากำลังต่อว่าใครสักคน เธอเลือกที่จะไม่ผสมโรงด้วย แต่จะเป็นผู้ฟังที่ดีเท่านั้น
หญิงสาวทำงานทั้งวันด้วยความตั้งใจ ไม่ว่าจะวันแรกหรือวันนี้ เธอก็ยังเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับ การทำงานอยู่เสมอ
หลังเลิกงานมีนาก็รีบเดินทางกลับบ้าน สถานที่ที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ย่างกรายเข้ามา เมื่อ 2 ปีก่อนเธอได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังเล็กๆเป็นของตัวเอง หลังจากที่อาศัยอพาร์ทเม้นท์ใกล้มหาวิทยาลัยมาตลอดหลายปี ในที่สุดเธอก็อยากจะสร้าง ความมั่นคงให้กับชีวิต จึงได้เลือกซื้อบ้านในโครงการของบริษัท
มีนาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา มองดูบ้านหลังเล็กที่แสนอบอุ่นของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมา
วันนี้ทั้งวันเธอรู้สึกปวดหัวมาก เพราะปัญหาหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอนั้นพลอยเครียดไปด้วย ทุกครั้งที่จริยาอารมณ์ไม่ดีเธอรู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เคยใส่อารมณ์กับเธอ แต่เธอก็อยากเห็นเจ้านายอารมณ์ดี ไม่มีเรื่องกวนใจ
“หนูมีน พอดีว่าเมื่อตอนกลางวันฝนมันตก ป้าก็เลยเข้าไปเก็บผ้าให้”
ป้าข้างบ้านตะโกนเรียก ทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านกันมายาวนานเกือบสองปีเเล้ว อีกฝ่ายเป็นคนอัธยาศัยดีและมีน้ำใจกับคนรอบข้างเสมอ รวมถึง มีนาด้วย
“ขอบคุณมากนะคะคุณป้า”
หญิงสาวไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร พอดีว่าเธอซื้อขนมติดไม้ติดมือกลับมาบ้านด้วย จึงได้ยกขนมถุงนี้ให้กับป้าข้างบ้านเพื่อเป็นการขอบคุณ
“ถ้าไม่ได้คุณป้าพรุ่งนี้หนูต้องไม่มีชุดไปทำงานแน่ๆค่ะ”
ปกติเธอจะซักผ้าแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ถ้าหากเสื้อผ้าเปียกทั้งหมด เธอก็คงต้องเสียเวลาซักใหม่ มีนารู้สึกโชคดีที่เธอมีเพื่อนบ้านรวยน้ำใจ
ปกติเธออาศัยอยู่คนเดียว จะว่าไปเธอก็อยู่ คนเดียวมาตั้งแต่ตอนขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แล้ว มีนาจำได้ดี ในวันที่พ่อกับแม่ตัดสินใจแยกทางกัน เธอรู้สึกเคว้งคว้างมาก เพราะทั้งสองต่างก็ต้องการที่จะเดินไปตามทางของตัวเอง อ้างว่าเพราะเรื่องงานเลยไม่ต้องการเอาเธอไปดูแล
เด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกพ่อแม่ผลักไส ทำให้เธอนั้นต้องไปอาศัยอยู่กับป้าที่ต่างจังหวัดชั่วคราว แต่ป้าก็ไม่ได้เต็มใจดูแลเธอสักเท่าไหร่ ในความโชคร้ายก็ยังพอมีความโชคดีอยู่บ้าง ตรงที่พ่อกับแม่ยังส่งเงินมาให้ แม้ว่าเธอจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่กลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้ความรักและความอบอุ่น
มีนาอดทนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านป้านานหลายปี เมื่อเธอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่จึงได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่หอพักในกรุงเทพฯและกู้ยืมเรียน พร้อมกับหางานพิเศษเล็กๆน้อยๆทำ เธอพยายามที่จะรบกวนพ่อกับแม่ให้น้อยที่สุด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีครอบครัวใหม่ มีความรับผิดชอบเกิดขึ้น ทำให้ระยะหลังมีนาแทบไม่ได้รับเงินจากพ่อแม่เลย
จำนวนเงินที่เธอได้รับจากการกู้ยืมเรียน ทำให้เธอนั้นต้องประหยัดมัธยัสถ์เป็นอย่างมาก เพราะมันน้อยนิดจนทำให้บางครั้งเธอไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยซ้ำ ต้องยอมอดเก็บเงินไว้สำหรับมื้อที่สำคัญจริงๆ แต่เธอก็พยายามอดทนเพื่ออนาคตของตัวเอง
เพราะการศึกษาทำให้เธอนั้นมีทุกวันนี้ จากคนที่เคยมีชีวิตยากลำบาก ตอนนี้เธอได้หลุดพ้นเเล้ว มีนาพยายามที่จะลืมอดีต เธอไม่อยากนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นเพราะทุกครั้งที่นึกถึงมันทำให้เธอเศร้าใจบางทีเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เป็นห่วงเธอบ้าง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่าง โดดเดี่ยว พ่อแม่ก็แทบจะไม่เหลียวแล ถึงจะส่งเงินให้ แต่สิ่งที่เธอต้องการมากกว่าเงินก็คือความรักและความเอาใจใส่
เป็นเวลากว่าสิบสามปีที่เธอนั้นอาศัยอยู่คนเดียวมาโดยตลอด ทำให้เธอรู้สึกชินชา และไม่เคยคิดจะดึงใครเข้ามาในชีวิต ความโดดเดี่ยวที่เธอเคยได้รับตอนนี้เธอรู้สึกชินกับมันแล้ว
มีนารู้ดีว่าชีวิตของเธอคงจะโดดเดี่ยวแบบนี้ไปอีกนาน เพราะช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีคนรักเลย เธอเคยอยู่ในครอบครัวที่ล้มเหลวเรื่องความรัก ทำให้เธอรู้สึกกลัว ไม่อยากจะพบเจอกับประสบการณ์แบบนั้นเหมือนที่พ่อกับแม่ของเธอเคยเผชิญ

