บทที่ 3
อีก 45 นาทีต่อมา เพอรี่ก็ชะโงกหน้าเข้ามาในห้องทํางาน เพื่อบอกให้รู้ว่าเขากําลังจะออกไปรับประทานอาหาร กลางวันตามที่ได้นัดหมายไว้แล้ว
“อย่าลืมช่วยต้อนรับบร็อคแทนพี่ ถ้าเขาเกิดมาถึงก่อนพี่กลับนะ” เขาเตือนเป็นครั้งสุดท้ายทั้งที่ไม่จําเป็น
“ได้สิ” สเตฟานี่ให้คํามั่น “ขอให้ประสบความสําเร็จในการพูดนะ” เธออวยพรให้พี่ชาย
เขาโบกมือให้และเดินจากไป ครู่ต่อมาสเตฟานี่ก็ออกไปรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากไม่ใคร่หิวนัก จึงเลือกสั่งสลัดมารับประทาน ก่อนบ่ายโมงครึ่งเล็กน้อย เธอก็ขอกุญแจห้องชุดมาจากแมรี่ พนักงานต้อนรับ เพื่อเข้าไปตรวจตราในห้องนั้นเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจในความพร้อมสรรพสําหรับการมาถึงของ บร็อค แคนฟิลด์
สเตฟานี่ไม่เคยมีโอกาสได้เหยียบย่างเข้าไปในห้องชุดนี้มาก่อน มันเป็นห้องชุดที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและรับแขกกว้างขวาง ขนาดพอๆ กับห้องนอน ซึ่งมีเตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ฟากหนึ่งของห้องคือห้องน้ำในตัวซึ่งประกอบด้วยอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
จากหน้าต่างบานกว้าง ซึ่งประดับด้วยขอบทองเหลือง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของไว้ท์ เม้าเทนส์ได้อย่างชัดเจน เป็นทิวทัศน์ซึ่งบัดนี้แมกไม้ที่ปกคลุมอยู่กําลังเปลี่ยนสีสันเป็นสีเหลืองทอง อมส้มและน้ำตาลเข้ม เป็นความงามอันน่ามหัศจรรย์ใจยิ่งนัก แสงอาทิตย์สาดสว่างลงต้องพื้นห้องที่ปูไว้ด้วยเซรามิคสีขาวลายทอง งามกระจ่างตา
เครื่องเรือนที่นํามาตกแต่งห้องนี้ประกอบด้วยเก้าอี้นวม เบาะหุ้มด้วยหนังสีขาว โซฟาอีกหนึ่งคู่หุ้มเบาะด้วยผ้าฝ้ายฝีมือทอชาวไฮติ โต๊ะเล็กสําหรับตั้งเครื่องกาแฟเป็นโต๊ะแบบสมัยเก่าสีขาว ฝาผนังกรุกระจกประดับด้วยผ้าม่านระย้าย้อยสีงาช้าง ตู้ยืนตั้งแต่พื้นจรดเพดานซึ่งประกอบด้วยชั้นสําหรับตั้งเครื่องรับโทรทัศน์ โต๊ะอาหารพื้นกระจกกับเก้าอี้ 4 ตัว ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง นอกจากนั้นผนังอีกด้านหนึ่งยังถูกออกแบบเป็นฉากที่บังคับด้วยปุ่มอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อกดปุ่มฉากนี้จะเลื่อนออกเผยให้เห็นบาร์เหล้าที่ตั้งอยู่ภายใน บนฉากนี้ถูกวาดประดับด้วยใบไม้สีทอง
สเตฟานี่มองเห็นกุหลาบช่องามถูกจัดไว้ในแจกัน และวางอยู่บนโต๊ะเล็กสําหรับตั้งกาแฟ เป็นการจัดดอกไม้แบบตะวันออก คือ เป็นช่อกุหลาบสีแดงเข้มทรงสูง แบบปราศจากใบ แชมเปญรสเยี่ยมถูกจัดแช่ไว้ในถังเงินบรรจุน้ำแข็ง ถาดใส่เนยชนิดต่างๆ รวมทั้งจานผลไม้สดวางอยู่บนโต๊ะกรุกระจก
เมื่อสเตฟานี่เป็นระเรื่อยเข้าไปในห้องนอนนั้น เธอย้ำเท้าลงไปบนพรมเนื้อนุ่มสีปูนแห้ง และสีเดียวกันนี้ก็ยังใช้แต่งทั้งผ้าคลุมเตียงและผ้าม่านเข้าชุดกัน ตรงหัวเตียงที่จําหลักลวดลายงดงามมีโต๊ะเล็กซึ่งตั้งโคมไฟ ซึ่งเชิงของมันเข้าชุดกันกับพนักหัวเตียง เครื่องแต่งห้องที่ค่อนข้างหนาหนัก สร้างบรรยากาศที่ทําให้มองเห็นเป็นห้องผู้ชายโดยแท้
ส่วนห้องน้ำก็จัดว่าเป็นอีกห้องหนึ่งที่ได้รับการตกแต่งที่หรูหรา พรมสีปูนแห้งนั้นยังปูเลยเข้ามาถึงในห้องนี้อีกด้วย อ่างอาบน้ำที่ตั้งอยู่บนยกพื้นเผชิญหน้าอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้งหินอ่อน ส่วนของฝาผนังด้านที่มิได้กรุด้วยหินอ่อนก็จะมีผ้าม่านสีดําประดับไว้ และยังมีภาพผีเสื้อชนิดต่างๆ ที่หาได้ในอเมริกาใต้ประดับเป็นฉากหลังไว้อีกชั้น ผ้าเช็ดตัวที่ใช้ในห้องนี้เป็นขนหนูเนื้อนุ่มสีดําน่าหยิบน่าใช้ไปเสียทั้งนั้น
เมื่อก้าวออกมาจากห้องชุดแห่งนั้น สเตฟานี่มีความรู้สึกเหมือนก้าวออกไปสู่โลกอีกโลกหนึ่ง ห้องพักในโรงแรมแห่งนี้จัดขึ้นได้อย่างหรูหรา เพื่อให้บรรดาแขกที่มาใช้บริการได้กลิ่นไอและสัมผัสกับธรรมชาติของ นิว อิงแลนด์ อย่างแท้จริง เห็นได้ชัดว่า บร็อค แคนฟิลด์ เป็นผู้ออกแบบห้องนี้ด้วยตัวเอง สเตฟานี่ไม่ใคร่แน่ใจอยู่เหมือนกันว่าเธอชอบบรรยากาศของห้องนี้หรือว่าอยากจะทําตัวหรูหราใช้ชีวิตผู้ที่มีเงินเช่นเขาบ้าง
เมื่อเธอเดินกลับเข้าไปในห้องล็อบบี้ของโรงแรม สเตฟานี่ก็บอกตัวเองว่าชอบฝาผนังสีขาว ที่ได้รับการตกแต่งด้วยงานไม้ที่หรูหรา กับเตาผิงขนาดใหญ่ที่ดูจะน่าสบายกว่าในห้องชุดที่ได้เข้าไปชมเมื่อครู่มาก กลิ่นกรุ่นของยางไม้อวล อยู่ในบรรยากาศของห้องซึ่งตกแต่งแบบ นิว อิง แลนด์ ที่เน้นถึงวัฒนธรรมอย่างชัดเจน แม้ว่าโคมไฟที่ห้อยด้วยสายโซ่ทองที่ระย้าลงมาจากเพดาน จะเป็นเครื่องประดับที่สร้างความเบื่อหน่ายให้ยามที่ต้องขัดถูทําความสะอาด แต่ถึงอย่างไร เครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ก็ยังทําให้บรรยากาศน่าสบายเหมือนอยู่ในบ้านอยู่ดี
เธอก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับคืนกุญแจให้เจ้าหน้าที่
“มีวี่แววว่าคุณ บร็อค แคนฟิลด์ เขาจะมาถึงบ้างหรือยังล่ะ แมรี่?”
แม้แต่เพียงการเอ่ยชื่อบุรุษ ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมออกมา มันก็สามารถสร้างความหวั่นไหวให้กับแมรี่ ผู้แสนจะสงบมาตลอดได้
“คุณ แคนฟิลด์หรือคะ? ยังนี่คะ...เท่าที่ทราบยังไม่เห็นเลย เบน...คุณเห็นเขามาหรือยังล่ะ?” จู่ๆ แมรี่ก็บังเกิดความไม่แน่ใจในคําตอบของตัวเองขึ้นมา ต้องหันไปของคํารับรองจากเด็กยกกระเป๋า
“ยังครับ...ยังมาไม่ถึงเลย” เบนตอบอย่างมั่นใจ
“งั้น ฉันไปรออยู่ในห้องทํางานนะ” สเตฟานี่ตอบ “ถ้าเขามาก็เข้าไปบอกให้รู้ด้วยก็แล้วกัน”
หลังจากนั้นเธอก็เดินกลับเข้าไปในห้องทํางานโดยเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อจะได้สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายนอกได้อย่างชัดเจน เสียงพนักงานกระซิบกระซาบคุยกันดูจะยังไม่หยุดเลยนับ แต่ข่าวการมาของเจ้าของโรงแรมแห่งนี้กระจายออกไป บรรยากาศเต็มไปด้วยกระแสแห่งความตึงเครียด แต่สเตฟานี่ไม่ยอมให้ตัวเองต้องเครียดตามไปด้วย
ก่อนจะเก็บกระเป๋าถือเข้าที่ สเตฟานี่ก็เดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้ากระจกเงาบานเล็ก สํารวจรูปโฉมของตัวเองก่อนที่จะเติมลิปสติกลง แต่การเติมสีปากทําให้สีสันตรงโหนกแก้มจางลง เธอจึงควานหาที่ทาแก้มขึ้นมาปัดสีให้ใบหน้าสดใสขึ้น เติมมาสคาร่าลงตรงขอบตา และลงแป้งเสียใหม่
ขณะที่พิศโฉมตัวเองอยู่นั้น สเตฟานี่แน่ใจในเสน่ห์ของตน มิใช่หลงว่าตัวเองจะสะสวยเลิศเลอลักเพียงใด สีของเรือนผมซึ่งเป็นสีน้ำตาลตัดกับสีฟ้าใสในดวงตาอย่างน่าพอใจ เพียงแต่มันไม่ได้สร้างความตื่นใจให้เท่าใดนัก
เรือนร่างเพรียวระหงได้สัดส่วนสมบูรณ์แบบ มีความสดชื่นแจ่มใสอยู่ ในทุกอิริยาบถ
ขณะเดียวกัน เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า รูปร่างหน้าตาเช่นนี้หรือจะเรียกความสนใจจากบร็อค แคนฟิลด์เช่นที่ เพอรี่ได้กล่าวเตือนไว้ แต่ขณะเดียวกัน สเตฟานี่ก็อดคิดไม่ได้ว่าความรู้สึกจะเป็นเช่นไรหนอ ถ้าจะมีผู้ชายเช่น บร็อค แคนฟิลด์ เข้ามาให้ความสนใจกับเธอสักคน มันก็คงเป็นเพียงความใคร่รู้เท่านั้น มิได้มีอะไรมากไปกว่าเธอย้ำกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
“สเตฟานี่” เสียงแมรี่เรียกมาจากหน้าประตู “เขาขับรถเข้ามาแล้วละ เบนกําลังออกไปขนกระเป๋า เขามีผู้หญิงมาด้วยนะ”
สเตฟานี่ หันไปยิ้มให้แมรี่ที่กําลังรายงานให้เธอทราบด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบลุกลี้ลุกลน ราวกับเกรงว่าจะมีใครมาได้ยิน มันสําคัญแค่ไหนนักหรือ? อย่างไรก็ตาม คําบอกเล่า ในประโยคสุดท้ายมีอิทธิพลพอที่จะทําให้รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าได้ มันสายเกินไปเสียแล้วที่จะนึกมาได้ว่า เพอรี่เคยเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกันว่า บร็อค แคนฟิลด์ มักจะมีผู้หญิงตามติดมาด้วยเสมอ
แต่จะทําอย่างไรกันดีเล่า? หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะอยู่ ร่วมห้องกับเขา? มันก็ไม่มีทางเลือกแล้วนี่ เพราะไม่มีห้องเดี่ยวเหลืออยู่อีกเลย ซึ่งหมายความว่าขณะนี้เธอเองก็ตกอยู่ในสภาพกังวลเช่นเดียวกับที่แมรี่เป็นอยู่ และอยากจะให้มีใครสักคนช่วยหาบทสรุปให้
“ว่าแต่เพอรี่บอกให้เธอรู้หรือเปล่าคุณแคนฟิลด์จะพาแขกของเขามาด้วยนะ?” เธอถามพนักงานต้อนรับ
“ไม่เห็นเอ่ยถึงเรื่องนั้นเลยนี่” แมรี่สั่นศีรษะปฏิเสธ
“เพราะฉะนั้น...คุณแคนฟิลด์เขาก็คงไม่หวังว่าเราจะหาห้องอื่นให้แขกของเขาพักได้หรอกนะ ใช่ไหม?” ไม่จําเป็นจะต้องหน้าแดงด้วยความอายอะไรกันอีกแล้ว “ที่ฉันพูดนี่ก็เพราะเขาไม่ได้บอกมาให้เรารู้ก่อนนี่”
“จริงๆ แล้ว ฉันก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาจะอยากแยกห้องกันอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงของแมรี่กึ่งเสนอแนะก่อนที่จะเดินออกไปยังล็อบบี้ “เร็ว...เขาเดินเข้าประตูมาแล้วละ
สเตฟานี่สูดลมหายใจลึก เพื่อสงบสติอารมณ์ไว้ บอกตัวเอง...ต้องใจเย็นสํารวม สุขุม ตั้งสติให้มั่นไว้ก่อนที่จะเดินออกไปยังล็อบบี้ ทําไมเธอจะต้องตกอกตกใจไปด้วยเล่า? บร็อค แคนฟิลด์ ก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น