บทที่ 3 นิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ
เวลาแต่ละวันที่อยู่ที่ฟาร์มกุลธีร์ผ่านไปช้าเหลือเกินในความรู้สึกของมัลลิกา และแต่ละวันก็กว่าจะค่ำกว่าจะเลิกงานก็ช้า นี่ก็สองอาทิตย์แล้วที่มาทำงานที่ฟาร์มแห่งนี้ ยอมรับว่าฟาร์มนี้กิจการดีและการเงินก็หมุนเวียนดีจึงไม่มีปัญหาอะไรให้เธอต้องแก้ไขเท่าไหร่ เพราะดิศรณ์สัตวแพทย์หนุ่มทำงานละเอียดรอบคอบดีทุกอย่าง แม้แต่บัญชีก็เรียบร้อยเป็นระเบียบอ่านเข้าใจง่ายจึงง่ายต่อการเข้าใจ
ส่วนที่ทำให้มัลลิการู้สึกอึดอัดคือห้องทำงานที่ตอนแรกอยู่คนละที่กับเจ้าของฟาร์ม แต่ตอนนี้ถูกย้ายโต๊ะทำงานมาอยู่ในห้องเดียวกับเขา โดยคมธรรมอ้างว่าเผื่อเธอมีอะไรสงสัย เธอจะได้ถามเขาและเขาจะได้อธิบาย แต่เท่าที่เห็นคือเป็นเธอมากกว่าที่สอนเขา ไม่อยากเชื่อเลยแค่เอกสารการค้าอีเมลจากลูกค้าต่างชาติ เขาก็อ่านไม่ออก หรือบางอันอ่านออกแต่ก็แปลไม่ออกว่าเนื้อความว่าอะไรบ้าง จนไม่รู้เลยว่าแกล้งไม่รู้หรือว่าไม่รู้จริงๆ กันแน่
“น้องเพื่อนมาอ่านแปลอีเมลนี้ให้พี่หอยฟังหน่อยสิจ๊ะ” น้ำเสียงหวานกวนอารมณ์ดังขึ้นทำให้เธอต้องเบ้ปากแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานของตัวเองไปที่โต๊ะทำงานของคมธรรม ที่อยู่ห่างแค่ไม่กี่ก้าวเดิน พอมาถึงก็ต้องร้องตกใจออกมาเมื่อถูกลำแขนใหญ่กอดเกี่ยวเอวเล็กรั้งลงไปนั่งบนตักหนาของเขา
ว้าย!
“ปล่อยฉันนะไอ้หื่น”
“หืม! คำก็หื่นเดี๋ยวหื่นให้ขาถ่างเลยแม่คุณ แค่กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นเล่นตัว ถ้าได้พี่หอยเป็นผัวแล้วจะครางหาทั้งคืนสิไม่ว่า”
“ลามก!”
“แค่นี้เบาๆ นะจ๊ะ แปลให้ฟังหน่อยสิ ผมอ่านไม่อออก” บุ้ยปากไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของตัวเองพร้อมกับปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระ แค่ได้เอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ เขาก็พอใจแล้ว สีสันในห้องทำงานแหละ
“อย่าคิดจะทำแบบนี้อีกนะคุณคมธรรม ฉันไม่ชอบ”
“กี่ครั้งแล้วที่พูดแบบนี้ แต่ผมก็ยังทำ แปลเอกสารเถอะ ผมไม่เล่นแล้ว” คำพูดที่เปลี่ยนไปจากเล่นเป็นจริงจังของคมธรรมทำให้มัลลิกาจริงจังกับเนื้อความในอีเมลบ้าง เธออ่านไม่นานและทำความเข้าใจแล้วบอกเขาว่ามันหมายถึงอะไร
“คือทางอังกฤษจะส่งตัวแทนมาดูการรีดนมควายที่ฟาร์มของเราค่ะ ทางนั้นจะมาดูขั้นตอนการผลิตนมของเราด้วยว่าสะอาดรึเปล่าก่อนที่จะนำไปขายที่นั่นค่ะ”
“อ๋อ...ตอบอีเมลไปเลยว่าได้อยู่แล้ว จะมาวันไหนให้เขาแจ้งเลยนะ ทางเราสะดวกอยู่แล้ว ฟาร์มของเรายินดีให้เขามาเยี่ยมชม”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะตอบอีเมลเขานะคะ”
“อือ...ผมไปดูไอ้หมอเปอร์ทำคลอดควายก่อนนะ”
“ให้ฉันไปด้วยได้ไหมคะ ฉันไม่เคยเห็น”
“ไปสิ แต่ต้องส่งอีเมลก่อนนะ รีบจัดการสิ ผมจะรอ”
“ค่ะ” แล้วมัลลิกาก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อพิมพ์เอกสารที่จะส่งให้คู่ค้าของฟาร์มแล้วส่งให้คมธรรมเพื่อที่เขาจะได้ส่งต่อให้ลูกค้า
ระหว่างที่รอมัลลิกา คมธรรมก็นั่งมองดูหล่อนตลอดการเคลื่อนไหว และยิ่งปากน้อยทำเหมือนบ่นขมุบขมิบยิ่งทำให้น่าเอ็นดู ไม่รู้ทำไมหล่อนถึงชอบแต่งตัวเชยๆ วันนี้แต่งกระโปรงยาวเหมือนสุ่มและเสื้อก็ตัวใหญ่ๆ เหมือนครูระเบียบ แถมแว่นหนาๆ นั่นอีก มองยังไงก็เหมือนป้า แต่หน้านั้นกลับอ่อนวัยเหลือเกิน
ไม่อยากจะเชื่อว่าหล่อนจะอายุแค่นี้จริงๆ ทั้งๆ ที่หน้านั้นอ่อนเยาว์มาก แถมยังทำงานเก่งมากด้วย เชื่อแล้วว่าทำไมมัลลิกาถึงมั่นใจในตัวเองและกล้าเรียกเงินเดือนสูงขนาดนั้น และเขาก็ยอมจ่าย เพราะหญิงสาวทำงานดีทุกอย่าง ขนาดงานบัญชีดิศรณ์ที่มาตรวจต่อจากที่มัลลิกาทำยังบอกว่าทำดีมาก เรียบร้อยและละเอียดกว่าเพื่อนของเขาทำเสียอีก
ฟาร์มกุลธีร์เป็นฟาร์มที่ส่งออกนมควายพาสเจอร์ไรซ์รายใหญ่ของประเทศเลยก็ว่าได้ และที่ฟาร์มของเขายังเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและเรียนรู้วิธีรีดนมควายด้วย คนที่เป็นต้นคิดก็คือพ่อกับแม่ของเขาเอง ส่วนเขาก็แค่รับช่วงดูแลต่อเท่านั้น เรื่องบริหารงานคมธรรมไม่ถนัดหรือพูดง่ายๆ ไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องรีดนมควาย เลี้ยงควาย ปลูกหญ้า ไถพรวนดินเตรียมพื้นที่ไว้ปลูกหญ้า เขาถนัดนักแหละ ต่างจากปาณัสม์น้องชายที่รายนั้นฉลาด แต่ก็ไม่รู้เรื่องในฟาร์มเท่าเขาอยู่ดี
“คุณคมธรรมเช็กอีเมลนะคะ ฉันส่งให้คุณแล้วค่ะ ถ้าได้รับแล้วส่งให้ลูกค้าได้เลยค่ะ”
“ครับ” คมธรรมเปิดอ่านอีเมลใหม่ที่ได้รับจากมัลลิกาแล้วเขาก็จัดการส่งต่อให้ลูกค้าต่างชาติของเขาทันที เมื่อส่งเสร็จแล้วก็ปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกขึ้นยืนคว้าโทรศัพท์มือถือยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวขาดเข่า และคว้าหยิบเสื้อยีนส์ที่แขวนไว้ที่ข้างๆ โต๊ะทำงานขึ้นมาสวมทับเสื้อยืดสีดำที่ใส่อยู่
การเคลื่อนไหวของคนตัวโตทำให้หัวใจของมัลลิกาเต้นแรง ไม่รู้ทำไมแค่เขาเคลื่อนไหวและมุมปากหนานั้นเผลอยิ้ม หล่อนถึงใจเต้นแรงไปทุกครั้ง ทั้งๆ ที่บอกว่าเกลียดเขา ไม่ชอบเขาที่เขาชอบทำลามกและลวนลามตัวเองทั้งทางร่างกายและสายตา และยิ่งไม่ชอบคือเขาเจาะหูและมีรอยสักที่อกซ้ายและแขนซ้าย เห็นแล้วรกหูรกตา แต่ทำไมเวลาเห็นเขาถอดเสื้อ เห็นรอยสักพวกนั้นทีไรตอนไปตรวจดูฟาร์ม หล่อนต้องใจสั่นและแอบชื่นชมรูปควายที่เขาสักที่อกซ้ายด้วยล่ะ และตุ้มหูที่ใส่ก็ยังเป็นรูปควายอีก เชื่อแล้วว่าเขารักควายของเขาในฟาร์มทุกตัวจริงๆ
“ไปกันได้รึยัง ผมเสร็จแล้วนะ” คมธรรมเอ่ยเมื่อเห็นว่าสาวเชยแว่นหนากำลังมองจ้องมาทางตัวเองอยู่
“คะ...ค่ะ เสร็จแล้วเหมือนกันค่ะ” มัลลิกาแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี หากเขารู้ว่าเมื่อกี้เธอจ้องมองเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรงคงได้ขายหน้าแน่ๆ
“ถ้างั้นไปกันเลย เดี๋ยวไปไม่ทันรับขวัญลูก” ‘ลูก’ ที่คมธรรมหมายถึงคือควายตัวใหม่ที่กำลังจะเกิดมาและมาเป็นสมาชิกของฟาร์มกุลธีร์ และทุกตัวในฟาร์มคือลูกรักของเขาทั้งหมด
“ค่ะ ไปกันเลย” สาวแว่นหยิบโทรศัพท์ ปิดคอมพิวเตอร์เครื่องของตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินตามชายหนุ่มออกไป
“ไปมอ’ไซค์นะ” พอออกมาจากออฟฟิศทำงานขนาดเล็กแล้วเขาก็บอกหญิงสาว
“เดินไปไม่ได้เหรอคะ”
“ผมจะขับมอ’ไซค์ไป ถ้าอยากเดินก็เดินเลย” ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าลูกควายตัวใหม่ของเขา ทั้งๆ ที่เขาควรจะฉวยโอกาสบังคับมัลลิกานั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปกับตัวเองก็ได้ แต่คมธรรมไม่ทำ
‘อะไรของเขา บทจะจริงจังก็จริงจังจนเธอไปไม่ถูก’ มัลลิกาได้แต่งงและก็เดินไปหาเขาที่ติดเครื่องรถมอเตอร์ไซค์รอท่าก่อนแล้ว
“ฉันจะไปกับคุณค่ะ”
“รีบขึ้นมา เดี๋ยวก็ทำคลอดเสร็จพอดี”
“ค่ะ” แล้วเธอก็จับเอวหนาแล้วเบี่ยงตัวขึ้นนั่งเบี่ยงแล้วรถก็ออกตัวทันทีจนเธอตั้งตัวไม่ทันกอดเอวหนาแน่น แล้วปากหนาของคมธรรมก็อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อคนตัวเล็กโอบกอดเอวตัวเองแน่น
ดิศรณ์กำลังดึงขาของควายน้อยออกมา และในที่สุดการทำคลอดที่ยาวนานก็สิ้นสุดลงเมื่อปลอดภัยทั้งแม่ควายและลูกควายตัวน้อย ลูกควายน้อยแข็งแรงดี พอออกมาก็วิ่งไปมาและทำให้ผู้ที่มาใหม่ที่เพิ่งจอดมอเตอร์ไซค์แล้วเดินตรงเร็วๆ มายังคอกของแม่ควายและลูกควายทันที
“คลอดแล้วเหรอไอ้หมอเปอร์ ตัวผู้รึเมียวะ”
“เมียว่ะไอ้หอย”
“แล้วนี่ไอ้หมูกับไอ้เข้มมันไปไหน ทำไมถึงให้มึงและคนงานช่วยกันอยู่แค่นี้” มองไปยังลูกควายตัวน้อยที่แข็งแรงดีวิ่งไปมาในคอกแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินเจ้าควายน้อยของเขา
“มึงลืมรึไง มึงให้พวกมันสองคนไปส่งนมของเราที่ร้านในตลาด”
“เออ...กูลืมไป ไหนดูซิ เจ้าควายน้อยของพ่อ ดีใจไหมที่จะได้มาอยู่ด้วยกัน” คมธรรมเดินเข้าไปในคอกแล้วเดินไปจับหัวลูบหัวเจ้าควายน้อยด้วยความเอ็นดู ภาพของคมธรรมกับควายตัวน้อยที่เพิ่งคลอดทำให้มัลลิกาที่ยืนมองอยู่ข้างนอกคอกนั้นอดยิ้มตามไม่ได้
“ไอ้หอยมันรักควายทุกตัวของมันครับคุณเพื่อน มันจะดีใจทุกครั้งที่ลูกควายและแม่ควายคลอดออกมาแข็งแรงทั้งคู่” สัตวแพทย์หนุ่มที่เพิ่งล้างมือเสร็จเดินมาหยุดยืนข้างหญิงสาวพร้อมมองตามสายตาของเธอไปที่เพื่อนของตัวเอง
“เพื่อนเชื่อค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เขาดูรีบร้อนมากทั้งๆ ที่คอกของแม่ควายและลูกควายอยู่แค่นี้เอง แต่เขาไม่ยอมเดินมาจะขี่มอ’ไซค์มาอย่างเดียวเลย”
“มันใจร้อนน่ะครับ อีกอย่างมันรักมันห่วงของมันด้วยล่ะครับ”
“พ่อจะให้แกชื่ออะไรดีนะเจ้าควายน้อย” คมธรรมไม่ได้สนใจคนที่มาด้วย เพราะความสนใจของชายหนุ่มอยู่ที่เจ้าควายน้อยเพศเมียตัวนี้เสียแล้ว ส่วนคนงานคนอื่นๆ ที่มาช่วยสัตวแพทย์หนุ่มทำคลอดนั้นต่างก็พากันแยกย้ายไปทำงานหน้าที่ของตัวเอง
“พ่อจะตั้งชื่อแกว่าละมุดนะ ต่อไปนี้หนูชื่อละมุดนะลูก” พูดพร้อมกับลูบหัวมันไปมาและก้มลงไปจุ๊บหัวของเจ้าควายน้อยหนึ่งทีโดยไม่นึกรังเกียจหรือขยะแขยงมัน ก่อนจะลุกเดินไปหาแม่ของมันพร้อมลูบหัวมันแล้วพูดว่า
“เธอเก่งมากที่คลอดเองได้” และเหมือนแม่ควายจะเข้าใจคำพูดของผู้เป็นเจ้าของจึงถูหัวตัวเองไปมากับมือของคมธรรม
ภาพของคมธรรมที่อยู่กับควายช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ต่างจากคนที่เธอรู้จักตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาราวกับเป็นคนละคน มัลลิกายืนนิ่งมองคมธรรมพูดกับควายสองแม่ลูกแล้วหันมาถามสัตวแพทย์หนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆ ตน
“เขาคงผูกพันกับควายทุกตัวในฟาร์มเลยใช่ไหมคะหมอเปอร์”
“ครับ ไอ้หอยมันผูกพันและรักควายของมันทุกตัว ถึงมันจะบอกว่ามันเรียนไม่เก่งถนัดแต่ใช้กำลัง แต่ถ้าเป็นเรื่องของควายมันรู้ทุกอย่าง มันใส่ใจทุกอย่าง มันฉลาดนะครับ แต่คนเรามีความสามารถไม่เหมือนกัน ไอ้หอยมันเป็นพวกใช้กำลังมากกว่าใช้สมอง ตอนเรียนมันก็เรียนไม่เก่ง แต่โชคดีที่มีไอ้หมีน้องชายมันช่วยไว้เลยสอบผ่านไม่สอบตกและมีผมช่วยด้วยตอนเรียน”
“คุณคมธรรมมีน้องชายด้วยเหรอคะ”
“มีแล้ว แต่งงานแล้ว และเป็นเจ้าของโฮมสเตย์สวยๆ ที่อยู่ในฟาร์มเรานั่นแหละครับ”
“อ๋อ...เพื่อนก็งงค่ะ ตอนแรกตอนที่เห็นโฮมสเตย์ในฟาร์มก็สงสัยเหมือนกันว่าของใคร ที่แท้ก็ของน้องชายคุณคมธรรมนี่เอง”
“ครับ คุณเพื่อนแวะไปได้นะครับ ไปเดินดูก็ได้ครับ สวยหรูมากๆ”
“ค่ะ ถ้ามีโอกาสเพื่อนก็อยากชวนเพื่อนที่กรุงเทพมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่บ้างค่ะ ที่นี่บรรยากาศดี แถมมีโฮมสเตย์ด้วย เพื่อนๆ คงชอบน่าดูค่ะ”
“เพื่อนที่พูดถึง เพื่อนหรือผัว” ดิศรณ์ยังไม่ทันได้พูดตอบ เสียงทุ้มห้าวของคนที่สนใจลูกควายน้อยก่อนหน้านี้เองที่แทรกดังขึ้นพร้อมเดินตรงมาหาพวกเขาทั้งสอง
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยคุณเจ้านาย” มัลลิกาตอบกลับทันควันพร้อมกับเบือนหน้าเบ้ปากใส่เขาเล็กน้อย
“เกี่ยวแน่ เพราะในอนาคตคุณผู้จัดการคนสวยจะเป็นเมียผม”
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเพื่อน เดี๋ยวจะไปเตรียมวัคซีนป้องกันโรคให้เจ้าละมุดมันหน่อยครับ” ดิศรณ์เอ่ยขอตัวเมื่อไม่อยากอยู่เป็นตัวขวางคอเพื่อนรัก
“ไปเลยมึงไอ้หมอเปอร์”
“เออ...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ แล้วเจอกันงานเลี้ยงคืนนี้นะครับคุณเพื่อน” แล้วสัตวแพทย์หนุ่มก็เดินไปเก็บข้าวของของตัวเองแล้วเดินจากไปทิ้งให้มัลลิกาอยู่กับคมธรรมสองคน
“ทีนี้ก็เหลือแต่เราสองคนแล้ว พูดมาสิเพื่อนหรือผัว”
“โอ๊ย...คุณคมธรรมคะ มันเรื่องส่วนตัวของฉันค่ะ คุณไม่ต้องอยากเสือกค่ะ”
“ปากร้าย เดี๋ยวก็จูบโชว์เจ้าละมุดและคนงานซะเลย”
“อย่านะ อย่ามาคิดลวนลามฉันนะ”
“ก็ได้ๆ คืนนี้มีงานเลี้ยงนะ ผมจะจัดงานเลี้ยงให้เจ้าละมุดมันน่ะ”
“จัดงานเลี้ยงให้ควายเนี่ยนะคุณ”
“แน่นอนสิคุณ มันเป็นประเพณีของฟาร์มกุลธีร์ ทุกครั้งที่มีการเกิดของควายจะมีงานเลี้ยงตลอด และถือเป็นรางวัลให้คนงานในฟาร์มได้สนุกเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยงด้วย ถ้าหากว่าควายในฟาร์มเราตาย เราก็จะจัดงานศพใส่ชุดดำไว้อาลัยให้ควายที่ตายไปหนึ่งวันเพื่อเป็นการระลึกถึงควายที่จากเราไป”
“ฉัน...”
“คุณเป็นผู้จัดการ คุณต้องมาร่วมงานเลี้ยงกับเรา”
“ฉันไม่อยากกลับบ้านดึก”
“ก็นอนค้างที่บ้านพักของคุณสิ”
“คุณไม่บุกไปปล้ำฉันใช่ไหม ถ้าค้างที่บ้านพัก”
“ชี้ทางให้แบบนี้ หรือจะปล้ำดีนะ”
“งั้นฉันไม่มางานเลี้ยงค่ะ”
“ผมพูดเล่นน่าคุณ ไปเถอะ ไปทำความรู้จักลูกสาวของผม ไปลองจับเจ้าละมุดกับแม่มันดูนะ” เขาเปลี่ยนเรื่องฉวยโอกาสคว้าดึงมือเล็กเดินตามตัวเองเข้าไปในคอกควาย ตอนแรกจะดิ้นขัดขืน แต่พอถูกดึงลากมาถึงควายตัวน้อยและมือสัมผัสที่หัวของมันแล้วเธอก็ยิ้มออกมายอมให้เขาจับมือ
“คุณ...มันน่ารักมากเลย ชื่อละมุดเหมาะกับมันดีนะคะคุณ”
“ใช่ไหม ละมุดน่ารักแล้วเจ้าของละมุดล่ะ น่ารักรึเปล่า”
“บ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้ ปล่อยมือฉันได้แล้ว ฉันจะจับละมุดเองค่ะ”
“ก็ผม...”
“ปล่อยเถอะค่ะ กรุณาให้เกียรติฉันด้วยคุณคมธรรม”
คมธรรมยอมทำตามที่เธอบอกเมื่อมองไปยังคนงานที่ทำงานอยู่คอกข้างๆ แล้วก็ต้องยอม เพราะทุกคนกำลังจ้องมองมาทางเขาและหล่อนอยู่ ชายหนุ่มถอยออกไปให้มัลลิกายืนพูดคุยทำความรู้จักกับเจ้าละมุดน้อยเพียงลำพัง ส่วนตัวเขาก็เดินไปพิงรั้วคอกมองเธอ และเขาก็คิดอะไรได้เลยล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงตัวเองออกมาถ่ายรูปตอนที่มัลลิกาพูดคุยหยอกล้อกับเจ้าละมุดลูกควายตัวน้อย หล่อนช่างน่ารักเหลือเกิน เขากดถ่ายรูปไปยิ้มไปและหัวใจก็เต้นแรงไปเช่นกัน