4 ผู้หญิงอาถรรพณ์ 1
“กลับเถอะน้ำผึ้ง”
“น้องแรมจันทร์จ๋าจะรีบไปไหนจ๊ะ อยู่คุยกับพี่โทนก่อน พี่มีอะไรดีๆ จะให้ดูนะ”
แรมจันทร์สะดุ้งเมื่อโทนยื่นมือเข้ามาใกล้ๆ ทำท่าจะลูบคลำใบหน้า เธอหลับตาปี๋ด้วยความกลัว และได้ยินเสียงน้ำผึ้งตวาดด้วยความไม่พอใจ
“อย่ายุ่งกับแรมจันทร์”
“อ้าว อีดำตับเป็ด มึงเสือกอะไรด้วยวะ เดี๋ยวตบฟันร่วงเลยนี่”
“มีอะไรกันน่ะ”
เสียงคุ้นหูดังขึ้นซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นแก่แรมจันทร์จนลืมตาขึ้นแล้วยิ้มให้กับชายหนุ่มรูปหล่อ ร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ
“พี่ชาย”
หญิงสาวอุทานด้วยความดีใจเมื่อเห็นชายซึ่งคบหาเป็นคนรักยืนจูงจักรยานคู่ชีพ และกำลังจ้องหน้าโทนด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้ชายตัวดำ ฟันขาวนี่เอง ไอ้ดาร์กี้เอ๊ย”
“ถึงกูจะดำแต่ก็ไม่ได้หนักหัวมึงนี่หว่าไอ้โทน แล้วเมื่อครู่มึงจะทำอะไรแฟนกู”
ชายประกาศเสียงดังว่าเป็นแฟนแรมจันทร์ซึ่งทำให้ทุกคนตกใจไม่คิดว่าหนุ่มสาวทั้งสองแอบคบหาจนถึงขั้นเป็นคู่รัก
“อ้าวเป็นแฟนกันหรือ ไม่น่าเชื่อ”
น้ำผึ้งมองหนุ่มสาวทั้งสองสลับกันไปมา ขณะที่โทนเกิดการโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“อย่าโกหกเลยว่า น้องแรมจันทร์ไม่มองคนจนๆ อย่างมึงหรอก”
“ถึงพี่ชายจนแต่เป็นคนดี พี่ชายเราไปกันเถอะ”
แรมจันทร์เข้าไปยืนใกล้กับคนรักแล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยาน ชายจึงขี่ออกไปทันที โทนมองตามพร้อมกับกำหมัดแน่น
“ระวังแฟนมึงไว้ให้ดี”
ชายหาได้สนใจเสียงขู่จากคนพาลไม่เพราะคิดว่าโทนเป็นคนประเภทดีแต่ขู่เมื่อเจอคนจริงก็ขี้ขลาดตาขาว
ชายไม่ได้พาแรมจันทร์มาส่งบ้าน แต่ทั้งสองมานั่งพลอดรักที่ชายคลองซึ่งลับตาผู้คนเพราะมีต้นหญ้าสูงบังไว้ ถ้ามีคนอยู่ข้างนอกจะไม่รู้เลยว่ามีร่างของหนุ่มสาวกำลังกอดจูบกันด้วยความรักอย่างดูดดื่ม
“แรมจันทร์ พี่คิดถึงเอ็งเหลือเกิน สามวันแล้วที่ไม่ได้เจอกัน พี่ไปทำงานก่อสร้างในอำเภอได้แต่เร่งหัวหน้าให้พากลับบ้าน”
ชายออดอ้อนแรมจันทร์ที่พิงหัวลงกับอกกว้าง โดยจับมือเขาไว้จนแน่นแล้วเงยหน้ามองจึงก็ถูกจูบที่แก้มจนเสียวซ่าน
“พี่ชายจ๋า ฉันก็คิดถึงพี่มากนะ ถ้าพี่มาไม่ทันสงสัยไอ้บ้าโทนมันลวนลามฉันแน่ๆ”
“ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเจอมัน เห็นเมื่อไรก็หนีไปซะ เดี๋ยวมันจะรังแกเอา พี่คงช่วยเอ็งไม่ได้เพราะทำงานไกลกันขนาดนั้น”
“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไปไหนมาไหนกับน้ำผึ้งแล้วยังมีเพื่อนอีกเป็นฝูง มันไม่กล้ารุ่มร่ามหรอกจ้ะ”
สาวสวยพูดจบเอียงหน้าซุกลงกับแผงอก ทว่ากลับสะดุ้งเมื่อชายล้วงมือเข้าไปในเสื้อยืดแล้วคลำหน้าอกอวบ ก่อนจะขยำขยี้อย่างมีลีลาซึ่งก็สร้างความสุขแก่ฝ่ายหญิงจนเผลอสูดปากด้วยความลืมตัว
“แต่ก็ควรระวังตัวไว้บ้าง ไอ้คนนี้มันไม่ธรรมดาหรอกนะ กล้าที่จะทำร้ายคนดีๆ ผู้หญิงหลายคนถูกมันทำร้ายจนเสียผู้เสียคน”
“จ้ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังถูกพี่ทำร้ายนะ”
เธอเสียงสั่นด้วยความเสียวกับการโลมเล้าจากคนรักยังคงวนเวียนอยู่กับหน้าอกที่แข็งเป็นไตเพราะไม่เคยผ่านมือผู้ชายมาก่อน บัดนี้กำลังถูกรุกอย่างหนัก จนเธอไม่อาจทนนิ่งอยู่ได้ ขยับตัวไปมา เพราะถูกกระตุ้นความปรารถนาในอารมณ์รัก
ชายไม่พูดอะไรเพราะสูดกลิ่นหอมจากแก้มคนรักแล้วจูบปาก บดขยี้ด้วยความเร่าร้อน ก่อนใช้ลิ้นในการโลมเร้าจนเธอแทบขาดใจ
หลังจากปลุกเร้าให้เลือดสาววิ่งพล่านไปทั่งร่างแล้ว เขาก็ซุกทั้งปากและจมูกลงที่ซอกคอ เลื่อนลงมาที่หน้าอกอูมตูมเต่ง บัดนี้ชายเสื้อยืดถูกเลิกขึ้นไปจนเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อยกทรงสีดำ
ความอิ่มอวบนูนล้นทำให้ชายตาลุก ซบหน้าลงไปบดขยี้ จากปลายหนวดที่ครูดลงกับผิวเนื้ออ่อนๆ แรมจันทร์สะดุ้ง เกร็งตัวแอ่นตัวขึ้น
“พี่ชาย อย่าทำอย่างนี้ฉันเสียว”
เธอครวญครางพลางบอกว่าเสียว ซึ่งเขาก็ยังคงใช้ปากดุนดันอยู่กับหน้าอกขนาดใหญ่ซึ่งตั้งชันท้าทายให้เขารุกด้วยความอยากในรสรัก
“ขนาดที่หน้าอกยังเสียงขนาดนี้ ถ้าหากว่าเป็นตรงนั้นจะขนาดนั้น”
“ตรงไหนพี่”
หญิงสาวถามด้วยความเดียงสาเพราะไม่เคยในเรื่องดังกล่าวมาก่อน ชายเลื่อนมือลูบลงไปที่หน้าขาแล้วขยำลงบนความอูมที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าถุงแบบลายตีนเชิง
“ตรงนี้ไง”
“บ้า! พี่ชายพูดอะไรก็ไม่รู้ เขาอายนะ”
“ไม่ต้องอาย เดี๋ยวพี่จะล้วงเข้าไปแล้วขยี้ให้หนัก”
หญิงสาวซ่านไปทั้งตัวเมื่อได้ยินอย่างนั้น และเกิดอาการขนลุกซู่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขากำลังกระทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“อย่าพี่ พอก่อน”
“ไม่ต้องอายหรอกพี่จะทำให้แรมจันทร์ได้รับความสุขอย่างที่สุด”
“แต่เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะ”
หญิงสาวพูดเสียงสั่นเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะล้วงลึกเข้าไปในร่มผ้าซึ่งเป็นจุดสงวน สร้างความสุขจนสั่นสะท้าน และวาบหวิวเมื่อได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ บ่งบอกว่าเขากำลังมีความต้องการในเรื่องอย่างว่า
“ได้กันตอนนี้กับได้หลังจากแต่งงานมันก็ไม่ต่างจากกันหรอกน่า เชื่อพี่เถอะ”
“พี่จะ...ฉันหรือจ๊ะ” เธอถามอย่างอายๆ ชายทำตาเจ้าชู้ใส่
“หรือว่าแรมจันทร์ไม่อยากเป็นเมียพี่”
เมื่อพูดจบเขาถอดเสื้อยืดออกจนเห็นแผงอกกว้าง และทำท่าจะปลดตะขอกางเกงสีดำ แรมจันทร์ถึงกับเสียวสะท้านไปทั้งกาย