บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 โสดแล้วพาล (3)

“เลิกสนเรื่องของชาวบ้านได้แล้ว” ธิชาปรามน้อง ๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มจะเมามันกับการนินทาเพื่อนร่วมงานไปเสียแล้ว ก่อนจะพยักพเยิดไปที่เวที “สนใจบ่าวสาวดีกว่า”

ทุกคนต่างพากันปิดปากยิ้ม ๆ แล้วต่างพากันปรบมือ เมื่อคู่บ่าวสาวกล่าวทักทายแขกเหรือในงาน แล้วเริ่มพูดถึงเรื่องราวความรักของตัวเอง รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ตามแต่พิธีกรจะถาม ซึ่งบางช่วงบางตอนก็ทำเอาแขกในงานต่างพากันปรบมือโห่ร้องอย่างชอบใจ พิธีดำเนินไปเรื่อยจนกระทั่ง ถึงช่วงที่สาวโสดพากันกระตือรือร้น

“ไปสิคะพี่ธิชา” น้อง ๆ ในโต๊ะรีบคะยั้นคะยอเมื่อเห็นเธอยังนั่งใจเย็นไม่ยอมขยับไปไหน

“ไปกันค่ะ” น้องคนหนึ่งที่ยังไม่ได้แต่งงานลุกขึ้นแล้วลากธิชาเดินตามออกไปที่หน้าเวที

แม้จะพูดว่ามันเป็นแค่การเสี่ยงทายเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับงานแต่ง แต่ธิชาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเจ้าสาวยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัว และสาวๆ ต่างพากันพร้อมใจกันนับถอยหลัง

สาม...

สอง...

หนึ่ง...

ช่อดอกไม้ก็ถูกโยนจากเจ้าสาวมายังเป้าหมายที่เล็งเอาไว้ มันลอยละลิ่วตรงมาหาธิชา แม้จะไม่ตรงเปะๆ แต่หญิงสาวก็ยื่นมือรอรับคิดว่าคงไม่พลาด ทว่า...

มันถูกใครบางคนฉวยไปต่อหน้า และต่อมาคือเสียงกรีดร้องอย่างดีใจ เมื่อหันไปมองเธอคนนั้นคือสาวแผนกการตลาดที่ยืนติดกัน ที่สำคัญตัวสูงกว่าเธอหลายเซนติเมตร

“อะไรเนี่ย...” รุ่นน้องสาวบ่นอย่างหงุดหงิดขณะเดินกลับโต๊ะ ซึ่งธิชาก็ได้แต่ยิ้มอย่างสงบผิดกับข้างในที่ สบถบ่นมากกว่าหลายเท่า

“จริงจังไปได้ ถ้าอยากได้เดี๋ยวพี่ซื้อให้เอาไหม” ธิชาถามยิ้ม ๆ

“หนูบ่นแทนพี่ต่างหาก จะได้แล้วเชียวฉกไปต่อหน้าต่อตาเลย”

“เลิกสนใจได้แล้ว อะไรที่ไม่ใช่ของเรายังไงก็ไม่ใช่ของเรา ตอนนี้ไปกินให้เต็มที่ดีกว่า”

รุ่นน้องสาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เมื่อถึงโต๊ะก็อดที่จะบ่นเรื่องช่อดอกไม้อีกครั้งไม่ได้ แต่ก็แค่แป๊บเดียว เมื่อพูดเรื่องอื่น เรื่องดอกไม้ก็ถูกลืม ผิดกับธิชาที่ยังครุ่นคิดผูกโยงเรื่องถูกแย่งดอกไม้ไปว่า หรือเธอจะชวดเรื่องคู่ไปชั่วชีวิตจริง ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเลอะเทอะ จึงสะบัดศีรษะแล้วตบแก้มตัวเองเบา ๆ ให้เลิกสนใจเรื่องพรรค์นั้นได้แล้ว เพราะตั้งแต่เริ่มคิดมาก็เหมือนจะเริ่มเป็นทุกข์ ตอนนี้โฟกัสแค่ความสนุกดีกว่า คิดมากไปจะได้อะไร

ชนแก้ว...

ดื่ม...

จากการชนแก้วแล้วดื่มผลตามมาคือความเมา

ธิชาที่แม้จะอาบน้ำแต่งตัวแล้ว แต่ความมึน ๆ ชวนให้อยากอ้วกอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ได้หายไปแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อเธอเดินมานั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารในห้องครัวก็ฟุบหน้า พร้อมกับงึมงำบอกคนเป็นแม่ที่ยังง่วนทำอะไรบางอย่าง

“แม่คะ ขออะไรที่มันร้อนๆ ให้กินหน่อยสิคะ”

“รอแป๊บหนึ่งนะ”

“แม่ทำอะไรกินคะ” หญิงสาวพลิกหน้ามองไปที่แผ่นหลังของคนเป็นแม่ แล้วหลับตาพลางขมวดคิ้วเมื่อความปวดหัวมันแล่นจี๊ดขึ้นมา

“ทำข้าวต้มให้แกนั่นแหละ เมาค้างล่ะสิ มีอะไรหรือเปล่า ทุกทีแม่ไม่เห็นแกเมาขนาดนี้” นางธิดาถามพลางเอี้ยวตัวกลับมามองลูกสาวที่นั่งนอนฟุบอยู่กับโต๊ะอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่สนุกเพลินไปหน่อย” ธิชาพูดแล้วก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะผุดลุกขึ้น “แล้วนี่หนูกลับบ้านยังไงคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองแล้วบ่นพึมพำ “เผลอพูดอะไรแปลก ๆ ออกไปหรือเปล่าเนี่ย”

“พ่อแกกับตารุตไปรับ รถก็เอามาแล้ว เอ้านี่กินซะ” นางวางข้าวต้มหอมกรุ่นลงแล้วเดินไปรินน้ำส้มที่เพิ่งคั้นเสร็จใหม่ ๆ มาให้ลูกสาวอีกแก้ว “กินให้หมดด้วย” กำชับก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้าม พร้อมกับค้ำคางเอียงหน้ามองลูกสาวคนโตยิ้ม ๆ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ธิชาที่ตักข้าวต้มใส่ปากไปแล้วคำหนึ่ง ส่วนอีกคำกำลังเป่า แต่เมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนจ้องจึงเงยหน้าขึ้นมาก็ถามอย่างระแวง

“เราก็อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ไม่มีฟงมีแฟนกับเขาบ้างเหรอ”

คำถามจากคนเป็นแม่ ทำเอาธิชาถึงกับสำลักข้าวต้มรีบยกน้ำส้มขึ้นมาดื่ม แล้วถามทั้งที่ยังไอคอกแค่กว่า “ทำไมจู่ ๆ แม่มาถามถึงเรื่องล่ะคะ”

“ก็ไม่มีอะไรแค่คิดว่าแกอาจจะเหงาหรือเปล่า” พูดจบก็ลุกขึ้น “เดี๋ยวแม่ขอไปตากผ้าก่อน กินเสร็จก็ฝากเก็บกวาดบ้านด้วยล่ะ”

“ธิชาขอนอนพักก่อนได้ไหมคะ” หญิงสาวต่อรองเพราะแม้จะได้ความร้อนจากข้าวต้ม และความเปรี้ยวจากน้ำส้มคั้นทำให้ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่อาการมึน ๆ มันก็ยังคงมีอยู่ คิดว่าถ้าได้นอนสักพักใหญ่ ๆ น่าจะดีขึ้น แต่เหมือนแม่เธอจะไม่ได้คิดอย่างนั้น

“ไม่ได้ นอนเสียเวลาเปล่า ทำงานเรียกเหงื่อช่วยได้เยอะ ลองดู” นางบอกก่อนจะเดินผละออกไป ทำเอาหญิงสาววัยสามสิบเก้าทำปากยื่น และรับคำงึมงำไม่ต่างกับเด็กๆ

“ค่า ๆ ทำกับพ่อบ่อยล่ะสิ ดูชำนาญเชียว”

ธิชากินข้าวเสร็จก็ถ่อสังขารไปทำความสะอาดบ้าน ตามที่คนเป็นแม่สั่งเอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ และไม่น่าเชื่อว่าทำไปทำมาเหงื่อออกอาการมึน ๆ เหล่านั้นจะค่อย ๆ หายไป ดังนั้นเมื่อภารกิจที่ได้รับมองหลายเสร็จ เธอก็คิดว่าน่าจะหาอะไรทำต่ออีกหน่อย จึงเดินออกไปหลังบ้าน เห็นคนเป็นพ่อกำลังกวาดใบไม้อยู่จึงรีบเข้าไปแย่ง

“เดี๋ยวธิชาจัดการเองจ้ะ พ่อกับแม่นั่งพักให้สบายนะ”

ธิชากวาดไปฮัมเพลงไป โดยไม่รู้เลยว่าบุพการีทั้งสองต่างพากันมองเธอ แล้วหันมาพูดคุยปรึกษากันเป็นระยะๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel